[b]ผู้จัดจำหน่าย: [/b]Koei [b]ผู้พัฒนา: [/b]ArtePiazza [b]จำนวนผู้เล่น:[/b] 1 คน [b]ESRB: [/b]10 ปีขึ้นไป[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p][b]RAY:[/b] การเติบโตขึ้นโดยต้องขัดแย้งความต้องการของตนเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในโครงเรื่องของ RPG แปลกๆ อย่าง Opoona ซึ่งเป็นเรื่องของเหล่าเด็กชายต่างดาวที่ออกตามหาครอบครัวของพวกเขาหลังจากประสบอุบัติเหตุบนดาวเคราะห์ประหลาด ระบบการต่อสู้ในเกมนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ คุณจะได้สะบัดจอยนันชัคเพื่อเขวี้ยงอาวุธที่เรียกว่า “Bonbon” การแปลภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างแย่ในเกมนั้นทำให้เกมเสียหาย บทสนทนาของตัวละครหลายตัวสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้แต่กลับจบลงอย่างไม่เป็นท่า ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมพบว่าเกมนี้ก็ยังทำให้ผมยอมรับได้อย่างประหลาด สภาพแวดล้อมที่มีเสน่ห์ดึงดูดและดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยม (ฝีมือของคุณ Hitoshi Sakimoto แห่ง Final Fantasy Tactics) นั้นช่วยเติมเต็มให้กับเกมนี้ ถึงแม้ว่าข้อบกพร่องทั้งหลายของเกมนี้นั้นยากที่จะทำใจรับแต่ผมก็ใช้เวลากับมันไปพอสมควรเหมือนกัน[p][b]SHANE: [/b]ตัวละครตัวกลมน่ารักและการควบคุมโดยใช้นันชัคอย่างเดียวของเกมนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น RPG สำหรับเด็กๆ ที่เพิ่งหัดเล่นเกมแนวนี้ แต่แย่หน่อยที่ระดับความยากของเกมนี้ไม่ได้น่ารักเหมือนตัวละครและมักจะบังคับให้ผู้เล่นมือใหม่ลำบากกับการเผชิญกับการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนในการเอาชีวิตรอดในพื้นที่ที่ค่อนข้างยาก ขณะที่นักเล่นเกมรุ่นเก๋าที่คุ้นเคยกับเกมอย่าง Dragon Quest จะพึงพอใจกับเพลงประกอบที่ไพเราะและการออกแบบหลายจุดที่ชวนคิดถึง แต่จุดด้อยก็คือบทสนทนาแย่ๆ และการต่อสู้แบบแปลกๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก[p][b]ALICE: [/b]นักเล่นเกมผู้ช่ำชองที่มองหา RPG อาจยอมรับรูปแบบการควบคุมด้วยนันชัคอย่างเดียวของเกมนี้ได้ แต่ฉันพบว่ามันก็ออกจะทำให้พลังของ Wii สูญเปล่า การใช้วีโมทนั้นจะทำงานได้ดีกว่าในการควบคุมบางอย่าง และลืมเรื่องการสุ่มเผชิญหน้ากับศัตรูที่แสนบ่อยไปได้เลย สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือระบบ Citizen Ranking ที่ควรจะน่าสนใจกว่านี้และระบบ License Acquiring ที่ยุ่งยากโดยใช่เหตุเพราะเงื่อนไขที่น่าเบื่อหน่าย แต่ก็อย่างที่ทั้งสองคนบอกเอาไว้ ดนตรีประกอบและสภาพแวดล้อมนั้นพอจะทำให้รู้สึกดีขึ้น