วันที่ 15 พฤษภาคม 2012 หรือวันนี้เมื่อ 13 ปีที่แล้วเป็นวันวางจำหน่ายของเกม Diablo 3 บน PC พร้อมกันทั่วโลก ซึ่งกว่าที่เกมเมอร์ทั่วโลกจะได้เล่นภาค 3 พวกเขาต้องรอกันนานถึง 12 ปีนับตั้งแต่เกมภาค 2 วางขายเลยทีเดียว
อนึ่ง เกมนี้เคยสร้างสถิติและปรากฏการณ์แก่วงการเกมเอาไว้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเป็นเกมที่ทำยอดขายบน PC เร็วที่สุด โดยขายได้ 3.5 ล้านชุดภายใน 24 ชั่วโมงแรกของการวางจำหน่าย อีกทั้งยังทำยอดขายดีที่สุดบน PC ประจำปี 2012 ด้วยตัวเลขกว่า 12 ล้านชุด และใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการทำยอดขายรวมทุกแพลตฟอร์มได้มากกว่า 30 ล้านชุด
สำหรับเกมภาคนี้ ในเวอร์ชั่นแรกผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นฮีโร่จาก 6 อาชีพ ได้แก่ Barbarian, Crusader, Demon Hunter, Monk, Necromancer, Witch Doctor และ Wizard กระทั่งภายหลังได้มีการปล่อยคอนเทนต์เสริมที่ชื่อว่า The Rise of Necromancer ที่เพิ่มอาชีพ Necromancer เข้ามาเป็นอาชีพที่ 7
ขณะเดียวกัน ตัวเกมยังมีการปรับปรุงระบบเควสต์ให้ดีขึ้น รวมถึงใส่ระบบสุ่มเลเวลศัตรูที่เราจะเจอบนแมป เลเวลพวกมันจะไม่ตายตัวอีกต่อไป เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์แปลกใหม่เสมอเวลากลับมาเล่นซ้ำ
นอกจากนั้นแล้ว ระบบน้ำยาโพชั่นก็มีการสังคายนาใหม่ จากเดิมในภาค 2 ที่ผู้เล่นต้องแบกโพชั่นสีแดง, น้ำเงิน และม่วง คละกันหลายสิบขวด พออยู่ในช่วงชุลมุนก็ต้องมาสแปมน้ำยากันรัว ๆ แต่พอในภาค 3 ได้ปรับแก้ให้การใช้โพชั่นแต่ละครั้งจะมีคูลดาวน์นานหลายวินาที พร้อมกับปรับให้ศัตรูมีดรอปลูกแก้วสีแดงที่เมื่อเราไปเก็บปุ๊บจะฟื้นพลังชีวิตได้ทันที ซึ่งสะดวกกับผู้เล่นตรงที่ไม่ต้องมาพะวงกับการกดน้ำยาบ่อย ๆ และให้หันไปโฟกัสกับการกดสกิลได้เต็มที่
ตอนที่เกมวางขายใหม่ ๆ ทาง Blizzard ได้นำระบบห้องประมูลไอเทมในเกมเข้ามาใช้ โดยแบ่งเป็นห้องที่ผู้เล่นนำของมาเปิดประมูลโดยชำระสินค้าเป็นเงินในเกม กับอีกห้องที่รับชำระสินค้าเป็นเงินจริง ซึ่งไอเทมเกือบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ชุดป้องกัน อัญมณี แร่ ล้วนนำมาเปิดประมูลได้หมด แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับบางประเทศได้ เช่น เกาหลีใต้ ที่ในเชิงกฎหมายมองว่าเข้าข่ายการพนันครับ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เกมจะถูกพอร์ตลง PS3 และ Xbox 360 เพียงไม่กี่เดือน ทางคุณ Jay Wilson ที่เป็นผู้กำกับของเกมได้ออกมายอมรับว่าระบบประมูลนั้นทำร้ายแก่นของเกมเพลย์และเจตนารมณ์ในตัวเกมที่ผู้พัฒนาตั้งใจจะให้ผู้เล่นได้รับ เพราะมันทำให้คนเอาแต่มุ่งที่จะเล่นเกมเพื่อเงิน มากกว่าจะเล่นเพื่อสัมผัสความสนุกของตัวเกมจริง ๆ จนทำให้ราคาไอเทมต่าง ๆ ผันผวนหมด จึงเป็นที่มาของการประกาศยุติระบบประมูลทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2014 หรือก่อนเกมจะถูกพอร์ตลง PS4 และ Xbox One นั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้นก็มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยไม่พอใจกับคอนเทนต์ช่วง Endgame ที่ไม่มีความน่าดึงดูดมากพอ ซึ่งยังดีที่ Blizzard ไหวตัวทันและปรับแก้ปัญหานี้ควบคู่กับการปิดระบบประมูล จนตัวเกมมีความสมบูรณ์มากขึ้นในภาคเสริม Reaper of Souls และยืนระยะได้จนภาค 4 วางขายครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station