Assassin's Creed : Director’s Cut Edttion ชื่อที่ยาวขึ้นหมายถึงภารกิจเพิ่มขึ้น... การควบคุมที่เหนือกว่า... และไม่กินสเป็กเหมือนข่าวลือ

แชร์เรื่องนี้:
Assassin's Creed : Director’s Cut Edttion ชื่อที่ยาวขึ้นหมายถึงภารกิจเพิ่มขึ้น... การควบคุมที่เหนือกว่า... และไม่กินสเป็กเหมือนข่าวลือ
[b]ประเภท: [/b]ACTION ADVENTURE[b]ผู้พัฒนา:[/b] UBISOFT MONTREAL[b]ผู้ผลิต:[/b] UBISOFT[b]ผู้จัดจำหน่าย:[/b] NEW ERA[b]เว็บไซต์:[/b] www.assassinscreed.uk.ubi.com[p]ในขณะที่คุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ Assassin’s Creed เวอร์ชั่นพีซีนั้นก็อาจจะวางตลาดไปแล้วก็ได้ (ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อหนังสือของเราช้าหรือเร็ว) Assassin’s Creed เวอร์ชั่นคอนโซลนั้นได้รับคะแนนรีวิวที่ดีมากจากสื่อหลายๆ สื่อ ดังนั้นคำถามที่มักจะวนเวียนอยู่ในหัวของเกมเมอร์พีซีอย่างเราก็มักจะเป็น... แล้วเกมมันจะพอร์ทมาลงพีซีได้ดีขนาดไหน ซึ่งถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่ติดตามข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต คุณจะพบว่า Assassin’s Creed เวอร์ชั่นพีซีมีประเด็นน่ากังขาใหญ่ๆ อยู่สองประเด็นด้วยกัน แต่บทความนี้จะช่วยท่านบัดเป่าข้อกังวลดังกล่าว และยังจะแสดงให้เห็นอีกว่าเวอร์ชั่นพีซีนั้นมีจุดเด่นที่เหนือกว่าคอนโซลตรงไหน แต่ก่อนอื่นเราไปย้อนรอยทำความเข้าใจกันก่อนว่า Assassin’s Creed มีความเป็นมาอย่างไร[p]Assassin’s Creed เป็นการดำเนินเรื่องราวระหว่างยุคปัจจุบันและการค้นหาอดีต (900 ปีก่อน สมัยสงครามครูเสด) เนื้อเรื่องในเกมเราจะได้เล่นเป็น อัลแทร์ (Alteir) ในอดีตและทายาทในปัจจุบัน เดมอนด์ ไมล์ (Demon Miles ยังไม่ค่อยมีบทบาทมากเท่าไรนักในภาคนี้) ซึ่งเขาได้ถูกกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ลักพาตัวมาเข้าโครงการทดลองถอดรหัสทาง DNA เพื่อค้นหาความทรงจำถึงที่ซ่อนของ Artifact แห่ง Solomon ซึ่งเป็นศูนย์รวมอำนาจทุกอย่าง โดยภายในเกมเราจะได้รับบทเป็นสายลับนักฆ่าที่มีชื่อว่า Alteir (ซึ่งแท้จริงแล้วคือ ความทรงจำที่ฝังอยู่ใน DNA ของ Miles ที่เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจาก Alteir) เขามีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามครูเสดครั้งที่สาม โดยประจำอยู่ในหน่วยที่มีชื่อว่า "Hashshashin" ซึ่งเป็นคำดั้งเดิมของคำว่า Assassins นั่นเอง ซึ่งในสมัยนั้นเกิดการแบ่งแยกดินแดนศักดิ์ศิษย์ออกเป็นสองฝ่ายคือกษัตริย์ ริชาร์ด (Richard The Lion Heart) ผู้นำกองทัพคริสตจักร กับซาลาดิน (Saladin) ผู้นำกองทัพมุสลิม โดยทางองค์กรลับอย่าง Hashshashin (ไม่เข้าร่วมกับทั้งสองฝ่าย) ตระหนักว่าต้องเกิดสงครามการนองเลือดขึ้นแน่ ดังนั้นจึงได้มอบหมายหน้าที่ตามล่าสังหารบุคคลสำคัญตามประวัติศาสตร์ 9 คนที่เป็นตัวจุดชนวนทำให้เกิดสงครามครูเสด เพื่อให้ดินแดนศักดิ์ศิษย์กลับคืนสู่สันติสุขอีกครั้ง นี่คือเนื้อเรื่องย่อของเกม Assassin’s Creed[p]หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยเล่นเกมอย่าง Prince of Persia ล่ะก็น่าจะช่วยให้เห็นภาพของเกม Assassin's Creed ได้มากขึ้น ทั้งสิ่งก่อสร้าง บ้านเมืองหรือบรรยากาศต่างๆ ภายในเกม แต่ในเกม Assassin's Creed คุณจะได้ความรู้สึกสมจริงมากกว่าโดยเฉพาะในส่วนของการเล่นแบบลอบเร้นซึ่งเป็นจุดขายของเกมเกมนี้ ตัวเกมจะแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็นช่วงๆ ซึ่งในช่วงหนึ่งก็จะมีภารกิจย่อยให้คุณเลือกทำมากมาย และด้วยพื้นที่เปิดกว้างแบบที่ให้อิสระคุณในการไปไหนมาไหนได้ตามใจคุณ[color=red][b]ภารกิจที่มากกว่า [/b][/color][p]สังหารบุคคลสำคัญๆ เหมือนเดิมแต่จุดเด่นของ Assassin's Creed คือการเป็นเกมเปิดที่วิธีการเข้าถึงเป้าหมายนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณ โดยก่อนที่จะทำการลอบสังหารใครสักคนคุณจำเป็นต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายก่อนว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร คุณจำเป็นจะต้องไปตามที่ต่างๆ ภายในเมืองเพื่อพบปะผู้คนที่รู้ข้อมูลเหล่านี้ คุณอาจจะไปแอบฟังพ่อค้าสองคนคุยกันเกี่ยวกับสหายของพวกเขาด้วยท่าที่แปลกๆ ไป พอรู้สึกผิดสังเกตคุณจึงตามไปหาพ่อค้าคนดังกล่าว ทำให้คุณพบว่าเขากำลังจะไปส่งจดหมายลับที่เกี่ยวกับที่อยู่ของเป้าหมายของคุณ เมื่อสะกดรอยตามไปคุณก็จะสามารถล้วงกระเป๋าเอาจดหมายซึ่งมีเนื้อความบอกว่าเป้าหมายของคุณอยู่ที่ไหนมาในที่สุด นอกจากนี้แล้วคุณสามารถหาข้อมูลจากวิธีอื่นๆ ก็ได้อย่างเช่น หามุมมืดและลากคนที่คุณคิดว่าน่าสงสัยไปซ้อมเพื่อรีดเอาความลับออกมา หรือจะตามหาสหายนักฆ่าที่อยู่ในเมืองเดียวกันและช่วยเขาทำภารกิจเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเก็บตรงให้ครบจำนวนตามเวลาที่กำหนดไว้หรือตามสังหารเหล่าทหารนอกรีต เพื่อแลกกับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องตามสังหาร [p]แต่สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อเข้าเมืองมาก็คือ ให้หาจุด View Point โดยจุด View Point คือสถานที่ในการมองหา Location ในการทำภารกิจ เป็นสถานที่ที่มีลักษณะเป็นหอคอยสูงๆ มีอยู่ทั่วไปภายในเมือง เมื่อแอบฟัง, ล้วงกระเป๋า, ตามคนไปชกข่มขู่รีดข้อมูล, ช่วยฆ่าคน เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ต้องการสังหารได้ครบแล้ว ให้กลับไปที่ “Bureau”หรือสำนักงานมอบหมายใบสั่งฆ่านั้นเอง Bureau จะให้ขนนกติดตัวเราไว้ เมื่อปฏิบัติภารกิจในการสังหารเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว Alteir จะใช้ขนนกชุบเลือดของผู้ถูกสังหาร เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงต่อ Bureau ว่าเราได้ทำภารกิจเรียบร้อยแล้ว เมื่อเล่นผ่านในแต่ละฉากแล้ว จะได้รับการปลดล็อกท่าในการต่อสู้รูปแบบต่างๆ ได้ โดยจะแบ่งเป็นการฝึกการต่อสู้ทั่วๆ ไป เช่น ท่าคอมโบในการสังหาร การต่อสู้แบบประชิดตัว หรือการฝึกขว้างมีดสั้น เมื่อเราผ่านไปยังฉากหลังๆ สามารถปลดล็อกท่าเหล่านี้ได้เพิ่มอีก[color=red][b]เข้าเชือดได้แบบไม่สะดุด[/b][/color][p]จุดเด่นที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้นั้นคือการต่อสู้ ด้วยเหตุที่ว่าในยุคนั้นยังไม่มีปืนไรเฟิลซุ่มยิง หรือระเบิดมือ การต่อสู้มักจะมาในรูปแบบของการประดาบแบบดุเดือดเลือดพล่านในระยะประชิดจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นตัวของอัศวินที่หมายจะเอาชีวิตคุณ แต่ความสมจริงไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะหากคุณโดนดาบหรือธนูเข้าอย่างจังๆ ครั้งเดียวก็มีโอกาสตายได้ แต่เพื่อทำให้เกมไม่น่าเบื่อจนเกินไป (เพราะการตายบ่อย) ตัวละครแต่ละตัวจึงสามารถป้องกันตัวเองได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นในขณะต่อสู้จึงควรอาศัยจังหวะจู่โจมหรือโจมตีสวนเข้าไปในขณะที่ศัตรูเปิดช่องว่างจึงนับเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการต่อสู้[p]การควบคุมโดยเกมแพดคือสิ่งที่ทำให้การต่อสู้ของ Assassin's Creed เวอร์ชั่นคอนโซลเป็นจุดเด่น แต่เกมเมอร์อย่างเราก็รู้กันดีว่าจุดเด่นนี้อาจจะสูญหายไประหว่างการพอร์ทได้ง่ายๆ แต่เรามีความยินดีที่จะรายงานว่าระบบการควบคุมของ Assassin's Creed นั้นได้รับการพอร์ทมาแบบ “ใช้ได้” ที่ใช้คำว่าใช้ได้ก็เพราะมันเป็นระบบการควบคุมที่เหมือนกับคอนโซลแป๊ะๆ แค่เปลี่ยนจากปุ่มบนจอยแพดมาเป็นปุ่มบนเมาส์และคียบอร์ด แต่ไม่ได้มีการปรับปรุงเพื่อใช้จุดแข็งของเมาส์และคีบอร์ดอย่างแท้จริง (เนื่องจากจอยแพดมีปุ่มจำกัด ชุดคำสั่งการป้องกันและโจมตีของ Altier จึงถูกแบ่งออกเป็นสองชุด โดยในเวอร์ชั่นคอนโซลคุณต้องเปลี่ยนไปมาระหว่างชุดคำสั่งการป้องกันและการโจมตี ซึ่งมันเป็นเรื่องลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่กำลังสู้กันอย่างชุลมุน แต่ข้อเสียตรงนี้หากทีมงานออกแบบการควบคุมให้เหมาะสมกับเมาส์กับคีย์บอร์ดที่มีปุ่มให้เลือกใช้มากกว่าแล้วละก็ ระบบการต่อสู้ของ Assassin's Creed เวอร์ชั่นพีซีจะต้องออกมาดีกว่าคอนโซลมากอย่างแน่นอน[color=red][b]กินสเป็กหรือ? ข่าวลือทั้งเพ[/b][/color][p]มาพูดถึงด้านกราฟิกภายในเกมกันบ้างดีกว่า ต้องย่อมรับว่า Assassin’s Creed นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีกราฟิกสวยงาม อลังการงานสร้างเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่เราไปยืนที่จุด View Point แล้วมองไปรอบๆ เมือง ให้ความรู้สึกเหมือนยืนชมวิวอยู่จริงๆ นอกจากนี้สภาพบ้านเรือนในแต่ละเมืองก็ถูกออกแบบได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกว่ากำลังอยู่ในยุคของสงครามครูเสดจริงๆ แต่หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยสเป็กคอมพิวเตอร์ที่สูงเอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงก่อนที่เกมจะออกวางจำหน่าย มีข่าวลือออกมาว่าสเป็กขั้นต่ำสุดของ Assassin’s Creed น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.2GHz Core2Duo (หรือทัดเทียม), RAM 1GB สำหรับ XP และ 2GB สำหรับ Vista และการ์ดจอที่มี RAM อย่างต่ำ 256MB ซึ่งถ้าหากเราดูสเป็กจริงๆ แล้วก็จะเห็นว่าไม่ได้สูงอะไรมากมายสำหรับเกมเมอร์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมเมอร์ที่อ่านนิตยสารของเรา เพราะคอลัมน์ HardStuff ของเรามีการแนะนำฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพดีๆ ให้เพื่อนๆ มาโดยตลอดอยู่แล้ว) เรียกง่ายๆ ว่าถ้าเครื่องพีซีสำหรับเล่นเกมของคุณมีอายุไม่เกินสองปีแล้วละก็ น่าจะสามารถเล่น Assassin’s Creed ได้อย่างไม่มีบัญหา[p]ส่วนข่าวลือที่ว่าถ้าหากคุณใช้ Vista ละก็คุณจำเป็นจะต้องมี RAM อย่างต่ำ 3GB ถึงจะเล่น Assassin’s Creed ได้อย่างไหลลื่นนั้นหรือ? มันก็เป็นเรื่องที่ไม่จริงอีกเช่นกัน เพราะเครื่องที่ผมใช้อยู่ก็ใช้ Vista และก็มี RAM “เพียง” 2GB เท่านั้น แต่ผมก็สามารถเล่น Assassin’s Creed ได้อย่างไม่กระตุกทั้งๆ ที่ผมตั้งค่าต่างๆ ไว้ที่สูงสุด แต่ถ้าเครื่องของคุณไม่แรง ทาง Ubisoft ก็มิได้มองข้ามคุณไปแต่ประการใด เพราะได้มีการเพิ่มแถบตั้งค่าจำนวน NPC ในเมือง ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดการกระตุกของเกมได้เป็นอย่างดี[p]หลังจากที่ Assassin's Creed ได้ออกวางจำหน่ายในเวอร์ชั่นเกมคอนโซลและได้ผลตอบรับที่ดีมาจากทั่วโลก ด้วยยอดขายกว่า 5 ล้านแผ่นทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวการันตีคุณภาพของเกมได้เป็นอย่างดี และการพอร์ทมาลงเวอร์ชั่นพีซีก็ทำออกมาได้ดี มีการบังคับที่ลื่นไหล ไม่สะดุดให้เสียอารมณ์ และที่สำคัญมีการเพิ่มภารกิจในการหาข่าวสารอีกถึง 4 ภารกิจ ตัวเกมโดยรวมนั้นทำออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ รู้สึกได้บรรยากาศว่าอยู่ในยุคสงครามครูเสดจริงๆ กราฟิกก็สวยงามในระดับสุดยอด ในแต่ละเมืองจะมีลักษณะและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป มีน้อยเกมมากที่สามารถสร้างเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมกับมีตัวละครที่มีการแสดงออกและตอบสนองอย่างสมจริงสมจัง เมื่อนำมาบวกกับรูปแบบการเล่นที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ Assassin’s Creed เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าเกมเมอร์อย่างพวกเราไม่ควรพลาดครับ[center][img=64764]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ภาพนี้คือคำตอบว่าทำไมการวิ่งหนีจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด[img=64765]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]มีอะไรจะสั่งเสียก็ทำให้เรียบร้อย เดี๋ยวเจ้าจะกลายเป็นศพแล้ว[img=64766]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]บอกแล้วไง ว่าไม่ซื้อพรมอ่ะ[img=64767]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]การกระโดด โจนทะยาน นับเป็นเอกลักษณ์ของพระเอกของเราเลยทีเดียว[img=64768]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ข้างล่างคนเยอะแฮะ มาเดินกินลมข้างบนดีกว่า[img=64769]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]คงไม่ต้องบอกว่าวินาทีต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับพลธนูผู้เคราะห์ร้าย[img=64770]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]Alteir ในภาษาอาหรับแปลว่า “อินทรีเหิน”[/center]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ