เปิดตัวภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์ที่สุดในชีวิตของ นนทรีย์ กับปืนใหญ่จอมสลัด

แชร์เรื่องนี้:
เปิดตัวภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์ที่สุดในชีวิตของ นนทรีย์ กับปืนใหญ่จอมสลัด
[center][img=64523]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_posterho.jpg[/img][/center][size=2][p]วันนี้ เวลา 13.30 น. โรงภาพยนตร์ SF ซินีเพลกซ์ ชั้น 9 อาคาร เซนทร้ล เวิร์ล ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับหนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ นนทีย์ นิมิตรบุตร ในงาน[b] "10 ปี กับนนทรีย์ นิมิตรบุตร"[/b] ที่พูดถึงผลงานและการทำงานมาตลอดระยะเวลา 10 ปี กับภาพยนตร์มหากาพย์แฟนตาซีเรื่องล่าสุดของเขา "ปืนใหญ่จอมสลัด" ที่งานนี้มีทีมนักแสดงที่เคยร่วมงานกับพี่อุ๋ย นนทรี มาแสดงความเห็นและร่วมแสดงความยินดีมากมาย[p]ภายในงานนอกจากจะมีการบอกเล่าความเป็นมาของการทำภาพยนตร์เรื่องปืนใหญ่จอมสลัดแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สื่อได้ร่วมชมตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการของปืนใหญ่จอมสลัดที่เปิดฉายเป็นที่แรกในโลกด้วย[center][img=64524]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_02.JPG[/img][img=64525]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_03.JPG[/img][/center]โดยนนทีย์ นิมิตรบุตรได้กล่าวถึงการทำภาพยนตร์เมื่อ 10 ปีก่อน จนมาถึงวันนี้ว่า "จริงๆ แล้วมันก็ครบรอบ 10 ปีแล้วกับการทำหนังใหญ่ คือผมถือว่าเรื่องนี้เป็นการทำหนังใหญ่ในโอกาสครบรอบ 10 ปีที่อยู่ในวงการภาพยนตร์มา สิ่งที่เราอยากจะคืนให่กับวงการภาพยนตร์ก็คือ การทำหนังที่มันมีความแตกต่างจากสิ่งที่เขาเคยมีอยู่มาโดยตลอด[p]ผมเชื่อว่าสิ่งที่เราทำ เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่ามันดีที่สุดแล้ว แล้วก็พยายามกันทำทุกวิถีทาง ทำทุกอย่างให้มันออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ กับปืนใหญ่จอมสลัด เป็นภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ผมเคยทำมา ซึ่งผมว่ามันก็ถึงเวลาของมันแล้ว โปรเจ็คต์ใหญ่ๆ แบบนี้ ต้องใช้ทั้งพลังและเวลาอย่างมาก ซึ่งเราก็ต้องทำในช่วงเวลาที่เรายังทำไหวอยู่ ยังสามารถเอามันได้อยู่ ถ้าผมจะคาดหวังอะไรจากมัน ผมจะหวังให้บอกตัวเองอยู่เสมอว่า จะทำหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย เพื่อผมจะได้เต็มที่กับมันทุกครั้ง"[p]โดยในงานได้รับเกียรติจากเสียเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ และตัวแทนจากบริษัทร่วมทุนขึ้นถ่ายรูปร่วมกับทีมงานและนักแสดง[center][img=64526]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_05.JPG[/img][/center][color=darkblue][b]เรื่องย่อภาพยนตร์ปืนใหญ่จอมสลัด[/b][/color][p]400 ปีที่แล้ว ลังกาสุกะ รัฐอิสระต้องสูญเสีย รายาบาฮาดูร์ ชาห์ จากการถูกลอบปลงพระชนม์ ราชวงศ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการสถาปนา องค์หญิงฮีเจา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ธิดาคนโตขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่งลังกาสุกะ แม้รายาฮีเจาจะปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง แต่เหล่าแคว้นรอบด้าน รวมทั้งกลุ่มกบฏและโจรสลัดต่าง ๆ ล้วนหมายจะยึดครองดินแดนอันมั่งคั่งแห่งนี้ [p]จนกระทั่ง ยานิส บรี ปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัชท์ เดินทางมาพร้อมกับศิษย์เอกนักประดิษฐ์ชาวจีนนาม ลิ่มเคี่ยม (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) เพื่อนำมหาปืนใหญ่ อาวุธที่ดีที่สุดไปถวายรายาฮีเจาใช้ป้องกันบ้านเมือง แต่กลับถูกกลุ่มโจรสลัดที่นำโดย เจ้าชายราไว (เอก โอรี) และ อีกาดำ (วินัย ไกรบุตร) จอมสลัดผู้มีวิชาดูหลำอันแก่กล้า ซุ่มโจมตีเพื่อชิงมหาปืนใหญ่ จนทำให้เรือฮอลันดาระเบิด ยานิส บรีถึงแก่ความตาย กระบอกปืนใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล เหลือเพียงแต่ลิ่มเคี่ยมเท่านั้นที่ยังรอดชีวิตอยู่ [center][img=64527]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_04.jpg[/img] [img=64528]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_07.jpg[/img][/center][p]เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นเวลากำเนิดของ ปารี (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เด็กชายชาวเลผู้มีคุณสมบัติพิเศษในตัวที่จะสามารถฝึกวิชาดูหลำขั้นสูงได้ ปารีเติบโตเป็นหนุ่ม พร้อมกับสั่งสมทั้งความสามารถและความแค้นในการสะสางอีกาดำที่ทำให้พ่อและแม่ของตนต้องตาย ลิ่มเคี่ยมซึ่งช่วยชีวิตปารีในครั้งนั้นไว้ได้ หลบมาใช้ชีวิตอยู่กับหมู่บ้านชาวเล พร้อมประดิษฐ์อาวุธพิสดารมากมาย และตั้งกลุ่มก่อกวนตัดกำลังโจรสลัดขึ้น [p]แม้ลังกาสุกะจะมีทหารเอกฝีมือเยี่ยมอย่าง ยะรัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) แต่ฮีเจาก็ยังจำเป็นต้องให้ อูงู (แอนนา แฮมบาวริส) น้องสาวคนเล็กของตนอภิเษกกับ เจ้าชายปาหัง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ลังกาสุกะ แม้อูงูจะไม่เต็มใจก็ตาม ขณะที่ยะรังนั้นกลับตกหลุมรัก บิรู (ณัฐรดา อภิธนานนท์) องค์หญิงคนรอง แต่กลับไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกนั้นได้ [p]การต่อสู้ของหลายฝ่ายเริ่มขึ้น จนทำให้ปารีได้มาพบกับอูงู ทั้งคู่หลงไปติดเกาะร้างแห่งหนึ่ง เพื่อรักษาตัวจากบาดแผล ที่นั่นปารีได้ฝึกวิชาดูหลำชั้นสูงจาก อาจารย์กระเบนขาว (สรพงษ์ ชาตรี) ปรมาจารย์ทางดูหลำ และค้นพบว่า ดูหลำคือวิชาที่มีทั้งด้านสว่างที่ทรงพลังและด้านมืดที่น่ากลัว ยากจะควบคุมจิตใจเอาไว้ได้ พร้อมกับที่ความรักของทั้งปารีและอูงูได้งอกงามขึ้น ขณะเดียวกัน ลิ่มเคี่ยมกุญแจสำคัญในการสร้างปืนใหญ่ กลับถูกกลุ่มสลัดจับตัวเป็นเชลยไว้ได้ และถูกบังคับให้ต้องสร้างปืนใหญ่ที่จะนำมาใช้ทำลายล้างรัฐลังกาสุกะ [center][img=64529]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_209jomsarad25.jpg[/img] [img=64530]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_209jomsarad26.jpg[/img][/center][p]สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยลังกาสุกะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะกองทัพโจรสลัดกลับสามารถกู้มหาปืนใหญ่ในตำนานนั้นจากก้นทะเลไว้ได้ ลังกาสุกะเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง มีเพียง ยะรังนักรบผู้กล้า ปัญญาของลิ่มเคี่ยม อูงูผู้พร้อมสละทั้งชีวิตและความรักเพื่อแผ่นดิน และพลังดูหลำอันลึกลับของปารีเท่านั้น ที่จะต่อกรกับแสนยานุภาพจากกองทัพโจรสลัดเอาไว้ได้ [p][b]"ปืนใหญ่จอมสลัด"[/b] เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีเรื่องราวอยู่บนพื้นฐานของความจริง โดยผสมผสานกลิ่นอายของแฟนตาซี เพื่อเพิ่มอรรถรสความสนุกสนานในแนวทางของภาพยนตร์ โดยเดินเรื่องด้วยตำนานความเสียสละเพื่อแผ่นดินของราชินี 3 พระองค์แห่งลังกาสุกะ พร้อมสอดแทรกชีวิตที่น่าสนใจของชนเผ่าชาวเล และโจรสลัดที่ต่างก็มีจุดประสงค์ในการดำเนินชีวิตเพื่อแผ่นดินเกิดที่ต่างกันไป [p]ซึ่งอภิมหาโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปีนี้ทุ่มทุนสร้างด้วย งบประมาณ 300 ล้านบาท ภายใต้การกำกับภาพยนตร์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสิบปีของผู้กำกับคุณภาพ นนทรีย์ นิมิบุตร โดยเสริมรากฐานความแข็งแกร่งของโปรเจ็คต์ด้วยนักเขียนรางวัลซีไรต์ วินทร์ เรียววาริณ กับครั้งแรกในการเขียนบทภาพยนตร์, ผู้ออกแบบงานสร้าง เอก เอี่ยมชื่น กับครั้งสำคัญที่จะเสกสรรค์ปั้นจินตนาการให้ออกมาสมจริงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง, ดูแลการผลิตโดย เชิดพงษ์ เหล่ายนตร์ และที่ปรึกษาดูแลงานทางด้านภาพโดย ชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์ [p]กว่า 5 ปี ในการเตรียมงานสร้างและถ่ายทำ ด้วยทีมงานกว่า 1,000 ชีวิต ที่ทุ่มเททุกศาสตร์แห่งศิลป์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวสู่อลังการงานสร้างของโปรเจ็คต์ ถ่ายทอดแต่ละฉากแห่งจินตนาการให้ปรากฏขึ้นจริงบนแผ่นฟิล์ม โดยทีมงานได้เลือกใช้โลเกชั่นทางทะเลหลากหลายแห่งในเมืองไทย ตั้งแต่การเนรมิตฉากหมู่บ้านชาวเลที่ เกาะสีชัง จ. ชลบุรี , เลือกโลเกชั่นใน อ.สัตหีบ เพื่อถ่ายทำเรื่องราวใน ส่วนกลางทะเลและกำแพงวัง รวมถึงเลือก จังหวัดกระบี่และพังงา เพื่อถ่ายทำ ฉากถ้ำบนเกาะ นอกจากนี้ยังมีการสร้างฉากใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในภาพยนตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความพิถีพิถันทุกตารางนิ้วของ ฉากภายในพระราชวังลังกาสุกะ ไปจนถึง การสู้รบบนเรือโจรสลัด ด้วยการสร้างเรือหลายรูปแบบที่สามารถใช้ได้จริง รวมถึง เทคนิคพิเศษด้านภาพกว่า 2,000 ช็อต ที่จะถูกเนรมิตออกมาอย่างสมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในภาพยนตร์ไทยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญอย่าง BLUE FAIRY [center][img]//img.online-station.net/_news/2008/0527/17138_209jomsarad13.jpg[/img][/center] [p]โดยระดมนักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย และรุ่นใหม่ไฟแรงมาปะทะฝีมือกันอย่างคับคั่ง ตั้งแต่การได้นางเอกตลอดกาลอย่าง “จารุณี สุขสวัสดิ์” หวนคืนแผ่นฟิล์มครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมด้วยรุ่นใหญ่ฝีมือเอกอุอย่าง “สรพงษ์ ชาตรี” ประชันบทบาทครั้งสำคัญในชีวิตของ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” พระเอกเจ้าเสน่ห์ผู้พลิกคาแร็คเตอร์อย่างหาตัวจับยาก และ “เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง” พระเอกความสามารถสูงในด้านแอ็คชั่นเสี่ยงตาย รวมถึงนักแสดงหน้าใหม่อีกมากมาย [p]และที่ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร กับเหล่านักแสดงระดับแม่เหล็กของเมืองไทยอย่าง “ติ๊ก เจษฏาภรณ์ ผลดี” “ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ” “อรรถพร ธีมากร” และ "ชาติชาย งามสรรพ์"(2499 อันธพาลครองเมือง) “วินัย ไกรบุตร” (นางนาก) และ “สุวินิต ปัญจมะวัต” (จันดารา และ อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ตอน The Wheel) [color=blue][u][b]ข้อมูลภาพยนตร์จาก[/b][/u][/color] [url]www.thaicinema.org[/url]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ