เรื่องเล่าขานตำนานในเกม ตำนานใน God of War: Chain Of Olympus

แชร์เรื่องนี้:
เรื่องเล่าขานตำนานในเกม ตำนานใน God of War: Chain Of Olympus
[center][img=62045]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ฉบับที่แล้วผมพูดถึงเรื่องตำนานในเกม [b]Devil May Cry 4[/b] เกมแอ็กชั่นสุดมันส์จากฝั่งตะวันออก มาฉบับนี้ผมจะพูดถึงเกมแอ็กชั่นฝั่งตะวันตกบ้าง ซึ่งเกมนี้ก็มีความสนุกไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน แถมอยู่ในระดับคอเกมแอ็กชั่นห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เกมนั้นก็คือ [b]God of War: Chain Of Olympus [/b]โล้นซ่าส์เครโทสกลับมาคราวนี้ พี่เหม่งของเราเขามาวาดลวดลายอาละวาดบนเครื่องเกมพกพา PSP ถึงขนาดเครื่องจะเล็กลง แต่ยังคงความมันส์ เถื่อนดิบ และสยิวเหมือนเคย [p]ซีรีส์ God of War เป็นเกมที่ใช้ตำนานเทพปกรณัมกรีกมาเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ เทพเจ้า อสูรกาย ผู้คน สถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏในเกมล้วนมีตำนานที่มาทั้งนั้น ภาค Chain Of Olympus ก็เช่นกันครับ เรามาดูกันซิว่าทีมงานผู้สร้างเอาตำนานอะไรมาใช้บ้าง [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b][color=red]Basilisk[/color] [/b] [p]บอสที่โผล่มาในช่วงแรกๆ ของเกม บาซิลิสก์ในตำนานของมันหลายๆ เรื่องไม่ได้มีรูปร่างเป็นกิ้งก่ายักษ์แบบในเกมหรอกครับ โดยจะมีลักษณะเป็นงูยักษ์และมีหงอนเหมือนไก่ บาซิลิสก์จะเกิดจากไข่ไก่ของไก่ตัวผู้ที่มีอายุเยอะๆ และถูกฟักโดยคางคก ซึ่งช่วงเวลาฟักต้องเป็นช่วงที่กลุ่มดาวซิริอุสปรากฎบนท้องฟ้าพอดี พิษของบาซิลิสก์นั้นร้ายแรงมาก แค่เพียงสัมผัสก็สามารถเผาไหม้เป็นจุณได้ ดังนั้นมันจึงถูกยกย่องให้เป็นราชาแห่งงู นอกนั้นบาซิลิสก์ยังมีอำนาจทางดวงตา หากใครจ้องมองตามันจะทำให้เสียชีวิตในทันที แต่บางตำราก็ว่าแค่สาปให้เป็นหิน เหมือนดวงตาของเมดูซ่า ทั้งนี้ก็เพราะชาติกำเนิดของบาซิลิสก์บางส่วนได้บรรยายไว้ว่ามันเกิดจากหยดเลือดของเมดูซ่า ซึ่งเมดูซ่าเป็นอสูรกายผู้หญิงที่มีเส้นผมเป็นงู หากนางจ้องมองใครจะทำให้ผู้นั้นกลายเป็นหิน ดังนั้นบาซิลิสก์ที่กำเนิดมาจากหยดเลือดของนาง เลยทำให้ได้ฤทธิ์เดชนี้ตามมาด้วย [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b][color=red]Helios [/color][/b][p]สุริยเทพเฮลิออส ในยุคโบราณกาลแรกเริ่มสุด เมื่อโลกของเรามีพระอาทิตย์ครั้งแรก เทพไฮพิริอน (Hyperion) ซึ่งอยู่ในคณะไททัน เป็นผู้ถือครองตำแหน่งสุริยเทพ โดยเทพเจ้าองค์นี้มีบุตรอยู่สามองค์ องค์แรกคือเทพเฮลิออส ซึ่งในเวลาต่อมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งสุริยเทพต่อจากพระบิดา ส่วนเทพธิดาอีกสององค์ก็คือ จันทราเทวีเซเลเน (Selene) และอรุณเทวีอีออส (Eos) ซึ่งในเกมเราจะได้พบเจออรุณเทวีอีออส (ทีมงานผู้สร้างออกแบบเธอได้ถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณท่านดีแท้) [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]สุริยเทพเฮลิออส หน้าที่ของพระองค์ก็คือ ขับรถม้าตั้งแต่เช้าจรดเย็น วิ่งผ่านฟากฟ้า ให้แสงสว่างแก่โลกมนุษย์ ทำทุกวันไม่มีวันหยุด หยุดเมื่อไรโลกจบสิ้นเมื่อนั้น ในตำนานเทพปกรณัมกรีก เรามักจะได้ยินว่า สุริยเทพคือเทพอพอลโลมากกว่า เผลอๆ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเทพเฮลิออสด้วยซ้ำไป ก็ไม่ผิดหรอกครับ เพราะในยุคเทพไททันครองพิภพ เทพเฮลิออสคือผู้ถือครองตำแหน่งนี้ แต่หลังจากมหาเทพซุสปฏิวัติสวรรค์จับพวกเทพไททันขังคุกทาร์ทะรัสแล้วก่อตั้งโอลิมปัส ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะเทพเสียใหม่หมด ตำแหน่งสุริยเทพก็เช่นกัน มหาเทพซุสได้แต่งตั้งให้อพอลโลเป็นสุริยเทพแทน รวมทั้งตำแหน่งจันทราเทวีของเซเลเนก็ยกให้เทพีอาร์เทมิส ผู้เป็นน้องสาวของเทพอพอลโล แต่บางตำนานเขาถือว่าสุริยเทพก็ยังคงเป็นเฮลิออสอยู่ (หมายถึงตัวพระอาทิตย์) ส่วนอพอลโลเป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ฟังดูวุ่นวายจัง แม้แต่เทพเจ้าก็มีปัญหาเรื่องการเมืองโยกย้ายตำแหน่งเหมือนกันแฮะ [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b][color=red]Charon[/color][/b] [p]แครอน ตาแก่แจวเรือแม่น้ำยมโลก ธรรมเนียมความเชื่อในเรื่องแครอนคล้ายๆ กับเงินปากผีของบ้านเราประเพณีแต่โบราณ เวลาทำศพเขาให้ใส่เงินไว้ในปากผู้ตายก่อนนำศพลงโลง ซึ่งธรรมเนียมนี้ไม่ใช่แค่ของไทยเราอย่างเดียว จีน แขก ฝรั่ง ก็ทำเหมือนกัน ทำไมต้องให้เงินกับศพ? ถ้ามองแง่ในความเชื่อทางศาสนาพุทธ ถือเป็นข้อเตือนใจเรื่องเงินทองเป็นของนอกกาย เมื่อตายไปแล้วมันก็จบกัน ขนาดเขาเอาเงินป้อนใส่ปากให้อมไว้ก็ยังเอาติดตัวไปใช้ในชาติหน้าไม่ได้เลย แต่ในแง่ความเชื่อของกรีก เขาให้เงินกับศพเพื่อเป็นค่าจ้างแครอน เพราะว่าเมื่อคนเราสิ้นใจวิญญาณหลุดออกจากร่างลอยมาถึงยมโลก วิญญาณทุกดวงต้องถูกส่งไปพิพากษาตัดสินความดีความชั่วเสียก่อน แต่การเดินทางไปนั้นต้องนั่งเรือไปอย่างเดียวและต้องเสียค่าโดยสารให้คนแจวเรือที่มีชื่อว่าแครอน [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ถ้าวิญญาณไม่มีเงิน ญาติไม่ได้ใส่เงินปากผีมาให้ก็ต้องรอคิวนานมาก จนกว่าแครอนจะใจดียอมให้โดยสารฟรีๆ อ่านมาถึงตรงนี้บางท่านอาจนึกสงสัย แล้วทำไมไม่ว่ายข้ามแม่น้ำไปเองซะล่ะ ตอบว่า ไม่ได้หรอกครับ แม่น้ำในยมโลกนั้นมีหลายสาย แต่ละสายมีจุดหมายปลายทางที่ซับซ้อน ว่ายสุ่มสี่สุ่มห้าอาจตกขุมนรกที่ลึกที่สุดโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ก็หลงทางเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอยู่ในยมโลก อีกอย่างแม่น้ำในยมโลกทั้งลึกทั้งเชี่ยวน่ากลัว ต่อให้เป็นนักว่ายน้ำโอลิมปิกอาจตะคริวกินกลางทาง ได้ม่องเท่งรอบสอง [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ใช่ว่าแครอนจะยึดหลักเงินมางานเดินอย่างเดียวนะครับ ให้โดยสารฟรีๆ ก็มีเหมือนกัน ซึ่งกรณีนี้นานๆ จะมีสักครั้ง หากวิญญาณนั้น สมัยมีชีวิตอยู่เป็นคนดีมีคุณธรรมสูง แครอนจะเชื้อเชิญให้ขึ้นเรืออย่างเต็มใจ โดยไม่คิดค่าจ้างแต่อย่างใด จำไว้ครับ ถ้าเราอยากนั่งเรือของแครอนฟรีๆ ไม่เสียตังค์ เราต้องทำความดีเยอะๆ [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b][color=red]Elysium [/color] [/b][p]ชาวกรีกโบราณเชื่อว่านี่คือดินแดนสุขาวดีของผู้ประกอบแต่กรรมดี เมื่อหมดอายุขัยจะได้ไปอยู่ที่นั่น ตำแหน่งที่ตั้งสถานที่ของอิลิเซียมอยู่ในยมโลกนี่แหละครับ คำว่ายมโลกหรือโลกใต้บาดาลของชาวกรีก มันไม่ได้มีความหมายแค่นรกอย่างเดียว เหมือนที่เราคุ้นเคยนะครับ มันหมายถึงดินแดนหลังความตายทั้งหมด สวรรค์ในความเชื่อของชาวกรีก เขาถือว่าเป็นสถานที่สำหรับเทพเจ้าอาศัยอยู่กัน ส่วนพวกคนดีเมื่อตายไปจะอยู่ที่อิลิเซียม ตามตำนานกล่าวว่า อิลิเซียมเป็นทุ่งดอกไม้ บรรยากาศน่าอยู่อาศัย ที่นั่นมีแต่ความสงบ ผู้คนล้วนมีจิตใจที่ดีงาม แต่ในเกมความสงบหมดไป เมื่อเครโทสมาเยือนถิ่น[b] [color=red]Persephone[/color] เพอเซ็ปโพนี เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิและราชินีแห่งยมโลก [/b] [p]เพอเซ็ปโพนีเป็นบุตรีของมหาเทพซุสกับเทพีแห่งธัญญาหารดิมิเทอร์ (Demeter) มหาเทพทรงรักลูกสาวคนนี้มาก กล่าวกันว่าในยุคโบราณ โลกเรามีแค่ฤดูเดียว พืชพันธุ์ผักผลไม้สามารถเพาะปลูกได้ทั้งปี ธรรมชาติไม่มีเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพราะเทพีดิมิเทอร์คอยดูแลตลอด คราวใดที่พระนางทรงเสด็จมาบนโลกเพื่ออำนวยอวยพรให้พืชผลผลิตเจริญงอกงาม มักจะมีเทพธิดาเพอเซ็ปโพนีติดสอยห้อยตามมาด้วยเสมอ จนกระทั่งมีครั้งนึงเจ้านรกเทพฮาเดสได้เสด็จมาบนโลก และเผอิญได้เจอเทพธิดาเพอเซ็ปโพนีกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานในท้องทุ่ง ด้วยความสดใสร่าเริงโดนใจอย่างแรงของเทพธิดาวัยแรกแย้มอย่างเพอเซ็ปโพนี เทพฮาเดสตกหลุมรักทันที ในใจก็ครุ่นคิด คนนี้ต้องจีบให้ติด ด้วยความใจกล้าหน้าด้าน ว่าแล้วก็เข้าไปฉุดนางขึ้นราชรถ [p]จากนั้นเผ่นหนีลงยมโลกทันที สมกับเป็นการจีบในแบบราชาแห่งยมโลกอย่างฮาเดสจริงๆ ทางฝ่ายเทพีดิมิเทอร์กลับมาไม่เห็นลูกรัก ก็ออกเดินตามหาไปทั่ว จนได้ทราบข่าวแน่ชัดว่า คนที่ลักพาลูกสาวไปก็คือ ฮาเดสเทพเจ้าแห่งยมโลก เมื่อได้ความดังนั้นจึงทรงขอให้มหาเทพซุสช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้เทพฮาเดสคืนตัวลูกสาวกลับมา โดยเทพีดิมิเทอร์ได้ทรงขู่ว่า หากไม่ได้ลูกกลับมาจะทำโลกนี้แห้งแล้ง พืชพันธุ์ธัญญาหารจะไม่งอกเงยขึ้นมาอีกเลย มหาเทพซุสเห็นว่า เดี๋ยวก็ได้อดตายทั้งโลกกันพอดี จึงทรงเรียกเทพฮาเดส เทพีดิมิเทอร์ และเทพธิดาเพอเซ็ปโพนีมาเข้าเฝ้าเป็นการด่วน เทพีดิมิเทอร์ทั้งอ้อนวอนทั้งขู่ต่างๆ นานา แต่เทพฮาเดสยืนกรานยังไงก็ไม่ยอมคืนเด็ดขาด เถียงกันไปเถียงกันมาก่อความปวดเศียรเวียนเกล้าให้มหาเทพซุสยิ่งนัก จึงทรงตั้งเงื่อนไขมาว่า หากช่วงที่เพอเซ็ปโพนีไปอยู่ยมโลก ไม่ได้เสวยอะไรที่เป็นของที่นั่น ฮาเดสต้องยอมคืนนางแต่โดยดี แต่ทว่าเพอเซ็ปโพนีได้เสวยผลทับทิมของยมโลกไป 6 ลูก ดังนั้นมหาเทพซุสได้ตัดสินเป็นเสียงเด็ดขาด ให้เพอเซ็ปโพนีอยู่กับเทพฮาเดสเป็นเวลา 6 เดือนและกลับมาอยู่กับเทพีดิมิเทอร์อีก 6 เดือน ในหนึ่งปีให้สลับหมุนเวียนกันไป ซึ่งคำตัดสินนี้ส่งผลต่อโลกของเรา จากเดิมที่มีฤดูเดียว ถูกแบ่งออกเป็นหลายฤดู ช่วงเวลาที่เพอเซ็ปโพนีกลับมาหาเทพีดิมิเทอร์ พระนางจะทรงปิติดีใจ พืชพันธุ์ธัญญาหารก็จะเจริญงอกงามตาม สามารถทำการเพาะปลูกได้ ช่วงเวลานี้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่ยามใดที่เพอเซ็ปโพนีต้องกลับสู่ยมโลกเพื่อไปครองคู่กับเทพฮาเดส เทพีดิมิเทอร์จะทรงเศร้าโศก โลกเราก็จะแห้งแล้ง กลายเป็นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และนั่นก็คือตำนานที่มาทำไมโลกเราถึงมีหลายฤดู[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center] [p]ถึงแม้การกระทำของเทพฮาเดสแลดูไม่ดีในสายตาคนอื่น มีอย่างที่ไหน อยู่ดีๆ ไปฉุดลูกสาวเขามาทำเมีย แต่เทพฮาเดสรักจริง แถมรักเดียวใจเดียวด้วยครับ ไม่เจ้าชู้ประตูดินแบบเทพองค์อื่นๆ ในโอลิมปัส เต็มที่สุดๆ ก็มีแค่กิ๊กนิดๆ หน่อยๆ แบบนึกครึ้มๆ ใจ แต่ถึงขั้นมีสัมพันธ์ไข่ไปทั่วแบบมหาเทพซุสไม่มีหรอกครับ ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ต้องจากกัน ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะร้องเฮ ปิดบ้านฉลองไปแล้ว แต่เทพฮาเดสจะครองตัวเป็นพ่อหม้ายไม่ข้องแวะกับใครที่ไหน อีกทั้งทรัพย์สินศฤงคารค่ามหาศาล เทพฮาเดสนำมากำนัลให้เพอเซ็ปโพนีอยู่สม่ำเสมอ เข้าข่ายว่ามีอะไรๆ ก็ยกให้เมียหมด ช่างเป็นสามีที่ดีจริงๆ สุดยอดมากๆ หาได้ยากยิ่งในโอลิมปัส[p]จบแล้วครับสำหรับบทความเดือนนี้ หวังว่าเนื้อหาคงสร้างความเพลิดเพลิน บันเทิง และความรู้ ให้แก่ท่านผู้อ่านได้บ้าง หากใครมีข้อสงสัยอยากรู้เพิ่มเติม หรือมีข้อแนะนำติชม พูดคุยบอกเล่าได้เต็มที่ ทางเรายินดีรับฟังเสมอ ขอบคุณครับ
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ