หลังจาก Nintendo ทำแฟน ๆ สะเทือนใจกันไปกับการประกาศว่าเกมบน Nintendo Switch 2 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,900 บาท) ล่าสุด Xbox ก็ออกมาประกาศตามติด ๆ ว่าเกม First-party ของตัวเองในอนาคตจะปรับขึ้นราคาเป็น 80 ดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน ทำเอาเกมเมอร์ทั่วโลกเดือดจัด โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงบ่นว่าแค่ราคา 70 เหรียญฯเดิมก็แทบจะซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว
กระแสร้อนนี้ทำให้หลายคนเห็นตรงกันว่า จะไม่ยอมซื้อเกมในวันวางจำหน่ายอีกต่อไป แต่จะรอช่วงลดราคาดีกว่า เพราะถ้าวางขายโดยที่ราคาเริ่มต้นสูงขนาดนี้ ก็ไม่น่าเสี่ยงเพราะไม่ชัวร์ว่าจะคุ้มกับเงินที่เสียไปหรือเปล่า โดยเฉพาะกับเกมที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีเนื้อหาและคุณภาพในระดับที่น่าพอใจ บางคนถึงกับบ่นว่า “70 ดอลลาร์สหรัฐก็ทำให้เราซื้อเกมน้อยลงแล้ว 80 ดอลลาร์สหรัฐ นี่ไม่ไหวจริง ๆ” หรือ “ต่อให้เป็น GTA 6 ก็ยังต้องคิดหนักเลย”
แม้ว่าหลายคนจะโกรธ Microsoft เต็มที่ แต่ก็มีบางคนพยายามเข้าใจ โดยชี้ว่าสารตั้งต้นในรอบนี้คือ Nintendo ดังนั้นการที่ค่ายเกมใหญ่อื่น ๆ อย่าง Sony และ Xbox จะขึ้นราคา จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
บางคนมองว่านี่อาจเป็นโอกาสอันดีที่เราจะกลับไปเล่นเกมที่เคยซื้อสะสมดองกันไว้ เพราะเกมใหม่ ๆ ที่กำลังจะออกมานั้นแพงขึ้นเรื่อย ๆ บ้างเห็นว่าควรใช้ฟีเจอร์แชร์เกมกับเพื่อนเพื่อที่จะร่วมหารซื้อกันได้ และอีกคนหนึ่งเห็นว่ายังไงก็ไม่คิดจะซื้อเกมอีกอยู่แล้ว เพราะยังไงเสียการซื้อเกมในปัจจุบันเหมือนแค่เช่า และทั้งหมดนี้จึงเหมือนเป็นการผลักผู้เล่นให้หันไปจ่ายเงินสมัคร Game Pass รายเดือนแทน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกมเมอร์หลายคนเห็นพ้องกันในตอนนี้คือ “ไม่ซื้อวันแรกแล้ว รอลดราคาดีกว่า” เพราะไม่ว่าเกมไหน สักวันหนึ่งก็ต้องลดราคาหรือแม้กระทั่งแจกฟรีอย่างแน่นอน
แปลและเรียบเรียงจาก
Tech4Gamers
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
