Kingdom Under Fire ถือกำเนิดภาคออนไลน์ ด้วยฝีมือทีมพัฒนา DRAGONFLY จากเกาหลีใต้

แชร์เรื่องนี้:
Kingdom Under Fire ถือกำเนิดภาคออนไลน์ ด้วยฝีมือทีมพัฒนา DRAGONFLY จากเกาหลีใต้
[p]ปลายเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมา [b]Blueside[/b] และ [b]Phantagram Interactive[/b] ก็สร้างความประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อเกมซีรี่ย์ [b]Kingdom Under Fire[/b] ภาคใหม่ ได้ยกให้ [b]DRAGONFLY[/b] ซึ่งเป็นทีม Developer มือฉกาจจากเกาหลีใต้เป็นผู้พัฒนา และในภาคนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นเกมออนไลน์ MMORPG เต็มรูปแบบ โดยใช้ชื่อว่า [b]Kingdom Under Fire Online – Avalanche[/b][center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p][b][color=darkred]Kingdom Under Fire Online –Avalanche[/color][/b] เป็นเกมแนว Action-Shooting มุมมองบุคคลที่ 3 (Third Person Shooter) ซึ่งสามารถมองเห็นได้รอบด้าน และยังสามารถเข้าถึงความสนุกในโลกของเกมได้ด้วยการสลับมาใช้โหมดมุมมองบุคคลที่ 1 ซึ่งให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งกว่า และการที่ได้ DRAGONFLY มาพัฒนาเกมให้ จึงไม่น่าแปลกใจหาก Kingdom Under Fire Online – Avalanche จะเป็น MMO แบบ PvP ผสมกับการต่อสู้ Action-Shooting เพราะ DRAGONFLY มีประสบการณ์สร้างสรรค์เกมแนว FPS Online บนเครื่อง PC มาแล้ว ทั้ง Special Force ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ และ Karma Online ซึ่งเป็นเกม FPS อีกเกมหนึ่ง แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนมือมาให้ DRAGONFLY พัฒนาในภาคนี้แทน ก็ยังคงเป็นการถ่ายทอดโลกเดิมของ Kingdom Under Fire ซีรี่ย์ รวมทั้งเนื้อหาของมหากาพย์แห่งสงครามระหว่างฝ่ายมนุษย์และปีศาจเช่นเดิม[center][img=57790]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ในภาคนี้ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นฮีโร่ได้ทั้งฝ่ายมนุษย์และปีศาจ เพื่อพบกับมุมมองอีกด้านหนึ่งในโลกของ Kingdom Under Fire ที่สงครามไม่มีวันจบสิ้น โดยผู้เล่นจะเป็นกุญแจให้สงครามดำเนินไปในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเดิม การต่อสู้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกสงคราม ดังนั้น DRAGONFLY จึงใส่ใจในรายละเอียดของระบบ PVP เป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งการ PVP ในโหมดประลองแบบ 1vs.1, 16vs.16 และการใช้กลยุทธ์ต่อสู้ก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้เล่นเช่นกัน โหมดการเล่นแบบทีมช่วยให้การต่อสู้ง่ายขึ้นเพราะการสนับสนุนจากคลาสอาชีพต่างๆ เช่นการโจมตีด้วยระเบิด ซึ่งจะมีรูปแบบแตกต่างกันไปตามโหมดต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาในภายหลัง[p][b]Kingdom Under Fire Online – Avalanche[/b] แตกต่างจากภาค [b]Kingdom Under Fire II[/b] ของ Blueside ที่มีระบบออนไลน์เช่นเดียวกันตรงที่ Kingdom Under Fire II แม้จะมีการออนไลน์เพื่อทำสงครามกับฝ่ายศัตรู แต่ก็ยังมีโหมดที่ผู้เล่นสามารถเล่นในแบบออฟไลน์ได้อยู่ ดังนั้นจึงเป็นแบบกึ่งออนไลน์ ซึ่ง Kingdom Under Fire Online – Avalanche นั้นเป็นเกมออนไลน์เต็มรูปแบบที่ผู้เล่นต้องทำการเชื่อมต่อเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์เสียก่อนจึงจะเล่นได้ และยังเล่นได้เฉพาะเครื่อง PC เท่านั้นอีกด้วย นอกจากนี้ DRAGONFLY ยังเตรียมที่จะเปิดทดสอบ Close Beta ได้ภายในปี 2008 นี้ ขณะที่ Kingdom Under Fire II ต้องรอไปจนถึงปี 2009[center][img=57791]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=57792]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ