-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- Huang Yi Online : วิเคราะห์สายการเล่นในสไตล์ต่างๆ ของสำนักมาร
Huang Yi Online : วิเคราะห์สายการเล่นในสไตล์ต่างๆ ของสำนักมาร
[center][color=darkblue][b]วิเคราะห์สายการเล่นในสไตล์ต่างๆ ของสำนักมาร[/b][/color][/center][p]เป็นสายสำนักที่มีผู้เล่นเลือกฝากตัวเป็นศิษย์มากที่สุด เหตุเพราะมีเคล็ดวิชาโจมตีมากมายและสวยงาม ตลอดจนพลังโจมตีก็รุนแรงที่สุดในบรรดา 3 สำนัก แนวทางการเล่นของผู้เล่นในสายสำนักนี้จะเน้นไปที่พลังโจมตี ซึ่งสามารถเล่นได้ 2 สายใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้[b]- สายเพลงยุทธ์[/b][p]สายสำนักมารมีเคล็ดวิชาเพิ่มความรุนแรงให้กับการโจมตีด้วยเพลงยุทธ์ด้วย และมีท่าเคล็ดวิชาที่ใช้แปรเปลี่ยนพลังของศัตรูมาเป็นของเรา ทำให้การเก็บเลเวลเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง หากในยามปาร์ตี้ก็สามารถสร้างค่าทำร้ายได้สูง ทำให้การกำจัดมอนสเตอร์ร้ายเพื่อรับค่าประสบการณ์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ[center][color=darkblue][b]เคล็ดวิชาที่สำคัญของสำนักพรตที่สายแนวหน้านักสนับสนุนควรจะต้องมี[/b][/color][img=55668]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ในเคล็ดวิชาที่เลือกมานี้ จะเสริมหนุนการโมตีด้วยเพลงยุทธ์ เพื่อมุ่งเป้าหมายเดียวคือสังหารศัตรู อาจมีเคล็ดวิชาบางวิชาที่เป็นส่วนเกื้อหนุนให้ทำการพิชิตศตรูได้โดยง่ายเช่น “ปราณอินทลายจุด” ที่จะช่วยลดพลังป้องกันของคู่ต่อสู้ลง และมีอีกหลายทวงท่าด้วยกัน แต่ก็มีเคล็ดวิชาโจมตีเช่น “สายห่วงใจมาร” ที่จะช่วยให้การเก็บเลเวลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยการยิงออกไปเพื่อโจมตีตัดเลือดส่วนหนึ่ง และเรียกศัตรูเข้ามาหาเรา ส่วนในยามปาร์ตี้ ก็ใช้เป็นท่าสนับสนุนเพื่อนๆ ได้ในกรณีที่เรามิอาจชนตรงๆ กับเหล่ามอนสเตอร์เพราะเนื่องจากความบางของค่าป้องกันที่น้อยกว่าสายอื่นๆ นั่นเอง[center][b]ค่าเฉลี่ยที่แนะนำในการตัดสินใจเพิ่มค่า Status ที่สำคัญของสายเพลงยุทธ์[/b][img=55669]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b]ว่องไว[/b] : สายนี้เน้นหลักที่ความว่องไว นอกจากจะได้อัตราการติดโจมตีกระหน่ำแล้ว ก็ยังได้ค่าหลบหลีก ซึ่งเกื้อหนุนกับเคล็ดวิชา “ท่าร่างมารฟ้า” ที่เพิ่มอัตรหลบหลีกขึ้นถึง 20% ซึ่งจะช่วยให้การหลบหลีกมีประสิทธิภาพขึ้น แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงกลับอยู่ที่ความรวดเร็วในการโจมตี ซึ่งจะทำให้พิชิตศัตรูได้โดยไว ทำให้การเก็บเลเวลเป็นไปอย่างต่อเนื่องนั่นเอง [b]กำลัง[/b] : ค่า Status ที่สำคัญสืบเนื่องจากความรวดเร็วในการโจมตีแล้ว ก็ควรเลือกที่จะโจมตีได้อย่างรุนแรงโดยเลือกอัพค่า Status กำลัง ที่นอกจากจะเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีแล้ว ก็ยังเกื้อหนุนกับท่าเคล็ดวิชา “โลกข้ามิ2” และค่า Status ว่องไว ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะช่วยเพิ่มอัตราการติดโจมตีกระหน่ำขึ้นอย่างมาก และของแถมอันวิเศษอีกสิ่งหนึ่งคือค่าการแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะสายมารเน้นไปที่การลงค่า Status ไปในทางโจมตี การป้องกันจึงอ่อนด้อย จึงต้องพกยาฟื้นฟูติดตัวไปเสมอๆ[b]กาย[/b] : ถึงแม้สายมารจะเน้นไปที่ค่า Status เกื้อหนุนการโจมตี แต่ก็มิควรลืมการอัพกาย เพราะในการพบเจอบอสในช่วงเลเวลหลังๆ ก็มีโอกาสโดนการโมตีด้วยวรยุทธ์แบบหมู่ที่รุนแรง การอัพค่า Status กายไว้เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้มีโอกาสรอดจากการถูกท่าหมู่เหล่านั้น เพื่อให้มีชีวิตรอดออกมาเพิ่มเลือดฟื้นฟูกำลังได้[b]ปราณ[/b] : ค่า Status ปราณที่เลือกอัพไว้เพราะการโจมตีในช่วงหลังๆ ของเรานั้นจะกินค่าพลังยุทธ์มากขึ้น การอัพค่านี้ไว้นอกจากจะช่วยเพิ่มค่าพลังยุทธ์สูงสุดแล้ว ประสิทธิภาพของเคล็ดวิชาโจมตีก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย[b]ตบะ[/b] : ค่า Status นี้ผู้เล่นอาจเลือกเพิ่มไว้เพียงสักเล็กน้อย เพื่อเสริมหนุนเพลงยุทธ์ให้สามารถแสดงท่าไม้ตายได้บ่อยครั้ง แต่ความสำคัญของค่า Status นี้กลับมีน้อย เพราะเคล็ดวิชาส่วนใหญ่ของสายสำนักมารนั้นใช้ค่าพลังภายในไม่มาก จึงไม่จำเป็นนักที่จะเพิ่มค่า Status ตบะให้อยู่ในระดับสูง[color=darkblue][b]แนะแนวทางการเลือกศาสตราวุธของสายเพลงยุทธ์[/b][/color][b]ดาบ[/b] : ตัวเลือกอันดับแรกที่ดี เพราะนอกจากค่า Status ที่ต้องการของเพลงยุทธ์จะสอดคล้องกับค่า Status ที่แนะนำในสายนี้แล้ว เมื่อใช้พลังสิบส่วนจะขับเร้นโอกาสการโจมตีกระหน่ำให้อยู่ในระดับสูง พลังทำลายของดาบจึงสูงยิ่ง [b]กระบี่ [/b]: แนะนำให้กระบี่นั้นเป็นของคู่กับมาร เพราะความรวดเร็วของค่า Status สายนี้ เกื้อหนุนกับค่า Status ที่เพลงยุทธ์สายกระบี่ต้องการแล้ว การใช้ท่าพลังสิบส่วนจะทำให้โจมตีได้ไกล และพ่วงด้วยความเร็วในการโจมตีของเราแล้ว ทำให้การสร้างค่าทำร้ายใส่ศัตรูไม่ด้อยยิ่งไปกว่าสารเพลงยุทธ์กระบี่ของสำนักพุทธเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำเพราะโอกาสการติดโจมตีกระหน่ำอยู่ในระดับสูงนั่นเอง[b]กรงเล็บ [/b]: ศาสตราวุธที่เน้นป้องกันในคุณสมบัติของพลังสิบส่วน ผู้เล่นอาจเลือกไว้เป็นอาวุธสำรองในกรณีที่จะต้องชนกับศัตรูระดับบอสขึ้นไป แต่ความเกี่ยวโยงกันระหว่างค่า Status และเคล็ดวิชาไม่สอดคล้องนัก[b]ทวน[/b] : เพราะค่าป้องกันที่มีน้อย การใช้ทวนคู่กับท่าพลังสิบส่วนจึงทำได้ยาก เพราะสายเพลงยุทธ์ของสำนักมารนั้นจะเน้นการต่อสู่ที่เผชิญกันแบบ 1 ต่อ 1 มากกว่า การใช้ทวนโจมตีแบบหมู่นอกจากจะเสี่ยงต่อการโดนมอนสเตอร์รุมแล้ว ก็ยังไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาจำพวกลดค่าพลังต่างๆ แสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่นัก [b]กระบอง [/b]: กระบองนั้นยากต่อการเล่นในสายเพลงยุทธ์ของสำนักมารยิ่ง นอกจาก ค่า Status ที่ไม่เหมาะในการเล่นแล้ว ความบางของค่าป้องกันมีน้อย แม้สะท้อนกลับไปได้อย่างรุนแรง แต่ก็เจ็บตัวยิ่ง และเราอาจหลบหลีกการโจมตีของมอนสเตอร์ได้ ทำให้ไม่เกิดค่าทำร้าย ผลลัพธ์การสะท้อนจึงไม่เกิดขึ้นด้วย[center][color=darkblue][b]วรยุทธ์ร่วมที่สำคัญสำหรับสายเพลงยุทธ์[/b][/color][img=55670]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]วรยุทธ์ร่วมนั้นจะเน้นหนักไปที่เคล็ดวิชาสายป้องกันและฟื้นฟู ซึ่งสายเพลงยุทธ์ของมารนั้นจะด้อยในเรื่องนี้ จึงใช้วรยุทธ์ร่วมมาเสริม ซึ่งจะทำให้เราสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับบอสได้สบายยิ่งขึ้น [color=darkblue][b]บทบาทของสายเพลงยุทธ์ : ยอดฝีมือฝ่ายอธรรม[/b][/color][p]การเล่นสายเพลงยุทธ์ของสำนักมารนั้นจะทำให้โจมตีได้หนักหน่วงยิ่ง เพิ่มด้วยเคล็ดวิชาช่วยสังหารด้วยแล้ว อาจจะเห็นการปะทะเพียงไม่กี่ดาบก็อาจตัดสินความเป็นตายกันได้เหมือนดั่งในนิยายเรื่องเทพมารสะท้านภพเลยทีเดียว ซึ่งสายนี้ค่อนข้างอเนกประสงค์ ทั้งไปคนเดียวก็ได้ ทั้งปาร์ตี้ก็ยิ่งดี และเป็นสายที่มีผู้คนต้องการร่วมปาร์ตี้ไปกับภารกิจย้อนเวลาเป็นจำนวนมาก และในยามศึกสงคราม สายเพลงยุทธ์ที่หนักหน่วยเช่นนี้จะถูกเกณฑ์ไปตีหอพิทักษ์อย่างแน่นอน[p]โดยสรุปแล้ว การเล่นสำนักมารนั้น ผู้เล่นที่หลงใหลในพลังโจมตีอันรุนแรง จะต้องคำนวณค่า Status ของตนเองเป็นอย่างดี วิเคราะห์ถึงจุดเด่นจุดด้อยของตนเอง ว่าจุดอ่อนของเราคือสิ่งใด แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องค่าป้องกันที่ด้อยกว่าสายอื่นๆ ดังนั้นเราจะเลือกใช้วรยุทธ์ร่วมหรือเหล่าศาสตราอาภรณ์มาปิดจุดอ่อนเสริมสร้างกำลังในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับค่าอื่นๆ ของตนเองด้วย ถ้าสามารถคำนวณได้อย่างลงตัว สำนักมารสายเพลงยุทธ์จะเป็นแนวหน้าที่เก่งกาจที่สุดในการกำจัดเหล่าศัตรู[b]- สายเคล็ดวิชา[/b][p]การเล่นสายเคล็ดวิชา ผู้เล่นอาจไม่ต้องคำนึงถึงทวงท่าเพลงยุทธ์มากนัก เพราะความโดดเด่นของสายนี้คือ เคล็ดวิชาที่รุนแรง ใช้โจมตีศัตรูจากระยะไกล และรวมถึงการโจมตีแบบหมู่ ราวนักเวทย์จอมทำลายล้างที่ใช้คาถาอาคมเข้าทำลายศัตรูทั้งกองทัพได้อย่างสบายๆ[center][img=55671]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]เคล็ดวิชาสายนี้ทุ่มเททั้งหมดไปที่เคล็ดวิชาโจมตี โดยการอัพเลเวลเคล็ดวิชาควรอยู่ในระดับสูง เพื่อให้สามารถโจมตีศัตรูตายได้เพียงการใช้เคล็ดวิชาเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะทำให้เราได้เลเวลอย่างรวดเร็วแล้ว การได้รับไอเทมก็จะมากตามไปด้วย เรียกได้ว่าเวลขึ้นไว เงินไม่ขาดมือ[center][b]ค่าเฉลี่ยที่แนะนำในการตัดสินใจเพิ่มค่า Status ที่สำคัญของสายแนวหน้านักสนับสนุน[/b][img=55672]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][b]ปราณ [/b]: ค่า Status ที่สำคัญที่สุดของสายนี้ ซึ่งการเล่นในช่วงแรกนั้นอาจจะอัพค่ากำลังก่อนสักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ได้อย่างสบาย แต่เมื่อระดับเลเวลเคล็ดวิชาโจมตีเพิ่มสูงขึ้น ก็อัพค่า Status ปราณเป็นหลักได้เลย เพราะการอัพค่า Status ปราณ นอกจากจะได้ค่าพลังยุทธ์สูงสุดที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเพิ่มค่าทำร้ายด้วยเคล็ดวิชาอีกด้วย[b]กาย[/b] : เฉกเช่นกับการเล่นในสายอื่นๆ ซึ่งการอัพค่ากายไว้ในระดับหนึ่งจะทำให้เรามีค่าพลังเลือดมากพอที่จะรับการโมตีจากมอนสเตอร์ประเภทบอสได้ เพื่อสร้างจังหวะในการหลบหนีและเพิ่มพลัง ก่อนที่จะเข้าสู่ศึกสมรภูมิต่อไป[b]กำลัง[/b] : การอัพค่า Status กำลังนั้น เหมาะสำหรับการใช้ประโยชน์จากค่าโจมตีที่รุนแรงในช่วงแรก แต่ในช่วงหลัง ค่า Status กำลังนี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถแบกขนยาฟื้นฟูค่าพลังยุทธ์ไปได้มาก ก็จะทำให้การเก็บเลเวลเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด[b]ตบะ[/b] : ค่า Status ตบะที่จะช่วยให้เราโจมตีด้วยเคล็ดวิชาได้อย่างแม่นยำ เพราะเคล็ดวิชามีโอกาสที่จะโจมตีพลาดได้ ดังนั้นการมีค่าตบะไว้ส่วนหนึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีด้วยเคล็ดวิชา[b]ว่องไว[/b] : ค่า Status นี้อาจจะไม่จำเป็นสำหรับสายนี้ ยกเว้นหากแต่การเลือกศาสตราวุธเป็นกระบี่ก็อาจอัพค่า Status ว่องไวไว้เป็นทางผ่านในการเรียนท่าเพลงยุทธ์[color=darkblue][b]แนะแนวทางการเลือกศาสตราวุธของสายเคล็ดวิชา[/b][/color][b]ดาบ / กระบี่ / ทวน / กระบอง [/b]: ศาสตราวุธทั้งสujประเภทนี้ ไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับผู้เล่นสำหนักมารสายเคล็ดวิชา เพราะการเข้าทำร้ายที่ไม่รุนแรง กอปรกับตัวละครที่มีค่าป้องกันน้อย การโจมตีส่วนหลักจึงตกอยู่ที่การใช้เคล็ดวิชาเข้าโจมตีแทน ศาสตราเหล่านี้จึงดูเหมือนไร้คุณค่าไป [b]กรงเล็บ[/b] : ศาสตราวุธที่เน้นป้องกันในคุณสมบัติของพลังสิบส่วน ผู้เล่นอาจเลือกไว้เป็นอาวุธสำรองในกรณีที่จะต้องชนกับศัตรูระดับบอสขึ้นไป แต่ความเกี่ยวโยงกันระหว่างค่า Status และเคล็ดวิชาไม่สอดคล้องนัก[center][color=darkblue][b]วรยุทธ์ร่วมที่สำคัญสำหรับสายเคล็ดวิชา[/b][/color][img=55673]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]จำนวนท่าวรยุทธ์ร่วมของสายเคล็ดวิชาจะน้อยกว่าสายเพลงยุทธ์ แต่โดยหลักก็จะคล้ายๆ กันคือวรยุทธ์ร่วมจะเน้นที่ท่าเพิ่มพลังป้องกัน และค่าฟื้นฟูให้มากขึ้น เพื่อปิดจุดอ่อนในเรื่องของค่าป้องกันที่มีน้อยนั่นเอง[b]บทบาทของสายเคล็ดวิชา : ยอดเซียนเคล็ดวิชาคาถาอาคม[/b][p]การเล่นในสายนี้ ผู้เล่นแทบจะลืมค่าทำร้ายที่ได้จากเพลงยุทธ์ไปโดยสิ้นเชิง เพราะการใช้เคล็ดวิชาเข้าโจมตีมีความหนักหน่วงยิ่ง แต่ก็จะมีข้อเสียเพิ่มขึ้นอย่างหนึ่ง คือเคล็ดวิชามีโอกาสที่จะโจมตีพลาดได้ ดังนั้นแนวทางการเล่น จะต้องเทค่าคะแนนยุทธ์อัพเลเวลเคล็ดวิชาให้อยู่ในระดับสูงแล้ว จะต้องใช้พลังเงินตำลึงซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มีค่าป้องกันอยู่ในระดับสูง เพราะในช่วงหลังๆ สไตล์การเล่นของเราจะเป็นการลากมอนสเตอร์มาเป็นฝูงแล้วใช้เคล็ดวิชาโจมตีหมู่เพื่อสังหารศัตรูเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไม่สามารถสังหารได้ในคราเดียวจะต้องทนกับค่าทำร้ายของมอนสเตอร์เป็นกลุ่ม ดังนั้นจึงจะต้องเพิ่มค่าป้องกันให้สูงขึ้น[p]ในการเล่นเป็นปาร์ตี้อย่างการลงภารกิจย้อนเวลา สายเคล็ดวิชานี้จะมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการกำจัดมอนสเตอร์เป็นหมู่ เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์เป็นจำนวนมาก และผ่านภารกิจได้อย่างว่องไว บางปาร์ตี้อาจจะเลือกการรับสายนี้เข้าปาร์ตี้ไปจำนวน 2 – 3 คนเลยทีเดียวเพื่อให้สามารถใช้เคล็ดวิชาหมู่ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการร่วมผจญบอสหรือในยามศึกสงคราม ก็จะเป็นนักฆ่าจากแนวหลังที่จะช่วยกลุ่มของตนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center]