Perfect World : Elf Priest ไม่มีเราแล้วนายจะรู้สึก

แชร์เรื่องนี้:
Perfect World : Elf Priest ไม่มีเราแล้วนายจะรู้สึก
[p]ใครที่อยากเป็นนักบุญ คอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ตกทุกข์ได้ยากทั้งหลาย ต้องเล่นอาชีพนี้เลยครับ Elf Priest เป็นอาชีพที่เพื่อนๆ จะร๊าก~ ร้าก~ เป็นอาชีพเดียวที่มีความสามารถในการ Heal และ ชุบชีวิต แถมมีบัฟคอยช่วยเหลือมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบัฟเพิ่มพลังป้องกัน บัฟเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ อาชีพไหนๆ ก็ตามถ้าได้ไปปาร์ตี้กับ Elf Priest ก็จะบู๊ได้อย่างเมามันส์ แถมไม่เปลืองยาเพิ่มเลือดอีกต่างหาก หรือจะพลาดท่าเสียทีโดนตบนอนกลิ้งก็ยังมีคนช่วยชุบชีวิตได้อีกด้วย และใช่ว่า Elf Priest จะเป็นนักบุญคอยช่วยเหลือเพื่อนๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ ยังเป็นอาชีพที่มีความสามารถโจมตีด้วยเวทย์รุนแรงอีกด้วย แม้จะรุนแรงไม่เท่า Magician แต่ถ้าใครโดนเข้าไปก็กระอักเลือดได้เหมือนกัน[img=53336]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]เพื่อนตายก็สามารถช่วยชุบได้[b][color=blue]การอัพค่าสเตตัส[/color][/b][p]Elf Priest เป็นอาชีพที่ใช้ MP เปลืองมากเหมือนกับอาชีพ Magician เลยทีเดียว เพราะทุกสกิลต้องใช้ MP จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสกิลโจมตี หรือสกิล Heal แถมยิ่งถ้าเลเวลสกิลสูงๆ ยิ่งใช้ MP มากขึ้นกว่าเดิมอีก ทำให้ค่าสเตตัสหลักที่ต้องอัพคือ INT เพื่อที่เราจะได้มี MP เยอะพอที่สามารถใช้สกิลเก็บเลเวลได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องนั่งพักบ่อยๆ ทำให้สกิลเวทย์โจมตีมีความรุนแรงมากขึ้น แถมยัง Heal ได้แรงขึ้นอีกด้วย[color=blue][b]สาย INT[/b][/color][p]สายนี้จะอัพค่า INT สูงมาก แต่ก็จะแบ่งเอาไปอัพค่า STR บ้างเพื่อที่จะทำให้สามารถใส่ชุดเกราะเบาได้ตามเลเวล สายนี้จะมีความสามารถในการใช้เวทย์โจมตีได้รุนแรง และมีพลังป้องกันเวทย์ที่สูงมาก แต่ก็ต้องแลกกับพลังป้องกันทางกายภาพที่น้อยนิด โดนมอนสเตอร์ตบไม่กี่ทีเลือดก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ซึ่งในช่วงเลเวลต้นๆ จะเก็บเลเวลได้ยากพอสมควร แต่ถ้าในช่วงเลเวลหลังๆ แล้วมอนสเตอร์จะใช้เวทย์โจมตีเยอะขึ้น ทำให้สายนี้สามารถสู้กับมอนสเตอร์ในช่วงเลเวลหลังๆ ได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเวทย์โจมตี หรือเวทย์พิษ ยิงเข้ามาเหอะลดนิดเดียว และยิ่งถ้าใช้สกิลบัฟ Spirit Gather Hierogram ที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์เป็น % จากค่าของอุปกรณ์ที่สวมใส่ ที่เลเวล 10 จะเพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์ให้ถึง 60% ซึ่งค่าพลังป้องกันเวทมนตร์จากการอัพ INT และจากค่าของชุดเกราะเบาเมื่อเราใช้สกิลบัฟนี้ก็จะทำให้มีพลังป้องกันเวทมนตร์ที่สูงมากๆ[color=blue][b]สาย INT STR[/b][/color][p]สายนี้จะอัพค่า INT เป็นหลัก แล้วก็จะอัพค่า STR เพื่อให้สามารถใส่ชุดเกราะหนักตามเลเวลอีกด้วย สายนี้จะมีความถึกที่มากพอสมควรทำให้สามารถไปเก็บเลเวลทำเควสต์ได้ตามลำพัง เพราะชุดเกราะหนักเป็นชุดเกราะที่มีพลังป้องกันทางกายภาพสูงสุด ทำให้มอนสเตอร์ตบเข้าไม่แรงมากนัก และอาชีพ Elf Priest ยังมีสกิลบัฟ Solid Shell Hierogram ที่จะเพิ่มพลังป้องกันทางกายให้เป็น % จากค่าของอุปกรณ์ที่สวมใส่ ที่สกิลเลเวล 10 จะเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพให้อีกถึง 60% เลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเราใช้ชุดเกราะหนักที่มีพลังป้องกันทางกายสูงจะทำให้เราได้รับผลจากสกิล Solid Shell Hierogram สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด[img=53337]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ตบแค่นี้จิ๊บๆ แต่อย่าตบหลายๆ ทีนะ ^^ [color=blue][b]อย่าทิ้งค่า CON[/b][/color][p]ถึงแม้ว่าจะเล่น Elf Priest สาย INT STR หรือ สาย INT ก็ยังต้องมาอัพค่า CON เพื่อเพิ่มเลือดให้เยอะขึ้นด้วย เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มี HP น้อยมากที่สุดเท่ากับอาชีพ Magician ยิ่งถ้าในตอนไปตีบอสเป็นปาร์ตี้ บอสส่วนมากจะใช้เวทย์โจมตีเป็นกลุ่มถ้าหากเราเลือดน้อยจนโดนทีเดียวตาย หรือต้องมานั่งฮีลตัวเองก่อน ก็จะไม่สามารถช่วยเพื่อนได้ทันท่วงที อาจทำให้ตายยกปาร์ตี้ก็ได้[img=53338]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]สายนี้จะ Heal แรง ฮีลตัวเองทีก็เต็มหลอดแล้ว[color=blue][b]สกิล[/b][/color][p]อาชีพ Elf Priest ใช่ว่าจะเป็นนักบุญเสมอไป ขึ้นชื่อว่าเป็นพระหลายๆ คนก็ต้องคิดว่าสกิลส่วนมากก็คงจะมีแต่พวก Heal ชุบชีวิต บัฟต่างๆ แต่ Elf Priest ในเกมนี้ยังมีสกิลโจมตีที่มีความรุนแรงสูงอยู่อีกมากมายหลายสกิล แถมยังมีสกิลดีบัฟต่างๆ เอาไว้ก่อกวนศัตรูอีกด้วย ทำให้การเล่นอาชีพนี้จำเป็นต้องวางแผนสายสกิลให้ดีก่อนเพื่อที่จะสามารถอัพสกิลของสายนั้นๆ มาใช้ได้อย่างเห็นผลที่สุด[color=blue][b]สกิล Heal[/b][/color][p]สกิล Heal ของเกมนี้จะไม่เหมือนกับเกมอื่นๆ เพราะว่า Elf Priest นี้มีสกิลจำพวก Heal มากมายหลายสกิลรวมๆ แล้วมีถึง 6 สกิลเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสกิลก็มีความสามารถ Heal แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานะการว่าควรจะใช้ Heal แบบไหน[p][b]Pure Heart Spell :[/b] เป็นสกิล Heal สกิลแรกที่สามารถเรียนได้ตั้งแต่เลเวล 1 เลย ในช่วงเลเวลต้นๆ จะเป็นสกิลที่ Heal ได้แรงที่สุดแต่จะใช้เวลาร่ายที่นาน เอาไว้ร่าย Heal เพื่อนก่อนที่จะโดนโจมตี (กว่าจะร่ายเสร็จเพื่อนก็โดนตบเลือดลดแล้ว) [p][b]Whisht Heart Spell :[/b] จะค่อยๆ ฟื้นฟู HP เป้าหมายเป็นระยะเวลาประมาณ 15 วินาที จนครบจำนวน (เหมือนกดกินยา) ใช้เวลาร่ายน้อยแต่จะค่อยๆ ฟื้นฟู HP ทีละนิดๆ เหมาะใช้ก่อนที่จะเข้าไปตีมอนสเตอร์เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมา Heal ในจังหวะปะทะแล้ว และสามารถใช้ควบคู่กับสกิล Heal อื่นหรือกินยาได้โดยไม่ทับกัน[p][b]Sapience Pour :[/b] ถึงแม้จะ Heal แรงไม่เท่า Pure Heart Spell แต่ก็เป็นสกิลที่ใช้เวลาร่ายที่น้อยมาก ทำให้สามารถกดใช้ได้อย่างต่อเนื่อง เอาไว้ใช้ในจังหวะคับขันได้เป็นอย่างดี หรือถ้าเป็นคนขยันกดใช้สกิลก็ใช้สกิลนี้ Heal เพื่อนไปเรื่อยๆ เลยก็ได้[p][b]Chromatic Healing Beam :[/b] ฮีลหมู่! Heal เพื่อนๆ ในปาร์ตี้ที่อยู่ในระยะทุกคน ใช้เวลาร่ายนานมาก สามารถฮีลเพื่อนๆ ได้ทุกคนและแรงด้วยก็นับว่าคุ้ม แต่ก็ต้องระวังการใช้สกิลนี้ให้ดีเพราะอาจจะทำให้มอนสเตอร์เปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีเราแทนได้[p][b]River of Rejuvenation :[/b] สกิลนี้เป็นสกิล Heal ได้รุนแรงมากที่สุด แต่ก็ใช้ MP ที่มากมายมหาศาล แถมมี Cooldown ที่นานพอสมควร เหมาะใช้กับเพื่อนที่ใกล้จะตายแล้ว[p][b]Extremity Recovery Array :[/b] สร้างกำแพงเวทมนตร์ขึ้นมาเพื่อปกป้องเพื่อนในปาร์ตี้ที่อยู่ในระยะ จะช่วยฟื้นฟู HP และได้รับความเสียหายลดลง เหมาะใช้ในจังหวะปะทะเป็นกลุ่มเพราะถ้าหากเจอศัตรูแค่ตัวเดียว Heal เอาก็พอแล้ว แถมสกิลนี้ยังกิน MP เรื่อยๆ อีกด้วย[img=53339]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]Heal เพื่อนๆ จะได้ไม่เปลืองยา สู้ๆ [color=red]**ข้อควรระวัง : การ Heal เพื่อนที่ถูกมอนสเตอร์ไล่ตามหรือโจมตีจะทำให้มอนสเตอร์โกรธเราและหันมาโจมตีเราแทนได้ วิธีแก้ไขคือต้องให้เพื่อนเราทำการโจมตีมอนสเตอร์ก่อน (ต้องไม่หยุดโจมตีด้วย) แล้วเราถึงค่อย Heal **[/color][color=blue][b]สายการเล่น[/b][/color][p]ถ้าดูจากสกิลของ Elf Priest ก็จะเห็นได้ว่ามีสกิลแบ่งแยกเป็นสายคือ สายสนับสนุนและสายโจมตี ซึ่งถ้าอยากจะเล่นสายไหนก็ควรเลือกไปสายใดสายหนึ่งจะดีที่สุดเพราะไม่งั้นก็จะทำให้เราอัพสกิลได้ไม่ครบตามที่ต้องการ แต่ก็มีสกิลหลักๆ ที่ควรจะต้องอัพไว้สำหรับทุกสาย นั่นก็คือ[p][b]Plume Quill :[/b] เป็นสกิลโจมตีที่ใช้บ่อยมากที่สุดเรียกว่าเป็นสกิลหากินก็ได้ ถ้าหากไม่อัพสกิลนี้ไว้ก็แทบจะทำให้เก็บเลเวลไม่ได้เลย แม้สกิลนี้จะเป็นการยิงลูกศรออกไปโจมตี แต่การโจมตีด้วยสกิลนี้จะถือเป็นการโจมตีทางกายภาพ ทำให้โจมตีใส่มอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันทางกายภาพสูงเบาลง[p][b]Celestial Guard Hierogram :[/b] ช่วยเพิ่มอัตราฟื้นฟู HP / MP แก่เป้าหมาย บางคนอาจจะคิดว่าสกิลนี้ไม่ค่อยสำคัญซักเท่าไรเพราะว่าเราสามารถกดกินยาได้ แต่อาชีพนี้ใช้ MP เปลืองมากยิ่งถ้าเก็บเลเวลคนเดียวยิ่งใช้เยอะแบบสุดๆ แถมบางครั้งก็กดกินยาไม่ทันใช้อีกต่างหาก (กินยาจะยากจน) ถ้ามีสกิลนี้ไว้ก็จะช่วยเหลือได้อย่างเห็นผล แถมเอาไว้บัฟเพื่อนๆ ได้อีกด้วย มีประโยชน์มากครับขอบอกๆ[b][color=blue]สายสนับสนุน[/color][/b][p]สายนี้จะเป็นสายอันเป็นที่รักยิ่งของเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ โดยที่จะอัพแต่สกิลสนับสนุนทั้งหลายคอย Heal, ชุบชีวิต, กำจัดสถานะผิดปกติต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ ยิ่งถ้ามีสกิลชุบชีวิตเลเวลสูงก็ทำให้เพื่อนที่ตายเสีย % ลดน้อยลงอีกด้วย แถมยังมีสกิลบัฟทั้งหลายมาช่วยสนับสนุนเพื่อนๆ แต่ละอาชีพได้ดีแบบสุดๆ[p][b]Solid Shell Hierogram, Grand Protector : [/b]ช่วยเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพให้แก่เป้าหมายเป็น % เหมาะใช้กับเป้าหมายที่ใส่ชุดเกราะหนักที่มีพลังป้องกันทางกายภาพสูง อาชีพ Warrior และ Werebeast ถ้าได้บัฟนี้รักตายเลย[p][b]Spirit Gather Hierogram, Aegis’s Spirit :[/b] ช่วยเพิ่มพลังป้องกันทางเวทมนตร์ให้แก่เป้าหมายเป็น % ถ้าใช้กับเป้าหมายที่ใส่ชุดเกราะเบาที่มีพลังป้องกันทางเวทมนตร์สูงจะยิ่งเห็นผลได้ชัดเจน บัฟนี้เหมาะที่จะใช้กับทุกอาชีพเพราะมอนสเตอร์โจมตีด้วยเวทย์ก็มีเยอะ ถ้าสายแท้งก์ได้รับบัฟนี้ไปก็จะยิ่งชนได้นานขึ้นด้วย[p][b]Nimbus-Aid Hierogram, Divine Armory :[/b] เพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ให้แก่เป้าหมาย โดยที่สกิลเลเวล 10 จะเพิ่มให้อีกถึง 70% เลยทีเดียว ถ้าอาชีพสายเวทย์ทั้งหลายได้สกิลนี้ไปรับลองมีเฮ ยิงกันแหลกแรงน่าดู[img=53340]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]บัฟเยอะแยะใช้กับตัวเองหรือเพื่อนๆ ก็ได้[p]วิธีเก็บเลเวลของสายนี้จะเน้นไปกับเพื่อนๆ เป็นปาร์ตี้ซะมากกว่า แต่ก็สามารถไปคนเดียวได้โดยใช้สกิล Plume Quill ยิงฆ่ามอนสเตอร์และก็ Heal ตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเก็บจนถึงประมานซักเลเวล 27 ก็เริ่มหืดขึ้นคอแล้ว ขนาดใส่ชุดเกราะหนักแล้วโดบตบไป 2 ทีเลือดก็หายไปจะครึ่งนึง เก็บลำบากมากๆ[color=blue][b]สายโจมตี[/b][/color][p]สายนี้จะเล่นเหมือนอาชีพ Magician เลยซึ่งสกิลเวทย์โจมตีของ Elf Priest นี้จะโจมตีเป็นธาตุทอง ยกเว้นสกิล Plume Quill และ Feather Razors ที่จะโจมตีเป็นแบบกายภาพ ซึ่งเวทย์โจมตีเหล่านี้จะมีความรุนแรงที่สูงแถมยังทำให้มอนสเตอร์ติดสถานะผิดปกติต่างๆ ได้อีกด้วย ทั้งเคลื่อนที่ช้าลง, เป็นอัมพาต แถม Elf Priest ยังมีสกิล Metal Element Mastery ที่ทำให้เวทย์ธาตุทองโจมตีแรงขึ้นอีกด้วย เมื่อรวมกับสกิล Nimbus-Aid Hierogram หรือ Divine Armory ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ ก็จะทำให้ Elf Priest ยิงเวทย์ได้อย่างรุนแรงน่าดูเชียวละ แต่ก็ยังคงอัพสกิล Heal เอาไว้ใช้อีกด้วย[img=53341]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]สายนี้ยิงแรงนะจะบอกห้าย!![p]วิธีการเก็บเลเวลของสายนี้จะเน้นใช้สกิลที่มีความรุนแรงสูงแต่ร่ายช้าเปิดโจมตีก่อน เช่น Thunder Sphere, Thunder Wield เพราะตอนที่เราร่ายสกิลมอนสเตอร์จะยังไม่เข้ามาโจมตีเรา และตามด้วยสกิลที่ร่ายไวหรือมีติดสถานะผิดปกติ เช่น Plume Quill สกิลโจมตีหากิน หรือจะใช้ Hurricane Blast ที่โจมตีพร้อมทั้งทำให้มอนสเตอร์เป็นอัมพาตขยับไม่ได้ด้วยก็ได้ (ขยับไม่ได้แต่โจมตีได้นะ) แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรที่จะหาคนมาช่วยแท้งค์ด้วยแล้วเราค่อยช่วย Heal ช่วยยิงสนับสนุนเพราะว่าตัวเรานั้นแสนจะบอบบาง เท่ากับว่าเราทำหน้าที่เป็นพระและนักเวทย์ในตัวเดียวกันเลย[color=blue][b]สายคำสาป[/b][/color][p]สายนี้จะเหมือนๆ กับสายสนับสนุน แต่จะอัพสกิลคำสาปทั้งหลาย (ดีบัฟ) เอามาช่วยจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์ โดยที่อาจจะลดการอัพสกิลพวก Heal บางสกิลให้น้อยลง อัพชุบชีวิตแค่เลเวล 1 พอ และอาจจะลดบัฟบางสกิลเพื่อเอามาอัพคำสาปทั้งหลายเหล่านี้ ข้อดีของสายนี้คือจะสามารถช่วยให้เพื่อนๆ จัดการมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงๆ โหดๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน และบอส ร่ายคำสาปลดพลังป้องกันทางกายภาพและลดพลังป้องกันเวทมนตร์ เพียงแค่นี้เพื่อนๆ เราก็สามารถโจมตีได้แรงขึ้นอีกมากโข หรือจะเอาไว้ใช้ตอน PK กับผู้เล่นอื่นก็เยี่ยม สาปอัมพาต สาปหลับ แล้วก็ยำมันให้เละเทะ 555+[p][b]Five Element Hierogram : [/b]ลดพลังป้องกันเวทมนตร์ของตัวเองไปลดพลังป้องกันเวทมนตร์ของศัตรูชั่วระยะเวลาหนึ่ง เอาไว้ใช้เพื่อให้เพื่อนๆ สายเวทย์ขายเรากระหน่ำยิงอย่างเมามันส์ แค่มีสกิลช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์แล้ว ยังมีสกิลนี้ช่วยลดพลังป้องกันอีก ใครโดนเข้าไปไส้แตก[p][b]Five Corporeity Hierogram :[/b] ลดพลังป้องกันกายภาพของตัวเองไปลดพลังป้องกันกายภาพของศัตรูชั่วระยะเวลาหนึ่ง เหมาะใช้กับปาร์ตี้ที่มีเพื่อนโจมตีทางกายภาพรุนแรง ทำให้โจมตีใส่ศัตรูได้รุนแรงมากขึ้นเข้าไปอีก[p][b]Five Tone Hierogram :[/b] ลดพลังโจมตีเวทมนตร์ของตัวเองเพื่อไปสาปให้ศัตรูเป็นอัมพาตชั่วระยะเวลาหนึ่ง ศัตรูที่เป็นอัมพาตจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้แต่ยังสามารถโจมตีสวนกลับมาได้ เอาไว้ใช้กับศัตรูที่โจมตีระยะประชิดเพื่อที่จะได้ไม่สามารถเดินเข้ามาถึงตัวเราFive Hue Hierogram: ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของตัวเองเพื่อไปสาปให้ศัตรูหลับ เป็นสกิลขั้นสุดท้ายของสายคำสาป คนที่ถูกสาปหลับจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย เรียกว่าหยุดเป็นเป้านิ่ง แถมยังหลับเป็นเวลานานมากอีกด้วย เอาไว้ใช้ไล่ฆ่า หรือเอาไว้หนีก็เยี่ยม [p]ข้อดีของสายนี้คือเป็นสายที่ช่วยสนับสนุนเพื่อนๆ ได้หลายรูปแบบทั้ง Heal, บัฟ, คำสาป ทำให้เพื่อนๆ ในปาร์ตี้สามารถผ่านดันเจี้ยนโหดๆ ได้ง่ายขึ้น แต่สายนี้จะมีข้อเสียก็คือไม่สามารถรับการโจมตีของมอนสเตอร์ได้เลย โดนซัก 2 ทีก็แทบจะนอนแล้ว เพราะว่าการใช้คำสาปเป็นดาบ 2 คม ที่ทำให้พลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทมนตร์ของเราลดลงด้วย ปกติตัวก็นิ่มอยู่แล้วยิ่งใช้สกิลนี้เข้าไปยิ่งนิ่มเข้าไปใหญ่ ทำให้การเก็บเลเวลควรไปเป็นปาร์ตี้จะดีที่สุด และสายนี้ยังมีจุดเด่นในการ PK เพราะสกิลคำสาปทั้งหลายสามารถก่อกวนกับผู้เล่นคนอื่นได้เป็นอย่างดีทั้งสาปอัมพาต และสาปให้หลับ[p]ใครชอบที่จะเล่นพระก็อย่าลืมเล่นอาชีพนี้นะครับ แต่ถ้าใครยังไม่เคยเล่นพระก็ต้องลองเล่นเลย เพราะอาชีพนี้ใช่ว่าจะเป็นักบุญเสมอไป ยังเป็นนักฆ่าจอมก่อกวนอีกด้วย ถ้าใครได้ลองเล่นแล้วจะติดใจถึงความสนุกสนานของอาชีพนี้ บู๊ก็ได้ บุ๋นก็เยี่ยม ชนก็กลิ้ง 555+
แชร์เรื่องนี้: