หงษ์แดงลิเวอร์พูล ตำนานจากความขัดแย้ง

แชร์เรื่องนี้:
หงษ์แดงลิเวอร์พูล ตำนานจากความขัดแย้ง
[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ลิเวอร์พูลถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1892 จากความขัดแย้งระหว่างสโมสรเอฟเวอร์ตันและเจ้าของสนามของพวกเขาคือสนามแอนฟิลด์ ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้เอฟเวอร์ตันย้ายจากแอนฟิลด์ไปสร้างสนามของตัวเองขึ้นที่บริเวณใกล้เคียงกันคือกูดิสัน ปาร์ค ขณะที่จอห์น ฮาวดิ้ง เจ้าของสนามเดิม ได้ก่อตั้งทีมฟุตบอลของตัวเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อในตอนแรกว่าสโมสรลิเวอร์พูล แอสโซซิเอชั่น เมื่อเดือนมีนาคมปี 1892[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]หงส์แดงก้าวไปเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในอังกฤษด้วยการครองแชมป์ลีกถึง 18 สมัย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพื้นฐานสู่ความสำเร็จของทีมมาจากบิล แชงค์ลี่ย์ ซึ่งเข้าไปเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลที่อยู่ในดิวิชั่น 2 เมื่อปี 1959 หลังจากได้เลื่อนชั้นในปี 1962 แชงค์ลี่ย์ก็นำทีมคว้าแชมป์ลีกได้สามสมัย, แชมป์เอฟเอคัพสองสมัย และแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสรคือยูฟ่าคัพ ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งต่อให้กับบ๊อบ เพสลี่ย์ในปี 1974[p]เพสลี่ย์ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีกเมื่อลิเวอร์พูลผูกขาดความยิ่งใหญ่ได้ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 แต่ความสำเร็จสูงสุดของเขาอยู่ในฟุตบอลยุโรปเมื่อหงส์แดงได้แชมป์ยูฟ่าคัพอีกครั้งในปี 1976 ก่อนจะกลายเป็นเพียงทีมที่สองจากอังกฤษที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ด้วยการชนะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 3-1 ในปี 1977[center][img=48223]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]นี่คือการเริ่มต้นช่วงเวลาที่น่าจดจำของการครองความยิ่งใหญ่ของทีมจากอังกฤษในรายการนี้ เมื่อลิเวอร์พูลเองได้แชมป์เพิ่มอีกสามสมัย เคนนี่ ดัลกลิชนำทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในปี 1986 และยังคงเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาลาออกอย่างปุบปับในปี 1991 หลังจากนั้นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของลิเวอร์พูลในยุคนี้ก็ตามมา แต่หงส์แดงก็ยังได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการอยู่ในช่วงดังกล่าว รอย เอฟแวนส์ยังคงสานต่อธรรมเนียมการสืบทอดตำแหน่งจาก [color=darkred]“คนใน”[/color] เมื่อเขาเข้ามารับหน้าที่ต่อจากแกรม ซูเนสส์ในปี 1994 และเขาช่วยสร้างทีมที่ประกอบด้วยนักเตะดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ขึ้นมา แต่ลิเวอร์พูลยังคงประสบความสำเร็จต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเช่นเดิม และได้รับฉายาว่า [color=blue]“Spice Boys”[/color] จากการที่นักเตะใส่สูทหรูแต่ผลงานแย่ในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศปี 1995 ที่แพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 1998 เอฟแวนส์มีเชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส มาร่วมงานด้วยในช่วงสั้นๆของการคุมทีมร่วมกัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ลาออกไปและปล่อยให้อุลลิเยร์ทำหน้าที่อย่างเต็มตัว [p]อุลลิเยร์กระตุ้นหงส์แดงได้ด้วยการนำทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ฟุตบอลถ้วย ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และยูฟ่าคัพ ในฤดูกาล 2000/01 ความสำเร็จในลีกคัพตามมาอีกครั้งในปี 2003 แต่ความล้มเหลวในการสานต่อความสำเร็จจากแชมป์เหล่านี้ด้วยการได้ลุ้นแชมป์ลีกอย่างจริงจังก็ทำให้เขาต้องเสียเก้าอี้ไป[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน เข้ามารับหน้าที่ต่อและในฤดูกาลแรกของเขา หงส์แดงก็กลับสู่ความยิ่งใหญ่ได้ด้วยการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างเหลือเชื่อด้วยชัยชนะเหนือเอซี มิลาน[a=http://trueworld.truelife.com/home/index.jsp][center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][/a]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ