Review : Call of Duty 4: Modern Warfare มหากาพย์แห่งสงครามของเหล่านาวิกโยธิน

แชร์เรื่องนี้:
Review : Call of Duty 4: Modern Warfare มหากาพย์แห่งสงครามของเหล่านาวิกโยธิน
[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p][color=red]เหล่านาวิกโยธินเพิ่งพบเครื่องมือชิ้นใหม่ในการเกณฑ์ไพร่พล[/color][p]หาก [color=red]Call of Duty 4[/color] พอจะเป็นเครื่องบ่งชี้ใดๆ ถึงรูปแบบที่อเมริกาใช้ในการทำสงครามต่อต้านเหล่าผู้ก่อการร้ายระดับนานาชาติ สถานการณ์ตอนนี้คงจะดีกว่าที่เราเห็นในข่าวจากสื่อต่างๆ หรือจากพวกนักวิจารณ์การเมืองทั้งหลาย เพราะเกมยิงมุมมองบุคคลแรกของ Infinity Ward แสดงให้เราเห็นว่าเหล่าทหารในหน่วยรบพิเศษของสหรัฐและอังกฤษนั้นเป็นเครื่องจักรสังหารอันทรงประสิทธิภาพที่สามารถกวาดล้างกองกำลังฝ่ายตรงข้ามเป็นกองทัพโดยลำพังได้อย่างง่ายดาย รูปแบบแอ็กชั่นอันดุเดือดแนวแรมโบ้นี้เป็นผลพวงมาจากช่วงเวลาหลายปีในการขัดเกลารูปแบบเกมยิงแหลกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เหล่าแฟนเกมในซีรีส์ Call of Duty ที่มีเครื่องหมายการค้าเป็นสโลแกนที่ว่า “ยิงก่อนโดยไม่ต้องถามเหตุผล” จะได้รับความพอใจอย่างยิ่งจากรูปแบบการยิงต่อสู้ในสถานการณ์แบบโกลาหลรวมถึงการแสดงภาพการต่อสู้ได้อย่างดุเดือดในเกมภาคต่อนี้ แต่โชคไม่ดีนักสำหรับนักเล่นเกมระดับฮาร์ดคอร์ที่คาดหวังถึงแคมเปญการเล่นเดี่ยวที่ลุ่มลึกและเล่นได้อย่างยาวนานอาจรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งให้หนาวเหน็บโดยไม่ได้รับการเหลียวแล[p]แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแคมเปญการเล่นเดี่ยวใน [color=red]Call of Duty 4[/color] นั้นน่าเบื่อ ในทางตรงกันข้ามเรื่องราวในโหมดการเล่นเดี่ยวของเกมนี้ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์การทำสงครามที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดเท่าที่เคยมีการบอกเล่ากันมาในโลกของวิดีโอเกมเลยทีเดียว เกมได้ดึงเอาแบบอย่างการนำเสนอมาจากซีรีส์ทางโทรทัศน์อย่างเช่นเรื่อง 24 (รวมถึงยืมโครงเรื่องของ 24 มาไม่น้อยด้วยเช่นกัน) ซึ่งให้คุณได้ปลดปล่อยแสดงทักษะในการยิงต่อสู้ในภารกิจระดับนานาชาติเพื่อตามหาหัวรบนิวเคลียร์ที่หายไป โดยจะมีภารกิจแบบเส้นตรงให้เลือกเล่นจากมุมมองของสองบทบาทคือภารกิจตามล่าพวกกบฏตะวันออกกลางในฐานะของพลทหาร Paul Jackson ของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ หรือในภารกิจตัดรากถอนโคนพวกคลั่งลัทธิชาตินิยมชาวรัสเซียในฐานะ “Soap” MacTavish สมาชิกในหน่วย SAS ของสหราชอาณาจักร ผ่านทางฉากคัตซีนและบทสรุปย่อของภารกิจที่น่าติดตามในการไล่ล่าตามรอยหัวรบนิวเคลียร์และจับกุมผู้นำกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง ผู้เล่นจะได้รู้สึกถึงสถานการณ์ที่ฉุกเฉินและความสำคัญอย่างยิ่งยวดของตัวละครที่มีต่อเหตุการณ์ หน้าที่ของคุณในคราวนี้จะไม่ใช่แค่การปลดปล่อยอิสรภาพให้กับหมู่บ้านเล็กๆ ในฝรั่งเศสอีกต่อไป เพราะนี่คือการประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายทั่วโลก[p]ภารกิจจากมุมมองของตัวละครฝ่ายอเมริกันนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง เพราะคุณจะต้องเผชิญหน้ากับการระดมยิงอย่างบ้าคลั่งทุกหัวเลี้ยว อย่างเช่น ในภารกิจ War Pig ที่คุณต้องคุ้มกันรถถังแบบ Abrams ผ่านเส้นทางถนนที่ซับซ้อนในเมืองโดยที่มีทหารฝ่ายศัตรูนับร้อยคอยแอบซุ่มโจมตีขบวนของคุณทั้งจากภายในและดาดฟ้าของอาคารต่างๆ ห่ากระสุนที่ปลิวว่อนและพวยควันของจรวดต่อต้านรถถังช่วยสร้างบรรยากาศของสงครามที่อลหม่านได้อย่างสมจริงเมื่อรถที่ระถูกระเบิดเขย่าจอภาพและสะเทือนลำโพงของคุณ ภาพการเคลื่อนไหวของเหล่าทหารตามสคริปต์ที่น่าทึ่งยิ่งช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉาก คุณจะได้เห็นเหล่าทหารทั้งฝ่ายเดียวกันและศัตรูพากันสไลด์ตัวเข้าหาที่กำบัง, ร้องตะโกนเพื่อขอกำลังสนับสนุนและสาดกระสุนผ่านมุมตึกโดยไม่เสี่ยงโผล่หน้าออกมามอง การปะทะกันอย่างดุเดือดเร่าร้อนจะทำให้คุณได้เห็นบรรยากาศของการทำสงครามสมัยใหม่ไม่ต่างจากที่คุณได้เคยเห็นจากทางโทรทัศน์หรือภาพยนตร์[p]แต่นอกเหนือไปจากบรรยากาศที่น่าตื่นใจแล้ว รูปแบบการเล่นหลักของเกมกลับไม่สามารถนำเสนอความท้าทายใหม่ๆ ให้กับนักเล่นเกมระดับฮาร์ดคอร์ได้ ในการเล่นด้วยระดับความยากปานกลางผมพบว่ามันง่ายอย่างเหลือเชื่อในการยิงพวกศัตรูที่โผล่ออกมาตามมุมตึก, แอบซุ่มอยู่บนหลังคา หรือกรูกันไปตามช่องทางแคบๆ และการที่สามารถยิงกระสุนทะลุกำแพงได้ยิ่งทำให้การกำจัดพวกเหล่าร้ายง่ายยิ่งขึ้นไปอีก จนทำให้มันเหมือนกับเป็นเกมตีหัวตัวตุ่นในเวอร์ชั่นภาพตระการตาเสียมากกว่า แม้ว่าพวกตัวตุ่นเหล่านี้จะสามารถยิงโต้ตอบกลับมาได้อย่างดุเดือดและบางครั้งถึงกับแม่นยำด้วยก็ตาม แต่ยังไงความง่ายดายเกินไปที่ผมรู้สึกได้เมื่อตะลุยการต่อสู้ในความมืดผ่านทุ่งข้าวสาลีในรัสเซียหรือในเมืองแถบอาหรับย่อมทำให้ความหลงใหลในเกมลดทอนลงไปอย่างแน่นอน แม้จะต้องยอมรับว่ารูปแบบการเล่นสไตล์อาเขดนี้คงเป็นที่ชื่นชอบของนักเล่นเกมหลายคนแต่ผมกลับคิดว่าเกมยิงระดับ “Next-generation” ควรที่จะสามารถท้าทายเราได้มากกว่าแค่การนำเสนอภาพที่น่าตื่นเต้นตระการตาเท่านั้น[p]ภารกิจที่โดดเด่นสองสามภารกิจที่ถือได้ว่าสามารถนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ยังไม่วายถูกลดทอนคุณค่าลงด้วยข้อบกพร่องบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ในภารกิจหนึ่งที่วางให้คุณเป็นพลประจำป้อมปืนบนเครื่องบิน AC-130 เพื่อสาดกระสุนใส่เหล่าศัตรูที่วิ่งแตกกระจายกันอยู่ด้านล่างในขณะที่คุณบินอยู่เหนือสมรภูมินับไมล์ โดยที่สามารถแยกแยะตำแหน่งศัตรูด้านล่างได้ด้วยกล้องตรวจจับความร้อน ภารกิจ “หัตถ์ของพระเจ้า” นี้เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการยิงต่อสู้กันในระดับพื้นดินได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าเสียงบรรยายที่ไม่หยุดหย่อนอันน่ารำคาญจากทั้งนักบินและพลชี้ตำแหน่งกลับทำลายประสบการณ์อันน่ารื่นรมย์ของผมไปให้กลายเป็นตรงกันข้ามไปเสียได้อีกภารกิจหนึ่งที่กล่าวถึงสถานการณ์ในเมือง Pripyat ที่วางให้คุณเป็นพลซุ่มยิงในชุดพรางตัวที่ลอบเข้าไปอยู่หลังแนวรบของศัตรูเพื่อทำภารกิจลอบสังหาร ซึ่งสามารถจัดวางพื้นที่ฉากได้อย่างชาญฉลาดทำให้คุณต้องติดอยู่ใจกลางทุ่งราบในขณะที่ขบวนรถถังและทหารกำลังเคลื่อนผ่าน แต่ผมกลับไม่เคยรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ เลยตราบเท่าที่ผมคอยเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่กำหนดให้โดยผู้บังคับบัญชาที่แสนสุดยอดของผม ซึ่งสำหรับภารกิจเช่นนี้ผมรู้สึกว่ามันง่ายดายเกินไปที่สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจพบโดยแค่เคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว Call of Duty 4 ดูเหมือนจะโอนอ่อนผ่อนตามให้กับผู้เล่นมากเกินไปตราบเท่าที่คุณเล่นไปตามแนวทางที่เกมกำหนด ซึ่งโชคไม่ดีเลยที่มันทำให้รู้สึกเหมือนต้องยินยอมรับประสบการณ์เช่นเดียวกับนักเล่นเกมคอนโซล[p]แต่หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นภารกิจจากแคมเปญในโหมดผู้เล่นเดี่ยวแล้ว (ผมใช้เวลาแค่หกชั่วโมงในการทำภารกิจสำเร็จทั้งหมด) คุณจะพบว่าองค์ประกอบในส่วนของการเล่นแบบหลายผู้เล่นสามารถกู้คืนข้อบกพร่องแทบทั้งหมดในโหมดผู้เล่นคนเดียวได้ การเล่นแบบ Deathmatch ในแผนที่ทั้ง 16 ฉากที่มาพร้อมกับเกมสามารถสร้างความพึงพอใจ ทั้งยังสามารถนำคุณสมบัติอย่าง การระเบิด การยิงทะลุกำแพงมาใช้ประโยชน์ในการเล่นได้อย่างลงตัว การเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่เป็นมนุษย์นั้นเป็นความเร้าใจอย่างแท้จริง และแผนที่ทุกฉากล้วนถูกออกแบบให้สามารถเข้าโจมตีได้จากหลายทิศทาง รวมถึงตำแหน่งซุ่มยิงหลายแห่ง ผมเพลิดเพลินกับโหมดการเล่นในแบบกองบัญชาการเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละทีมมีหน้าที่ต้องเข้ายึดฐานที่มั่นของศัตรูและพยายามตั้งแนวรับไว้ในระหว่างที่เตรียมการวางระเบิดมัน และเพื่อเพิ่มความเร้าใจในการต่อสู้คุณสามารถเลือกเปิด Realism Mode ซึ่งจะทำให้การวิ่งเต็มฝีเท้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หรือการรักษาอาการบาดเจ็บอย่างไม่จำกัดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป[p]นวัตกรรมอื่นๆ ในโหมดหลายผู้เล่นที่น่าประทับใจก็คือ รูปแบบการตอบแทนสำหรับศักยภาพในการต่อสู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว หากสามารถสังหารศัตรูได้ติดต่อกันถึงจำนวนที่กำหนดคุณก็จะได้รับการสนับสนุนจาก UAV (ที่จะชี้ให้เห็นตำแหน่งของศัตรูบนเรดาร์) หรือการโจมตีสนับสนุนจากทางอากาศ คะแนนที่สะสมได้จากชัยชนะและจำนวนศัตรูที่สังหารได้จะตอบแทนให้คุณในรูปของการเลื่อนตำแหน่ง อาวุธรวมถึงอุปกรณ์ใหม่ๆ ผมชื่นชอบความสามารถในการเลือกปรับแต่งทหารประเภทต่างๆ ซึ่งมีอาวุธและความสามารถที่แตกต่างกัน อย่างเช่น เพิ่มความเสียหายที่ศัตรูได้รับจากกระสุน หรือความสามารถในการยิงศัตรูด้วยปืนพกในขณะที่คุณกำลังจะตาย ความสามารถเฉพาะที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ Martyrdom ซึ่งทำให้คุณสามารถทิ้งระเบิดมือที่พร้อมระเบิดไว้เมื่อถูกฆ่า เป็นวิธีที่เหมาะมากสำหรับการล้างแค้น[p][color=red]Call of Duty 4[/color] เป็นเกมยิงอันเร้าใจซึ่งสามารถนำเสนอรูปแบบเกมยิงที่ดีที่สุดของยุคที่ผ่านมา แคมเปญในโหมดผู้เล่นเดี่ยวเต็มไปด้วยบรรยากาศของการยิงและระเบิดอย่างเพียงพอที่จะทำให้คุณสนใจได้พักนึง แต่สำหรับองค์ประกอบในโหมดหลายผู้เล่นแล้วจะสามารถดึงให้คุณต้องเล่นมันต่อไปอีกนานนับเดือน[color=darkred][p]เรื่อง : NORMAN CHAN[p]เรียบเรียง : ยุทธนา กางธนทรัพย์[/color][center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=47778]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=47779]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][color=darkblue]ความเห็นที่สองโดย ภุชชงค์ เกวียกกุทัณฑ์คะแนน 91%[/color][p]สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้จากการเล่นเกมนี้ก็คือ รูปแบบการรบที่เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา ด้วยบรรยากาศภายในเกมที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเหตุการณ์จะวุ่นวายและสับสนโดยตลอด แต่ทางทีมงานผู้สร้างเกมได้จัดวางลำดับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย การเล่าเรื่อง รวมถึงการถ่ายทอดอารมณ์ของสงครามที่สับสนวุ่นวายได้อย่างสุดยอด ทำให้เรารู้สึกว่ามีส่วนร่วมภายในเกมและอยากติดตามการดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ พูดง่ายๆ ก็คืออยากจะเล่นให้จบเกมไปเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องและรูปแบบการเล่นภายในเกมมักจะทำให้เราตื่นเต้นและประทับใจอยู่เสมอ เช่น การซุ่มยิงหัวหน้าผู้ก่อการร้ายในระยะไกล โดยมีเพื่อนเป็นคนชี้เป้า ทั้งนี้เราต้องคำนวณทิศทางลมและวิธีกระสุน การยิงปืนกลบนเฮลิคอปเตอร์ การไปที่จุดเป้าหมายเพื่อเรียกกองกำลังภาคพื้นอากาศมาสนับสนุน และช่วงท้ายของเกมที่บีบอารมณ์สุดๆ ผมได้แต่บอกตัวเองว่า โอ้...มันช่างสุดยอดจริงๆ และผมจะไม่บอกว่าในช่วงตอนท้ายเกมจะมีลักษณะอย่างไร ต้องให้คุณไปลองเล่นเองดีกว่าครับ [p][color=blue]FINAL VERDICT 91%[/color][color=darkred]ข้อดี[/color] : นำเสนอบรรยากาศการต่อสู้ที่น่าตื่นใจ ; กราฟิกที่โดดเด่น ; รูปแบบและฉากในโหมดหลายผู้เล่นอันเยี่ยมยอด[color=darkred]ข้อด้อย[/color] : ศัตรูที่ไม่ค่อยเฉลียวฉลาด ; ภารกิจเป็นเส้นตรง ; แคมเปญการเล่นเดี่ยวที่แสนสั้น[color=darkred]โดยรวม[/color] : รูปแบบการทำสงครามสมัยใหม่และการเล่นออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมเพียงพอต่อการยกระดับให้รูปแบบการเล่นเดี่ยวอันแสนโบราณให้ดูดีได้[p][color=blue]VITAL STATS[/color]ประเภท : First-Person Shooter ผู้พัฒนา : Infinity Ward ผู้ผลิต : Activision ผู้จัดจำหน่าย : - เครื่องที่ต้องการ : P4 2.4GHz, 512MB RAM (768MB for Vista), 128MB 3D card เครื่องที่แนะนำ : P4 2.4GHz Dual Core, 2GB RAM, 256MB Shader-model 3.0-compatible 3D card จำนวนผู้เล่นสูงสุด : 32 ESRB RATING : M
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ