Ragnarok Online : Paladin อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ต่อสู้เพื่อรับใช้พระเจ้า

[center][img=45953]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][b][color=red]ตู้เย็นอย่างเราเกิดมาเพื่อเผา[/color][/b][/center][p]จะมีใครหน้าไหนบ้างที่กล้าปฏิเสธว่า สุดยอดแห่งแทงค์เกอร์คือ Paladin ผู้เกิดมาเพื่อปกป้องเพื่อนเพียงอย่างเดียว และเป็นสายอาชีพเพียงสายเดียวที่ใช้โล่เป็นอาวุธ และสามารถใช้ได้ดีไม่แพ้อาวุธอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Guild War สนามรบแห่งศักดิ์ศรีของนักรบทุกคนที่มีเกียรติยศและความมั่งคั่งรอคอยอยู่[p][color=red]Matyr’s Reckoning ชำระหนี้บัญชีเลือด[/color][p]หลังจากการเข้ามาของไฮคลาส บทบาทของ Paladin ก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นเพียงแค่ “ตู้เย็น” ที่คอยทำหน้าที่กางดีโวชั่นปกป้องผองเพื่อนและอัดแกรนด์ครอสเผาศัตรูที่สะเหร่อเข้ามารนหาที่ และใช้โล่อย่างพลิกแพลงกลายมาเป็น “ควายธนู” ที่พร้อมจะไล่ขวิดทุกอย่างให้บรรลัย ด้วยสุดยอดของสกิลพิฆาตอย่าง Matyr’s Reckoning ซึ่งเป็นสกิลโจมตี 5 ครั้ง โดยสละ HP 9% ต่อการโจมตี 1 ครั้ง และหากมี HP ต่ำกว่า 9% ผู้ใช้จะตายทันที แต่เนื่องจากข้อดีของมันคือการไม่คิดค่า Flee และ DEF ทำให้สกิลนี้สามารถพลิกทัศนคติที่มีต่อ Paladin จากผู้รักษาประตูมาเป็นศูนย์หน้าจอมถลุงได้ทีเดียว[p]สกิล Matyr’s Reckoning จะมีสูตรคำนวณความแรงที่เลเวลสูงสุดของสกิลดังนี้คือ [Damage = 1.4 x 9% ของ Max HP] นั่นหมายความว่าหากผู้ใช้ยิ่งมีเลือดมากเท่าไหร่ สกิล Matyr’s Reckpning จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เช่น Paladin มีเลือด 20,000 จะได้ความแรงตามสูตรคือ [Damage = 1.4 x 1800] โดยตัวเลข 1,800 คือจำนวน 9% ของค่า Max HP ที่เราต้องใช้ โดยเราจะได้ผลลัพธ์คือ 2,520 นอกเหนือจากในสูตรคำนวณนี้แล้ว Matyr’s Reckoning ยังมีเงื่อนไขของสกิลอีกตามนี้คือ• คำนวณค่าความเสียหายจากการ์ดเพิ่มความรุนแรง ซึ่ง การ์ดที่เหมาะสมจะเป็นชุดเทพควายธนู คือ 3 Hydra 1 Skeleton Worker ซึ่งจะเพิ่มความเสียหายให้อีกถึง 184% ทีเดียว• สามารถหลบได้เฉพาะการหลบแบบ Perfect Dodge เท่านั้น• เครื่องประดับ The Sign สามารถเพิ่มความรุนแรงของสกิลได้อีก 5%• การโจมตีที่ออกมาจะนับเป็นธาตุปกติ สามารถป้องกันได้ด้วยการ์ด Ghostring และ ลดพลังโจมตีได้ด้วยอุปกรณ์ที่ลดความเสียหายจากการโจมตีของพวกกึ่งมนุษย์ลง อย่างเช่น โล่กบแดง หรือหมวกอุจจาระ, หมวก ร.ด. เป็นต้น• สามารถถูกสะท้อนกลับได้ด้วย Reflect Shield• โบนัสการโจมตีจากสกิล Magnum Break มีผลช่วยเพิ่มความแรงของสกิล• การ์ด Baphomet ไม่สามารถกระจายขอบเขตการโจมตีได้[center][img=45954]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]รับไปเลยบัญชีเลือด[/color][/center][p]ค่าสเตตัสของ Paladin สายนี้จะเน้นไปที่ค่า VIT เป็นอันดับแรก พูดง่ายๆ คืออัดมาให้เต็ม 99 และยิ่งถึกยิ่งเลือดเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมันคิดความแรงตามค่า Max HP รองลงมาคือค่า AGI เนื่องจาก Matyr’s Reckoning เป็นสกิลที่มีการโจมตีต่อเนื่องถึง 5 Hit จึงต้องมีค่า ASPD ในระดับหนึ่ง โดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 175+ ตามด้วยค่า STR ที่ต้องอัพเพื่อจะแบกของ และเก็บเลเวลได้เองในช่วงต้นๆ เพราะว่า Matyr’s Reckoning นั้นไม่คิดค่า ATK ในการคำนวณ แต่เราต้องมีค่า STR สำหรับการแบกไวท์จำนวนมหาศาล เพราะในกิลด์วอร์ขาดไวท์เหมือนขาดใจ ถึงเราจะถึกแค่ไหน แต่ถ้าหากเลือดลดไปรอบละ 45% เพราะสกิลนี้ การจะมานั่งรอฮีลหรือรอเลือดเด้ง คงไม่น่าปลื้มอย่างแน่นอน ส่วนค่า INT นั้นที่ต้องอัพเพื่อเพิ่มความถึกให้กับตู้เย็นฉลากเบอร์ 5 ของ Paladin อย่างเราๆ ท่านๆ เพราะค่า INT จะเพิ่ม MDEF ทำให้เรากลายเป็นตู้เย็นจอมถึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายคือค่า DEX อัพให้ DEX รวม = 20 ก็พอ[p]สกิลที่ต้องอัพมาเพื่อให้ถึง Matyr’s Reckoning นั้นจะมีดังนี้คือ • Provoke 5 • Endure 1 • Faith 10 • Holy Cross 6 • Grand Cross 4 • Auto Guard 5 • Shield Charge 3 • Shield Boomerang 3 • Reflect Shield 5 • Devotion 3 • Matyr’s Reckoning 5[p]รวมทั้งหมดคือ 44 พ้อยท์ ที่เราจะใช้และในส่วนที่เหลืออีก 25 พ้อยท์ นั้นสามารถเลือกที่จะกลับไปอัพสกิลจำเป็นอย่าง Auto Guard กับ Reflect Shield ให้เต็ม 10 เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกัน และ Devotion จาก 3 ให้เต็ม 5 เพื่อสนับสนุนเพื่อนพ้องได้เต็มที่ หรือจะอัพ Pecopeco Riding เพื่อขี่เป็ดอันเป็นเครื่องหมายการค้าของ Paladin ทำให้ความว่องไวในการเดินสูงขึ้นเมื่ออยู่บนหลังเป็ด และสามารถแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้อีก 1,000 หน่วย ตามด้วย Cavalier Mastery 5 เพื่อดึงเอา ASPD ให้กลับมาเป็นปกติ เนื่องจากเราต้องใช้ ASPD ในการฆ่าให้ไวที่สุด[p]การเสริมประสิทธิภาพความเทพของสกิล Matyr’s Reckoning นั้น นอกเหนือจากการเพิ่มเลือดแล้ว เรายังสามารถทำได้โดยการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้เป็นเซ็ตพิฆาตไพรีพินาศไปเลย ได้แก่ หมวก Zealotus ที่เพิ่มพลังโจมตีพวกกึ่งมนุษย์อีก 5% เครื่องประดับ The Sign ที่เพิ่มความแรงของสกิลให้อีก 5% และเซ็ตการ์ดพิฆาต 3 ไฮดร้า 1 เหมือง ที่เพิ่มความแรงอีก 184% เมื่อนำมาคิดรวมๆ แล้วความแรงของสกิลเพิ่มขึ้นมาถึง 194% ทีเดียว แต่ข้อควรระวังคือในกิลด์วอร์นั้นประสิทธิภาพทางด้านความรุนแรงจะลดลงไปถึง 40% อันเนื่องมาจากกฎกติกามารยาท ดังนั้นควรทำใจไว้ด้วยนะคร้าบ[center][img=45955]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]เซ็ตนี้พิมพ์นิยม[/color][/center][p][b][color=red]บทบาทเชิงรุก[/color][/b] ในส่วนนี้หน้าที่ของเราไม่มีอะไรเลย นอกจากคอยขวิดฝ่ายตรงข้ามที่เป็นพวกตัวนิ่มๆ ที่บังเอิญสะเหร่อเข้ามาใกล้เท่านั้น และถ้าเราสามารถหลุดการป้องกันด่านแรกเข้าไปได้ เป้าหมายอันดับแรกคือสิงห์หมัดสั่ง พูดง่ายๆ ก็พวก Monk และ Champion นั่นเอง เพราะเจ้าพวกเกิดมาเพื่อต่อย หากหลุดไปได้แม้แต่ตัวเดียวก็คือวงแตก รองลงมาคือเหล่านักย่องเบาตัวแสบอย่าง Assassin Cross หรือ Stalker ที่มักจะชอบมุดเข้ามาก่อกวนอยู่ตลอด และพวกที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดคือเหล่า Sniper ที่จะวางกับดักเราและเพื่อนๆ ไว้ตลอด[p]และเมื่อหลุดการป้องกันเข้ามาในบ้านได้ ให้ดีโวชั่นเพื่อนๆ ให้ไวที่สุด ซึ่งจุดนี้จะทำให้เรากลายสภาพเป็นเหมือนกององครักษ์ขนาดย่อมไปเลยทีเดียว เพียงแต่หน้าที่ของเราในส่วนนี้จะเป็นการพาเพื่อนๆ ไปส่งยังหินโดยสวัสดิภาพ และคอยสอยพวกตัวนิ่มๆ ที่มาเกะกะขวางทาง โดยเฉพาะ Monk, Champion, Assassin Cross และอื่นๆ ไม่ว่าจะเข้ามาแบบถือโล่อะไรมาหรือไม่ก็ตาม เพราะสกิลมันไม่คิดค่า DEF และหวดไม่มีพลาดเนื่องจากไม่คิดค่า Flee โดยเฉพาะพวกที่เข้ามาเพราะหวังจะเก็บคนตีหินทางฝั่งเรา หรือแม้แต่ตอนที่เราพลาดติดกับดักของพวกสไนเปอร์ทั้งหลาย เราก็ได้สกิลนี้แหละในการข่มขวัญไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ แถมเราก็ไม่ต้องกลัวว่าศัตรูจะกระหน่ำเราอย่างหนัก เพราะขึ้นชื่อว่าตู้เย็น ใครก็ไม่อยากยุ่งด้วย เว้นแต่จะดองไว้เป็นเป้าหมายสุดท้าย แต่ถ้าพี่ท่านยกกันมาเป็นฝูงเป็ด อันนี้ก็จำเป็นต้องเสี่ยงดวงแล้วครับ[center][img=45956]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]โล่นี่แหละเฟ้ยอาวุธ[/color][/center][p][b][color=red]บทบาทเชิงรับ[/color][/b][p]จะคล้ายกับเชิงรุกในส่วนของการคุ้มกันเพื่อน เพียงแต่ในเชิงรับนี้หน้าที่เราคือการโยงสายใยรักดีโวชั่นให้กับเพื่อนๆ อย่างเช่น High Priest ที่ต้องทำหน้าที่แซงค์หิน หรือพวก Minstrel, Gypsy ที่ต้องซัพพอร์ต Wizard กับเหล่า High Wizard ด้วยบรากิ แล้วคอยซัดพวก Champion, Assassin Cross, Stalker และอื่นๆ ของฝ่ายตรงข้าม ยกเว้นพวกขบวนการเป็ดนรกด้วยกันที่เอาไว้เป็นเป้าหมายสุดท้ายเนื่องจากพวกเดียวกันย่อมรู้กันดีถึงความถึก หวดมันเข้าไปมันก็กดไวท์แข่ง นอกจากอยากวัดว่าไวท์ของใครจะหมดก่อนกัน แต่บอกก่อนว่าของเราหมดก่อนแน่นอน ยกเว้นมีหลวงพี่คอยฮีลอีกแรง รวมถึงพวก High Priest ที่เป็นเหมือนบ่อน้ำมันไม่มีวันหมด เพราะอัดไปเท่าไหร่พี่แกก็ฮีลคืนได้ทันตลอด แต่ถ้าอยากจะนึกสนุกอยากดวลความไวก็ไม่ว่ากัน ระหว่างไวท์ฉันกับ MP แก ดูซิว่าของใครจะไปก่อน[p][b][color=red]Battle Chant บทสวดศึก[/color][/b] [p]อีกหนึ่งสกิลที่เข้ามาเสริมความสมบูรณ์ให้กับ Paladin ในฐานะแนวป้องกัน ด้วยผลของสกิลที่จะกระหน่ำทุกคำสาปอันเลวร้ายใส่ศัตรู (เปลี่ยนจากบทสวดเป็นบทสาปได้มั้ยเนี่ย) และจะมอบผลด้านดีให้กับพรรคพวกกันเอง (ค่อยสมเป็นบทสวดหน่อย) เพียงแต่เงื่อนไขของสกิลนี้ค่อนข้างจะโหดร้ายไปนิดนั่นคือใช้แล้วไม่สามารถขยับตัวได้ แถมใช้ SP เยอะอีกต่างหาก ในส่วนของสายนี้เนื่องจากมีสายย่อยอยู่พอสมควร ค่าสเตตัสจึงไปได้อย่างหลากหลาย แต่ในที่นี้ขอเน้นเฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อ Guild War นั่นคือสาย Battle Chant + Grand Cross ซึ่งเป็นสุดรักสุดดวงใจสุดปรารถนาของทุกๆ กิลด์ ณ เวลานี้ เพราะมันหาคนเล่นยากเนื่องจากเน้นแต่การซัพพอร์ตล้วนๆ จะมีสักกี่คนที่ทุ่มเทเล่นเอง ยกเว้นจะมีกิลด์ไหนส่งทีมงานมาช่วยหนุนคอยให้ดูดจนอวบอ้วน[center][img=45957]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]งึมงำงึมงำ เข้ามาเอ็งง่อย[/color][/center][p]สกิล Battle Chant ที่เลเวล 10 จะมีผลทำให้เป้าหมายโอกาสติดผลสถานะต่างๆ 100 % ใช้ SP 100 ต่อการใช้สกิล 1 ครั้ง และเสีย HP 45 กับ SP 35 ทุกๆ 10 วินาที จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาของการใช้สกิล ซึ่งผลลัพธ์จะสุ่มออกมาตามด้านดีและร้ายได้[p][b][color=red]ผลด้านลบ[/color][/b][p]มีผลกับมอนสเตอร์และใน PVP กับกิลด์วอร์จะมีผลต่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามด้วย • สุ่มความเสียหายแบบไร้ธาตุตั้งแต่ 1-9,999 โดยไม่สนใจค่า DEF ค่า Flee หรือสกิลซัพพอร์ตต่างๆ อย่าง Kyrie Eleison ที่ติดตัวเป้าหมาย• ทำให้ฝ่ายตรงข้ามตาบอดในช่วงเวลาหนึ่ง• ทำให้ฝ่ายตรงข้ามติดสถานะ Curse ในช่วงเวลาหนึ่ง• ทำให้ฝ่ายตรงข้ามติดพิษในช่วงเวลาหนึ่ง• ฝ่ายตรงข้ามโดน Provoke เลเวล 10• ลด DEF ทุกประเภทของฝ่ายตรงข้ามให้เหลือ 0• ลด ATK ของฝ่ายตรงข้ามให้เหลือ 0• ลด Flee ของฝ่ายตรงข้ามให้เหลือ 0• ลด ASPD และ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้าม 75%[p][b][color=red]ผลด้านบวก[/color][/b][p]จะเกิดผลกับสมาชิกปาร์ตี้เท่านั้น รวมถึงในกิลด์วอร์ด้วย สกิลมีผลนาน 1 นาที ยกเว้นเพิ่ม DEF ตัวหน้า 25% ที่จะมีผลแค่ 10 วินาที• สุ่มฮีลตั้งแต่ 1-9,999• ลบสถานะผิดปกติทั้งหมดออกไป• Blessing เลเวล 10• Increase AGI เลเวล 10• ทำให้อาวุธกลายเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์• ทำให้เกราะกลายเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์• เพิ่มค่า Max HP เป็นสองเท่า• เพิ่มค่า Max SP เป็นสองเท่า• เพิ่มสเตตัสทุกอย่าง 20 หน่วย• เพิ่ม DEF ตัวหน้า 25% เป็นเวลา 10 วินาที• เพิ่มพลังโจมตีเป็นสองเท่า• เพิ่มค่า Flee และ HIT อีก 50• ทำให้ทนทานต่อการติดสถานะผิดปกติทุกประเภท[p]แค่ดูจากผลของมันก็รู้แล้วว่าสกิลนี้มันเทพขนาดไหน ไม่แปลกที่คนเล่นสายนี้จะมีแต่คนรักคนชอบ และต้องการตัวไปอยู่ด้วย เอาแค่เพิ่มค่าสเตตัสทุกอย่าง 20 ถ้าหากสุ่มได้ผลนี้ เขาก็รักตายแล้ว[p]สำหรับสาย Battle Chant + Grand Cross นั้น จะมีแนวทางการอัพสเตตัสดังนี้ คือ VIT เพื่อความถึก รองลงมาคือค่า INT เพื่อเพิ่ม Max MP และเพิ่มพลังทำลายของ Grand Cross อันเป็นสกิลโจมตีหลักๆ ที่เรามีอยู่ รวมถึงความถึกต่อเวทย์ ต่อมาคือค่า STR และ DEX ที่มีความสำคัญพอๆ กัน ซึ่งค่า STR จะเพิ่มความแรงของ Grand Cross และทำให้แบกของเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนค่า DEX จะทำให้ร่าย Grand Cross ได้เร็วยิ่งขึ้น [p]สำหรับสกิลที่ต้องอัพในสายนี้คือ • Provoke 5 • Endure 5 • Faith 10 • Holy Cross 6 • Grand Cross 10 • Auto Guard 5 • Shield Charge 3 • Shield Boomerang 3 • Reflect Shield 5 • Cure 1 • Divine Protection 3 • Demon Bane 5 • Battle Chant 10 • Pecopeco Riding 1 [p]รวม 62 พ้อยท์ ซึ่งถือว่าเยอะเอาการและทำให้เราเหลือสกิลพ้อยท์อีกเพียงแค่ 7 พ้อยท์ เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้เราจะต้องเลือกว่าจะอัพอะไรระหว่าง Gloria Domini กางเขนยักษ์จอมป่วนที่มีดาเมจคงที่และทำให้ศัตรูเสีย SP ได้สูงสุดถึง 40% กับ Devotion สายใยแห่งมิตรภาพของลูกผู้ชายหรือว่า Shield Chain มหาโล่โอ้โฮเฮะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน [center][img=45958]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=red]นับไหวปะ ว่าโล่กี่อัน[/color][img=45959]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]กางเขนหล่นตุ้บ[/color][/center][p][b][color=red]บทบาทเชิงรุก[/color][/b] [p]สายนี้ในเชิงรุกจะไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกจากการ Devotion พาเพื่อนมาส่งให้ถึงหิน และคอยใช้สกิลสายโล่อย่างเต็มกำลังเนื่องจากเราอัพมาครบอัตราศึก อย่างเช่น Shield Charge ตบให้มึน ตามด้วย Shield Chain ส่งมันไปพักผ่อนข้างนอกบ้าน หรือคอยร่าย Gloria Domini ใส่พวกสายเวทย์ให้เกิดอาการหลอนเล่นๆ[p]โดยเฉพาะหากเรามี Minstrel บรรเลงบรากิให้ เราก็สามารถร่าย Gloria Domini ได้เรื่อยๆ สร้างอาการหลอนอย่างรุนแรงกับเหล่าจอมเวทย์อย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเป็นพวกอาเสี่ยพกบลูยิ่งสนุกใหญ่ วัดกันไปเลยว่าบลูปะทะกางเขนใหญ่ อะไรมันจะไปก่อน แต่คนที่หลอนสุดคงไม่พ้นพวกเกิดมาต่อยทั้งหลาย ที่พลังทำลายของอาชูร่าจะหายไปกับ SP ที่เสียไป ถึงแกจะปั๊มบลูเพิ่มได้ ข้าก็ร่ายต่อได้ ตราบใดที่ยังยืนในบรากิ [p][b][color=red]บทบาทเชิงรับ[/color][/b] [p]ในเชิงรับนี้หน้าที่ของเราจะเปลี่ยนจากการเดินส่งเพื่อนไปเป็น รปภ เฝ้าประตูและคอย Grand Cross เผาผู้บุกรุกไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูกก็ย่อมได้ หรือการใช้ Battle Chant เพิ่มความสามารถให้กับเพื่อนๆ และถ้าหากศัตรูเกิดหลุดมาถึงห้องหินได้ หน้าที่ของเราก็ยังไม่จบ เพราะเรามีสกิลโล่เต็มพิกัด แค่ดีโวชั่นให้เหล่าพรีสท์ที่คอยแซงค์หินก็คุ้มแล้ว ส่วน Gloria Domini นั้น ในบทบาทเชิงรับจะไม่แตกต่างจากเชิงรุกมาก เพื่อลด SP ของศัตรู แต่ทำไปก็แค่นั้นเพราะพี่ท่านต้องพกมาทั้งไวท์ทั้งบลูอยู่แล้ว เพียงแต่ในเชิงรับการให้ความสำคัญกับเพื่อนที่คุ้มกันหินย่อมมาก่อนเสมอ เพราะถึงเวลาจริงไอ้การที่จะไปไล่ปล่อยกางเขนทับใครมันคงไม่ทันกินแน่ บ้านแตกไปแล้ว [center][img=45960]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]จำไว้ เรียกข้าว่าตู้เย็น[/color][/center][p][color=red]ก่อนเป็น Paladin[/color] [p]เนื่องจากใน RO Free Life นั้น ระบบ Guild War จะยังไม่มีเหล่าไฮคลาสเข้ามาเป็นตัวป่วนเกม ทำให้บทบาทหน้าที่ของเราต้องถูกลดทอนลง จากควายธนูอย่าง Paladin กลายมาเป็นตู้เย็นอย่าง Crusader แทน จึงไม่มีสกิลของไฮคลาส อย่าง Matyr’s Reckoning, Battle Chant และ Gloria Domini บทบาทที่เหลืออยู่ของเราจึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นการยืนกาง Devotion ให้กับเพื่อนๆ และใช้ Grand Cross ต้อนรับแขกที่เข้ามาทางประตูแทน[p]มาถึงจุดนี้แล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินในสายอาชีพใดก็ตาม ขอให้พึงระลึกไว้เสมอ ว่าบทบาทหน้าที่ในสายอาชีพของคุณคืออะไร หากหน้าที่ของคุณคือการแทงค์ คุณก็ต้องแทงค์ หากหน้าที่คุณคือการไล่ล่าคุณก็ต้องตามฆ่าจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย เพราะในกิลด์วอร์สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การโชว์ความเทพความเก๋าแต่อย่างใด แต่เป็นระเบียบวินัยและความสามัคคีเป็นใจเดียวกัน เพราะทุกอาชีพล้วนมีความสำคัญและบทบาทของตนที่เป็นเหมือนกุญแจสู่ชัยชนะ หากรักษาบทบาทหน้าที่ของตนเองไว้ได้ ชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อม

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้