-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- DotA Guide : Core Ultimate สกิลเด็ดเปลี่ยน Noob เป็น Inw
DotA Guide : Core Ultimate สกิลเด็ดเปลี่ยน Noob เป็น Inw
[p]ในการเล่นแบบทีมนั้นสิ่งสำคัญนอกจากความร่วมมือกันของ Hero ในทีมแล้ว การมี Hero ที่มีสกิลเด็ดพลิกเกมได้เวลาตะลุมบอนกันก็เป็นอีกหัวใจหลักในการเล่นทีมครับ ซึ่งสกิลดังว่าก็มักจะเป็นสกิล [b]Ultimate[/b] ที่มีผลแบบ [b]Mass Disable[/b] นั่นเอง ซึ่งการหยุดยั้งฝ่ายตรงข้ามหลายๆ ตัวพร้อมๆ กันในจังหวะปะทะนั้นจะส่งผลต่อรูปเกมเป็นอย่างมาก แม้ในเลนจะถูกกดจนไอเทม และเลเวลด้อยกว่าอีกฝ่าย แต่ถ้าในการตะลุมบอนมีการเปิดเกมดีๆจาก Mass Disable แบบนี้ก็มีสิทธิ์พลิกชนะอีกฝ่ายที่เลเวลสูงกว่า และไอเทมดีกว่าได้เช่นกัน และ Hero เหล่านี้ก็จะเป็นหัวใจหลักในการประสานการเล่นของทีมให้ร่วมแรงร่วมใจกันในเกมรุกหรือเกมรับอีกด้วย ในฉบับนี้ก็จะมานำเสนอ Hero 6 ตัวที่มี Ultimate พลิกเกมได้ให้อ่านกัน ทั้ง 6 ตัวนั้นก็คือ [b]Enigma, Faceless Void, Magnus, Omni Knight, Tide Hunter[/b] และ [b]Treant Protector[/b] ครับ [size=4][color=blue][b][i]Enigma – Black Hole[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Black Hole[/b][/color] - ใช้ร่วมกับ Midnight Pulse ของตัวเองเพื่อเพิ่ม DoT (Damage Over Time) ได้ ฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับผลจะหยุดการเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง ผลของสกิลจะดูดฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับผลมารวมกันยังจุดศูนย์กลาง ทำให้คอมโบกับสกิลจำพวก Wave หรือ AoE Nuke ได้ดีมาก มีผลกับ Hero ที่ใช้ Avatar อยู่ด้วย[color=darkblue][b]ข้อเสียของ Black Hole[/b][/color] - เป็นสกิลแบบ Channeling ซึ่งถูกหยุดยั้งขณะร่ายได้ และมีระยะร่ายไม่ไกลนัก ทำให้ฝ่ายตรงข้ามอาจไหวตัว และกระจายตัวกันออกก่อนจะถูกรวบหมู่ การใช้ให้ได้ผลจึงต้องการไอเทมเช่น Dagger of Escape เพื่อ Blink เข้าไปใช้แบบไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวได้[size=4][color=blue][b][i]Faceless Void – Chronosphere[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Chronosphere[/b][/color] - มีรัศมีที่กว้าง ประกอบกับตัว Void เองที่มีสกิล Time Walk ซึ่งคล้ายๆกับ Blink ทำให้การใช้งานสกิลนี้ทำได้ง่ายขึ้น ฝ่ายตรงข้ามที่โดนจะหยุดการเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือใช้สกิลได้จนกว่าจะหมดผล และแม้แต่ Hero ที่ใช้สกิล Avatar อยู่ก็จะโดนหยุดด้วยสกิลนี้เช่นกัน[color=darkblue][b]ข้อเสียของ Chronosphere[/b][/color] - ข้อเสียคือสกิลนี้มีผลกับผู้เล่นฝ่ายเดียวกันด้วย ทำให้การเล่นร่วมกับ Chronosphere ต้องทำจากภายนอกรัศมีทำการเท่านั้น เช่นให้เพื่อนโจมตี หรือยิงสกิลจากด้านนอกของ Chronosphere เข้ามา แต่ถ้าล้ำเข้ามาในรัศมีของ Chronosphere ก็จะถูกหยุดเช่นกัน จึงเป็นสกิลที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และคอมโบร่วมกับทีมได้ลำบาก[size=4][color=blue][b][i]Magnus – Reverse Polarity[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Reverse Polarity[/b][/color] - ผลของสกิลจะรวบฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดในรัศมีมากระจุกกันทันทีที่ใช้ จึงใช้คอมโบกับสกิล Wave และ AoE อื่นๆ ได้ง่าย ตัวสกิลมีผลในการ Stun ค่อนข้างนาน และมีดาเมจที่น่าพอใจ (ที่เลเวล 3 จะสตัน 4 วินาที และทำ 300 ดาเมจ)[color=darkblue][b]ข้อเสียของ Reverse Polarity[/b][/color] - จุดศูนย์กลางการใช้สกิลอยู่ที่ตัว Magnus เอง แปลว่าการจะใช้ให้ได้ผลจะต้องเข้าไปยืนกลางวงฝ่ายตรงข้ามซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหยุด และรุมโจมตี การจะใช้ให้ได้ผลจึงต้องอาศัย Blink จาก Dagger of Escape และการ Stun แบบนี้จะไม่เกิดผลกับฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในสภาพ Avatar[size=4][color=blue][b][i]Tide Hunter – Ravage[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Ravage[/b][/color] - มีผลแบบ Stun ซึ่งหยุดยั้งฝ่ายตรงข้ามได้แน่นอน เป็น Mass Disable ที่มีดาเมจค่อนข้างสูง ที่เลเวล 3 มีดาเมจถึง 450 มีรัศมีเกิดผลค่อนข้างกว้าง [color=darkblue][b]ข้อเสียของ Ravage[/b][/color] - มีระยะการ Stun ค่อนข้างสั้น ที่เลเวล 3 จะ Stun แค่ 1.8 วินาที จุดศูนย์กลางการใช้สกิลอยู่ที่ตัวเอง จึงมีข้อเสียเหมือนกับ Magnus และการ Stun แบบนี้จะไม่เกิดผลกับฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในสภาพ Avatar[size=4][color=blue][b][i]Treant – Overgrowth[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Overgrowth[/b][/color] – ตัว Treant เองมี Nature’s Guise ซึ่งทำให้หายตัวได้อยู่แล้ว แม้การใช้จะมีจุดศูนย์กลางที่ตัวเองแต่ก็หายตัวแอบเข้าไปใช้ได้ไม่ยาก เป็นสกิลที่ตรึงฝ่ายตรงข้ามไว้ได้ค่อนข้างนาน คือ 5 วินาที และมีดาเมจสูง คือ 85 ดาเมจต่อวินาที [color=darkblue][b]ข้อเสียของ Overgrowth[/b][/color] – แม้จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถโจมตีหรือเคลื่อนไหวได้ แต่ก็ยังใช้สกิลได้เหมือนปกติ ดังนั้นจึงมีผลกับพวก Nuker ค่อนข้างน้อย และจะแพ้ทาง Mass Disable ของ Hero ตัวอื่นๆ เพราะถ้าเราใช้ก่อนอีกฝ่ายจะใช้ของตัวเองสวนกลับมาได้[size=4][color=blue][b][i]Omni Knight – Guardian Angel[/i][/b][/color][/size][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red][b]ข้อดีของ Guardian Angel[/b][/color] – แม้จะไม่มีผลในการหยุดยั้งฝ่ายตรงข้าม แต่ทำให้ทีมของเราทุกคนที่ได้รับผลอยู่ในภาวะกึ่งอมตะเป็นเวลานานมาก (ที่เลเวล 3 มีผล 9 วินาที) การโจมตีทางกายภาพแทบจะไม่เกิดผลใดๆ กับ Hero ที่อยู่ภายใต้ผลของสกิลนี้ รวมทั้งเวทย์ที่เป็น Damage over time ก็มีผลน้อยลงเช่นกัน[color=darkblue][b]ข้อเสียของ Guardian Angel[/b][/color] – สกิล Nuke แรงๆ ยังคงมีผลกับ Hero ภายใต้ผลของสกิลนี้อยู่[size=4][color=blue][b][i]สรุป[/i][/b][/color][/size][p]จะเห็นได้ว่าสกิล Ultimate ของ Hero ทั้งหกตัวนั้นถ้าใช้อย่างถูกจังหวะจะสามารถพลิกเกมได้ไม่ยาก เพียงต้องอาศัยความร่วมใจกันของเพื่อนร่วมทีม ฉกฉวยโอกาสทองที่ได้จากการใช้ Ultimate เหล่านี้ให้ได้มากที่สุด แล้วก็จะพบว่าสามัญชนที่ร่วมใจกันก็สามารถเอาชนะเทพเซียนที่ต่างคนต่างเล่นได้ครับ