-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- เปิดตำนาน จุดเริ่มต้นเผ่า Kamael เผ่าพันธ์ผู้ต่อต้านทวยเทพ
เปิดตำนาน จุดเริ่มต้นเผ่า Kamael เผ่าพันธ์ผู้ต่อต้านทวยเทพ
[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center] [p]หลังจากเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในระหว่างเหล่าเทพเจ้า สรรพสิ่งต่างๆบนโลกล้วนแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย พวกยักษ์เริ่มหมดศรัทธาในตัวเทพเจ้า พวกยักษ์ส่วนใหญ่ได้แยกตัวออกมาเพื่อก่อตั้งหน่วยวิจัยขึ้น สำหรับสร้างอาวุธเพื่อต่อกรกับอำนาจของเทพเจ้า การวิจัยที่อันตรายที่สุดในหน่วยวิจัย อาร์บีเทร์ คือ การวิจัยเกี่ยวกับชีวิต เป็นการวิจัยที่เริ่มต้นจากเป้าหมายทางการแพทย์ และค่อยๆกลายเป็นการวิจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมา เช่น การพัฒนาพันธุ์สัตว์โดยการหลอมรวมสิ่งมีชีวิต (การวิจัยกรรมพันธุ์) [center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center] [p] KAMAEL ถูกสร้างขึ้นมาจากการพัฒนาเผ่าพันธุ์ให้สามารถใช้เวทย์ได้โดยไม่ต้องพึ่งท่วงทำนองและแทบจะไม่ได้รับการแทรกแซงใดๆจากเหล่าเทพเจ้าเลย วิญญาณนั้นสำเร็จขึ้นด้วยการมี น้ำแร่มีมีร์เป็นพื้นฐาน, พลังชีวิตบริสุทธิ์ และกฏแห่งความวุ่นวายที่นำมาจากปีศาจ ณ ตอนนั้นคามาเอลถูกกำหนดให้มีร่างกายที่แข็งแรงที่สุด มีการนำทักษะของอันเดธมาใช้ มีพลังเวทย์สร้างอยู่ภายในร่างกายที่เกือบเป็นอมตะ พวกเขาจึงถูกตั้งชื่อว่า “คามาเอล” ซึ่งมีความหมายว่า 'ผู้ล่าพวกมีชีวิตนิรันดร์' (Immortal Killer) [p]คามาเอลถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถที่ล้ำเลิศพวกเขามีพลังชีวิตที่ใกล้เคียงกับความอมตะ และใช้เวทมนตร์ได้ดั่งที่ใจต้องการ ทว่า ประสิทธิภาพของความสามารถกลับไม่ค่อยดีนัก แม้พวกเขาจะแข็งแกร่งมากในระดับหนึ่ง แต่ก็อ่อนแอกว่าพวกยักษ์ที่แข็งแรงที่สุดอยู่ดี ด้วยมาตรการเพื่อหวังแก้ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งนี้ยักษ์ส่วนใหญ่คิดว่าหากพัฒนาปรับปรุงคามาเอลต่อไปจะต้องดีกว่าเทพเจ้าได้สักวันยักษ์ที่เชื่อในโครงการนี้ได้ตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “ สปีคูลา ” (หอกที่พุ่งตรงไปยังเทพเจ้า) สิ่งที่เป็นผลลัพธ์ของการวิจัยสปีคูลาเป็นไปตามความคิด คามาเอลเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง, ไม่แก่และมีพลังใจล้ำเลิศ หลังผ่านการพัฒนาปรับปรุงมานับครั้งไม่ถ้วน สิ่งที่ได้มีความเป็นตัวเองยอดเยี่ยมในระดับหนึ่งและมีปฏิกิริยากับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างดีเยี่ยม [p] ผลงานวิจัยของยักษ์ได้ล่วงรู้ถึงเทพเจ้าโดยชนเผ่าอาร์เทียผู้ที่ถูกซ่อนอยู่ในตำนานจนถูกลืม ในบรรดาเทพเจ้าทั้งหมดมีเพียงเทพเจ้าไอน์ฮัดซัดเท่านั้นที่คิดจะสั่งสอนพวกยักษ์ เธอยอมไม่ได้ที่จะให้พวกยักษ์ท้าทายอำนาจของเทพเจ้า เทพเจ้าไอน์ฮัดซัดได้เรียกตัวภูติที่เหลือในโลกภูติแห่งแสงและธิดาทั้งเก้ามาช่วยในการรบ [p]สงครามครั้งต่อมาเริ่มต้นขึ้น เหล่าธิดาของเทพเจ้าไอน์ฮัดซัดมีบทบาทมาก และมีส่วนทำให้ลีโอโพล์ดถูกทำลายลง, นักดาบผู้ถือเอนูมา เอรีซูถูกหอกแห่งแสงของธิดาคนที่ห้าแทงทะลุร่างจนตาย พวกยักษ์เริ่มกระวนกระวาย ธิดาทั้งเก้าแตกต่างกับเทวดาหรือภูติแห่งแสงทั่วๆไป การจะต่อสู้กับพวกนางโดยไม่มีเอนูมา เอรีซูหรือลีโอโพล์ดนั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินกำลังเกินไปสำหรับพวกยักษ์ เกาะท้องฟ้าร่วงหล่น, ป้อมก็กำลังพัง เหล่ายักษ์เตรียมส่งคามาเอลสปีคูลา อาวุธชิ้นสุดท้ายของตนออกสู่สนามรบ [p] สปีคูลา คามาเอล ได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของสงคราม การโจมตีของเหล่าธิดาทั้งเก้าไม่สามารถทำลายสปีคูลาตัวเล็กๆ นี้ได้แสงที่สร้างขึ้นได้มลายหายไปด้วยพลังเวทย์ต้านมหาศาลของสปีคูลา พลังของเทพเจ้าทำอะไรนักรบตัวเล็กๆ เหล่านี้ไม่ได้เลย ขณะที่ธิดาทั้งเก้ากำลังทำอะไรไม่ถูก นักรบแห่งสปีคูลาคามาเอลก็หยิบ เอนูมา เอรีซูขึ้นมากวัดแกว่ง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบขึ้นมหาศาล เสื้อเกราะที่ธิดาคนที่สองของเทพเจ้าไอน์ฮัดซัดใส่คลุมอยู่ได้ฉีกขาด และนางก็ถูกส่งกลับไปด้วยอนุภาคของแสง นักรบของฝ่ายยักษ์มุ่งการโจมตีไปทีเทพเจ้าไอน์ฮัดซัด สายรุ้งแห่งแสงที่เทพเจ้าไอน์ฮัดซัดสร้างขึ้นถูกแทงทะลุ ท้องฟ้าฉีกขาด ผิวของพระเจ้าที่ไม่เคยเกิดรอยแผลกลับเกิดบาดแผลขึ้น เทพเจ้าไอน์ฮัดซัดที่ถอยทัพหนีไป ได้แสวงหาวิธีขจัดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั่วทวีปนั่นก็คือ พลังอำนาจมหัศจรรย์ของความตาย ( Rain of coloress fire) [p] เทพเจ้ากรังคายน์ที่ได้ข่าวนี้รีบไปหานางอย่างรีบร้อนการทำลายล้างโลกไม่ใช่หน้าที่ของนาง เทพเจ้ากรังคายน์ห้ามไม่ให้ไอน์ฮัดซัดใช้วิธีนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ให้ยืมค้อนดวงดารา อาวุธทำลายล้างวงกว้างแทนเทพเจ้าไอน์ฮัดซัดได้เล็งค้อนดวงดาราไปยังกรองแพเรียน เมืองหลวงของยักษ์ ที่นั่นมีพวกยักษ์และสปีคูลาอยู่กันมากมา ทันทีที่เทพเจ้าไอน์ฮัดซัดทุบค้อนนั่นลง ลูกไฟสีแดงก็ตกลงไปบนเมืองของยักษ์... [center][img=34373]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][center][img=34374]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][center][img=34375]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center]หลังจากกรองแพเรียนล่มสลายลง การส่งความคิดหรือเหุตผลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โครงการเมซูเซลาต้องมีมาตรการในการป้องกันตนเอง อาณาจักรของตนได้มาถึงช่วงเวลาที่เผชิญกับการล่มสลายแล้ว สำนักวิจัยเมซูเซลาต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง พวกยักษ์ส่วนหนึ่งคิดว่าถ้าเพียงแค่มีคามาเอล ก็จะสามารถอยู่รอดได้ และพวกเขาไม่ต้องการทำลายสำนักวิจัยเมซูเซลา นักวิจัยปิดผนึกสำนักวิจัยและคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันไม่ว่าใครก็ตามจะไม่สามารถรบกวนที่นี่ได้ ผ่านมาร่วมสองพันปีนับตั้งแต่เกิดการกบฏของพวกยักษ์เป็นสถานการณ์ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เทพเจ้าไอน์ฮัดซัดได้นำพลังส่วนใหญ่ไปใช้ในการสะกดชิลเลนและอีวาคิดว่าโทสะแห่งเทพเจ้าไอน์ฮัดซัดก็ไม่ได้แข็งแกร่งดังเดิมแล้ว และในที่สุดก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อพลังแห่งความมืด (วิญญาณชั่วร้ายของชิลเลน) อีวาคิดว่าการที่ปลุกคามาเอลซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ผู้ล่าพวกที่มีชีวิตนิรันดร์” (Immortal killer) ขึ้นมาจากการการถูกสะกด ข่าวลือเกี่ยวกับเผ่าคามาเอลกระจายไปทั่วแผ่นดินผ่านทางการค้นพบของนักผจญภัยดวอร์ฟคนหนึ่ง หนังสือที่หอสมุดใหญ่ของรูน ซึ่งมีการอ้างอิงถึงคามาเอลได้ถูกแปล ส่วนหนึ่งของเอกสารการวิจัยที่ถูกย้ายมาซ่อนเอาไว้ในหอคอยงาช้างได้ถูกแปลออกมา จุดเริ่มต้นที่เกี่ยวกับทักษะของคามาเอลก็ได้ถูกค้นพบเช่นเดียวกัน เทพพยากรณ์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า พลังใหม่จะปรากฏขึ้นที่ทะเลทางทิศตะวันตก และอ้างอิงตรงกันกับคำพูดของเหล่าชาวประมงเกี่ยวกับลางบอกเหตุทางทะเลทิศตะวันตก... บรรดาผู้นำแต่ละเผ่าเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวของเอลฟ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากอีวานั้นรวดเร็วมาก เอลฟ์ที่อินนาดรีลติดต่อกับผู้นำของแต่ละเผ่าว่า การเตรียมตัวที่จะต้อนรับพวกเขาผ่านการติดต่อกับนางประจำทะเลสาปนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง เผ่ามนุษย์ได้ต้อนรับเหล่าคามาเอลที่เปรียบเสมือนของขวัญที่เทพเจ้าส่งมาให้ (เนื่องจากเป็นคนของอีวาจึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี) และตัดสินใจให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตรูปแบบเดิมมากกว่าการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ สำนักฑูตของแต่ละเผ่าได้ก่อตั้งขึ้นที่เมืองของพวกเขา และสำหรับผู้อาวุโสบางคนของแต่ละเผ่ารู้ถึงคาถาเทเลพอร์ตของเกาะจิต เกาะจิตที่มีซากของโรงฝึกตั้งอยู่ได้กลายเป็นสถานที่ที่รวบรวมความฝันของนักผจญภัยแต่ละเผ่ามานับกาล...