]อภิมหา Bug: ความผิดพลาดที่ปราศจากเจตนาในโลกเกมแห่ง RPG

แชร์เรื่องนี้:
]อภิมหา Bug: ความผิดพลาดที่ปราศจากเจตนาในโลกเกมแห่ง RPG
[b]Unintentional Exploit[/b][b]อภิมหา Bug: ความผิดพลาดที่ปราศจากเจตนาในโลกเกมแห่ง RPG [/b][p]เรื่องราวทั้งหลายมันเริ่มต้นจากการที่ผมได้สัมผัสกับเกม RPG ระดับฟอร์มยักษ์สัญชาติโปแลนด์ชิ้นล่าสุดอย่าง Two Worlds แน่นอน ผมเองก็เพลิดเพลินกับการออกตระเวนในโลกกว้างและไล่เก็บเควสท์เพื่อความเป็นสุดยอดเสียระยะใหญ่ๆ ถ้าไม่ใช่ที่ว่าผมได้ไปเจอกับ ‘วิชามาร’ ที่บอกผ่านกระดานข่าวของต่างประเทศ และเอามาลองใช้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนกลายมาเป็นความเสียใจจนถึงตอนนี้[p]คงต้องแจกแจงกันในระบบ ‘ทักษะ’ ของตัวเกมกันเสียแต่เนิ่นๆ ก่อน ว่าเกม Two Worlds นี้มีระบบความสามารถที่แบ่งออกเป็นด้านต่างๆ และใช้คะแนน ‘ประสบการณ์’ เจียดจ่ายออกไป (แบบเดียวกับในเกมอย่าง Gothic III หรือ Divine Divinity) และหนึ่งในทักษะที่ผมมองข้ามมาตลอดนั้น ก็คือทักษะ ‘การปรุงยา’ ที่ให้ผู้เล่นสามารถเอาวัตถุดิบที่หาเก็บได้จากพื้นที่ต่างๆ ในตัวเกม ทั้งสมุนไพร และแร่ธาตุ มาคลุกเคล้าจนออกมาเป็นตัวยาหรืออัญมณีเพื่อใช้เพิ่มค่าความสามารถ และค่าสถิติอื่นๆ แต่ด้วยความที่โลกของเกมก็มีความโหดร้ายท้าทายในระดับหนึ่ง บวกกับการปรุงยาเป็นงานที่ต้องอาศัยความอดทนระดับสูงและได้ผลตอบแทนที่ช้ามาก ผมจึงมองข้ามมันไปและเน้นที่ทักษะการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดไปก่อน [p]แต่ก็อีกนั่นล่ะ ใครจะไปคิด ว่าทักษะระดับรองเช่นการปรุงยานี้ มันจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกในภาษาของนักเล่นเกมว่า ‘Exploit’ หรือ ‘การโกงโดยไม่เจตนา’ ที่ทางผู้พัฒนาได้เหลือทิ้งเอาไว้ ผมไม่ขอแจกแจงในกระบวนการและขั้นตอน แต่จะกล่าวโดยสรุปว่าเกมนี้ คุณสามารถ ‘โกง’ มันอย่างหน้าด้านๆ โดยอาศัยทักษะดังกล่าว เพราะขอเพียงแค่ความอดทนไต่ไปถึงระดับเลเวลที่ 10 เพื่อเก็บค่าประสบการณ์สำรองโดยไม่เจียดจ่ายและเงินสะสมอีกแค่เพียง 6,000 เหรียญ คุณก็จะเปลี่ยนตัวเองจากมนุษย์สุดกระจอกให้กลายเป็นเทพหายนะเดินดิน ที่มีพลังชีวิตและค่าสถิติเหยียบแสนแต้ม และตีศัตรูระดับสูงให้ตายได้ในดาบเดียวเท่านั้น!![p]พูดง่ายๆ ว่าต่อให้คุณแก้ผ้าถือมีดพร้าทู่ๆ ก็ประกันว่าจะสามารถจ้วงหัวหน้าใหญ่ของเกมนี้จนลมสว้านได้ค่อนข้างแน่[p]อันที่จริงสำหรับเรื่องราวเหล่านี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะกรณีตัวอย่างของ ‘การโกงโดยไม่เจตนา’ ก็มีให้เห็นในงานเกม RPG หลายต่อหลายเกม ทั้ง Fallout, Planscape: Torment, Divine Divinity, Morrowind หรือแม้กระทั่งกับ Oblivion เอง แต่สิ่งหนึ่งที่กลายมาเป็นคำถามสำคัญในประเด็นเหล่านี้คือ...[p]แท้ที่จริงแล้ว ไอ้เจ้า ‘ความผิดพลาดโดยไม่เจตนา’ เหล่านี้ ส่งผลกระทบในเชิงเกมการเล่นมากน้อยแค่ไหน? จะว่าไปแล้ว สำหรับปัญหาเหล่านี้กับชิ้นงานเกม RPG ที่เน้นสโคปอันกว้างขวางของเกมอันเกิดจากความผิดพลาดจากการโปรแกรมมิ่งจนกลายเป็น Exploit นั้น ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นปกติวิสัย และทางผู้พัฒนาเองก็หมั่นออก Patch มาแก้ไขให้มันลุล่วงอยู่โดยตลอด [p]แต่กระนั้น แม้เราจะพยายามกำหนดขอบเขตที่เราจะใช้มันมากน้อยเพียงใด แต่กับ ‘อำนาจ’ ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดโดยไม่เจตนาของทางผู้พัฒนา มันคงเป็นเสน่ห์เย้ายวนที่ทำให้เราต้องลองเพื่อความสมบูรณ์พร้อมและความรู้สึกประหนึ่งเทพเจ้าที่อยู่เหนือจากกฎเกณฑ์ที่เกมกำหนดไว้ แต่หาได้รู้ไม่ว่าไอ้เจ้าความรู้สึกที่ดีในตอนแรกๆ มันจะกลับกลายเป็นเพียงความ ‘ว่างเปล่า’ จากความสมดุลของขอบเขตที่ถูกทำลาย และความท้าทาย ขั้นตอน และจังหวะจะโคนของการผจญภัยที่สมควรจะมีในเกม RPG ก็พลันสลายหายไปจนสิ้น เพราะเอาเข้าจริงๆ มันก็เป็นตัวของพวกเราเองต่างหาก ที่คอยขยายถ่างช่องว่างของ ‘ความผิดพลาดโดยไม่เจตนา’ เหล่านี้ให้มันกว้างกว่าที่มันควรจะเป็นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ [p]สุดท้ายนี้ หลังจากที่ผมสวมบทบาทเทพอวตารเดินดินจากกระบวนการ ‘โกงโดยไม่เจตนา’ ออกไล่ตบเหล่าศัตรูตั้งแต่หมาป่า หมียักษ์ ไปจนถึงโจรและมังกรร้ายให้ตายภายในดาบเดียวเป็นเวลาเกือบชั่วโมง ผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันชักจะไร้สาระขึ้นทุกที และผมก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปกดปุ่ม Esc เพื่อเรียกโหลดเซฟก่อนหน้าที่จะโกงออกมา แล้วเล่นต่อไปในแบบที่ควรจะเป็น [p]ถ้าคำนิยามของเกม RPG คือการ ‘สวมบทบาท’ ฉันใด ผมเชื่อว่าบทบาท ‘เทพเจ้า’ โดยการตัดช่องน้อยแต่พอตัวจากการใช้ ‘ความผิดพลาดที่ไม่เจตนา’ ของตัวเกม คงไม่ใช่วิถีทางที่ควรจะเป็นฉันนั้น ไม่ต่างอะไรกับชีวิตจริงของเรา ที่ความก้าวหน้า ความสำเร็จ สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ผมนึกออก นั่นคือความ ‘อดทน และอุตสาหะ’ เป็นที่ตั้ง… [b]“และทั้งหมด มันไม่เคยมี ‘ทางลัดที่ไม่เจตนา’ เช่นนี้หรอก…” [/b]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ