Online Station

GW Guide:หลักการใช้ Insignia และ Rune

แชร์เรื่องนี้:
GW Guide:หลักการใช้ Insignia และ Rune
สวัสดีครับ เหล่านักสู้ผู้กล้า ผู้กอบกู้ดินแดน Elona ทุกท่าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วง Green Item Drop คูณ 3 หลายท่านคงจะไปล่า Boss หาอาวุธเด็ดๆ กันจนร่ำรวยกันถ้วนหน้าแล้วนะครับ ใครที่พลาดโอกาสนี้ไปน่าเสียดายมาก เนื่องจากของ Drop ให้ดีจริงๆ สมาชิก Guild ของผมต่างก็มีเงินทองไหลมาเทมา หอบเงินไป Craft ชุดเกราะสวยๆ มาอวดโฉมกันทุกคน แถมยังมีอาวุธจาก Boss มาใช้สอยกันอีกเต็มกระบุง มาเข้าเรื่องของวันนี้ดีกว่า ในคราวที่แล้วผมได้แนะนำถึงเรื่องการดูอาวุธต่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว มาฉบับนี้จึงเป็นคราวของชุดเกราะกันบ้าง ที่หลายท่านอาจจะยังสับสนว่าจะเลือกชุดเกราะแบบไหนดี แถมยังมี Insignia และ Rune อยู่เต็มไปหมด เลือกไม่ถูก ไม่รู้จะซื้ออันไหน ใช้อันไหนถึงจะเหมาะสมกับสายอาชีพที่เราเล่นอยู่ ชุดเกราะของเกม Guild Wars นั้นจะทำการ Customized มาสำหรับตัวละครที่สวมใส่อยู่ทุกตัว หมายความว่าชุดที่สร้างมานั้นสามารถใช้ได้เพียงตัวละครตัวนั้นเท่านั้น ตัวละครตัวอื่นไม่สามารถสวมใส่ได้ ถึงแม้ว่าคุณจะสร้างตัวละครมา 1 ตัวสมมุติว่าชื่อ Abc Def แล้วเล่นจนได้ชุดเกราะพลังป้องกันเต็มมา จากนั้นถอดเกราะเก็บไว้ในกล่อง Storage แล้วลบตัวเก่าทิ้ง สร้างตัวใหม่ชื่อเหมือนเดิมทุกประการ Abc Def ตัวละครใหม่ก็จะไม่สามารถใส่ชุดเกราะเก่าที่เราทำไว้ได้ ไม่ว่าในกรณีไหนก็ตาม [b][color=red]ค่า Max ของชุดเกราะในแต่ละอาชีพ[/color][/b]Warrior : 80 (+20 vs Physical Damage)Ranger : 70 (+30 vs Element Damage)Monk : 60Necromancer : 60Elementalist : 60Mesmer : 60Assassin : 70Ritualist : 60Paragon : 80Dervish : 70[img=9020]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ในภาค Nightfall นั้นเราจะสามารถหาซื้อชุดเกราะที่มีค่าพลังป้องกันสูงสุดได้ที่ NPC Vatundo [Armor] ที่ Consulate Docks ราคา 1,000g ต่อชิ้น แต่ชุดเกราะที่ได้มานั้นยังจะเป็นชุดเกราะเปล่าๆ ที่ยังไม่มี Insignia และ Rune อยู่ หากจะให้มีความสามารถสมบูรณ์ ต้องไปซื้อ Insignia และ Rune ได้ที่ NPC Rune Trader ที่สามารถหาได้ตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วไปนะครับ ชุดเกราะที่คุณอาจจะพบ NPC [Armor] หลังจากนี้ที่อาจจะมีราคาที่แพงกว่า และใช้ Material ที่แพงกว่านั้นจะมีค่าพลังป้องกันที่เท่ากันกับชุดเกราะราคา 1,000g ทุกอย่างนะครับ แตกต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เช่นชุด Vabbian ที่ต้องการ Sapphire และ Ruby ในการสร้างซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้เป็น Rare Material ที่มีราคาแพงมาก จึงเป็นชุดสวยของผู้ที่ร่ำรวยใส่เพื่อแสดงฐานะ หรือชุด Primeval ที่สามารถ Craft ได้ก็ต่อเมื่อคุณเล่นเกมจนจบตามเนื้อเรื่องแล้วเท่านั้น ก็เป็นการแสดงให้คนอื่นทราบว่าคุณเล่นจบแล้วนั่นเอง ส่วนเรื่องการคิดค่าพลังป้องกันนั้น จะคิดเป็นส่วนๆไป ไม่ได้นำพลังป้องกันทั้งหมดมารวม เช่นหากคุณใส่เสื้อที่มีพลังป้องกันเต็ม แต่ใส่กางเกงที่มีพลังป้องกันต่ำ หากคุณโดนโจมตีในช่วงล่างของร่างกายคุณจะรับค่าความเสียหายสูงกว่า การโจมตีที่โดนส่วนอกที่ใส่ชุดป้องกันเต็มนั่นเอง [color=red][b] Insignia[/b][/color] Insignia คือ Option เสริมของชุดเกราะของคุณ หากเทียบกับอาวุธแล้ว Insignia นั้นก็สามารถเทียบได้กับ Prefix หรือส่วนเติมข้างหน้าของชุดเกราะนั่นเอง ถ้าหากคุณใส่ Insignia ที่ต้องการลงบนชุดเกราะของคุณแล้ว ชื่อของ Insignia นั้นก็จะปรากฏอยู่หน้าชื่อของชุดเกราะชิ้นนั้น โดยที่ชุดเกราะ 1 ชิ้นสามารถใส่ Insignia ได้ 1 อันการที่จะใส่ให้ครบสมบูรณ์จึงต้องใส่ทั้ง 5 ชิ้นได้แก่ หัว ลำตัว มือ ขา และ เท้า นั่นเอง Insignia นี้สามารถได้มาจากการซื้อที่ Rune Trader และการ Salvage ออกมาจาก Armor ของ Monster ที่ Drop ในระหว่างการเล่นเกม โดยจะมีประเภทหลักๆ 2 ประเภทคือ 1. Insignia ที่สามารถใช้ได้ในทุกอาชีพ 2. Insignia เฉพาะอาชีพการเลือกใช้ Insignia นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ เช่นหากต้องการความทนทานในการเป็น Tank ของเหล่า Warrior ทั้งหลายก็อาจจะเลือกใช้ชนิดที่เพิ่มพลังป้องกัน หรือหากต้องการเพิ่ม Energy ให้มีพอเพียงต่อการร่ายเวทย์ต่างๆ ของสาย Caster ก็สามารถเลือกประเภทที่เพิ่ม Energy เป็นต้น [color=red][b]Rune[/b][/color]Rune คือ Option เสริมของชุดเกราะของคุณเช่นเดียวกันกับ Insignia เพียงแต่ Rune นั้นจะเป็น Suffix หรือส่วนเติมด้านหลัง หากคุณใส่ Rune ลงบนชุดเกราะของคุณแล้วจะมีชื่อของ Rune นั้นปรากฏให้เห็นหลังชื่อของชุดเกราะของคุณ โดยที่ Rune นั้นก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทเช่นเดียวกับ Insignia คือเฉพาะอาชีพและไม่จำกัดอาชีพ แต่จะมีเพิ่มขึ้นมาในเรื่องของระดับของ Rune เป็น 3 ระดับได้แก่1. Minor Rune สีฟ้า จะเพิ่ม Attribute ให้ 1 หน่วย หรือเพิ่ม 30Hp ในกรณีของ Rune of Vigor2. Major Rune สีม่วง จะเพิ่ม Attribute ให้ 2 หน่วย HP-30 หรือเพิ่ม 41Hp ในกรณีของ Rune of Vigor3. Superior สีทอง จะเพิ่ม Attribute ให้ 3 หน่วย HP-75 หรือเพิ่ม 50Hp ในกรณีของ Rune of Vigor [img=9021]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]สิ่งสำคัญของ Rune อีกอย่างคือ ที่ Rune นั้นจะมีตัวหนังสือเขียนระบุไว้ว่า (Non-Stacking) หมายความว่า Rune ชนิดนี้จะไม่นับซ้อนกัน เช่นหากคุณใส่ Elementalist Rune of Fire หลายๆชิ้น คุณจะได้รับการบวกค่า Fire Attribute เพิ่มมาเพียงแค่ 1 ชิ้นจากชิ้นที่สูงสุดเท่านั้น หรือหากคุณใส่ Rune of Vigor ที่เพิ่มค่าพลังชีวิตแต่ว่าเป็น (Non-Stacking) หลายชิ้นคุณก็จะได้รับการเพิ่มพลังชีวิตจาก Rune ที่สูงสุดพียงแค่ชิ้นเดียวเช่นกัน แต่คุณสามารถใส่ Rune ต่างชนิดได้เช่น การใส่ Rune เพิ่ม Fire 1 อัน Rune เพิ่ม Water 1 อัน จะได้รับการเพิ่มครบถ้วนเนื่องจากเป็น Rune คนละประเภทกัน ถึงแม้คุณจะใส่ Rune เพิ่ม Fire คนละสีกัน ฟ้า ม่วง และทองก็จะคิดแค่อันเดียวนะครับ เนื่องจากเป็น Rune Fire เหมือนกันนั่นเอง [img=9027]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]แต่ก็จะมี Rune อีกประเภทหนึ่งเช่น Rune of Vitae และ Rune of Attunement ที่เขียนระบุไว้ว่า (Stacking) Rune ประเภทนี้นั้นจะสามารถใส่หลายๆอันในแต่ละส่วนของร่างกายได้ และยังนับค่าบวกในทุกๆ ชิ้นที่ใส่ไป การเลือกใช้ Rune จึงต้องสำรวจให้ดีนะครับว่า Rune ที่กำลังจะซื้อนั้นเป็น Rune ประเภท (Non-Stacking) หรือ (Stacking) [color=red][b]ใส่ Rune อะไรตรงไหนดี[/b][/color] คำถามนี้อาจจะเป็นที่สงสัยของแต่ละคนไม่มากก็น้อย การใส่ Rune ที่เหมาะสมคือ ให้เลือกใส่ Rune ประเภทเดียวกันกับหมวก เช่นหมวก +1 Swordsman Ship ของ Warrior เราก็ควรใส่ Warrior Swordsman Ship Rune เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการสะดวกในการเปลี่ยน Build เช่นหากเราต้องการจะเปลี่ยนไปเล่นขวาน เราก็สามารถจะไป Craft หมวก +1 Axe Mastery มาแล้วใส่ Warrior Axe Mastery Rune ได้ คราวนี้เราจะเปลี่ยนอาวุธก็เปลี่ยนแค่หมวก ก็จะได้รับค่า + Attribute เต็มที่โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนชุดเกราะชิ้นอื่นๆ เลย ส่วน Rune of Vigor ที่เพิ่มพลังชีวิตนั้นนิยมใส่กันที่สุดที่ส่วนหน้าอก เนื่องจากเป็นชุดเกราะส่วนที่ใช้ Material มากที่สุดจึงเป็นส่วนที่แพงที่สุดนั่นเอง ไม่อยากที่จะเปลี่ยนบ่อยๆ อยู่แล้ว การใส่ Rune of Vigor ที่หน้าอกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด[color=red][b]ชุดเกราะของ Hero[/b][/color] ชุดเกราะของ Hero นั้นจะเพิ่มพลังป้องกันขึ้นเองตามแต่ Level ของ Hero ตัวนั้นๆ เราไม่จะเป็นต้องซื้อชุดเกราะใหม่ให้ Hero แต่อย่างใด ที่สำคัญคือเราสามารถใส่ Insignia และ Rune ต่างๆ กับ Hero ได้ตามปรกติ และยังสามารถใช้ Expert Salvage Kits ทุบเอา Rune ที่ใส่ไปให้ Hero แล้วออกมาได้โดยที่ชุดเกราะของ Hero นั้นไม่มีวันพังอีกด้วย การทุบเอา Rune of Vigor ที่มีราคาแพงมาเปลี่ยนใช้ในกรณีที่เราเปลี่ยนตัว Hero ในแต่ละฉากจึงเป็นการประหยัดเงินได้อย่างมากเลยทีเดียว [img=9022]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=9023]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=9024]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]แต่ก็ไม่ใช่ว่า Hero นั้นจะหรูหราไม่ได้นะครับ เราสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กับ Hero ของเราได้โดยการไปเล่นใน Challenge Mission ต่างๆได้แก่ Daikah Inlet, Remains of Sahlahja และ The Shadow Nexus เพื่อเป็นการหาชิ้นส่วนของชุดเกราะ แล้วนำไปให้กับ NPC [Hero Armor] เพื่อเป็นการเปลี่ยนชุดเกราะให้ Hero ของเราดูเท่ห์ยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่พลังป้องกันเท่าเดิมนะครับ อย่างไรก็ตามขอบอกว่าชุดเกราะพิเศษของ Hero นั้นเท่ห์มากๆ ใครมีโอกาสก็ลองไปเล่น Challenge Mission ดูนะครับ สนุกแถมยังเท่ห์อีกด้วย ที่สำคัญชิ้นส่วนของชุดเกราะนั้นสามารถนำมาขายได้ราคาดีอีกด้วย [img=9025]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับเรื่อง Insignia และ Rune หากใครยังมีข้อสงสัยก็ลองส่งจดหมายเข้ามาถามกันได้ หรืออาจจะส่ง E-Mail มาถามได้ที่ fanaticfay@hotmail.com นะครับ แล้วพบกันฉบับหน้า สวัสดีครับBy แว่นคุง
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

Online Station