ผมเป็นคนที่ใจกล้าลุย กล้าพร้อมที่จะเสี่ยงในหลายๆสิ่งที่เกี่ยวกับเพื่อนหรือกับชีวิต แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องผู้หญิงมันช่างไม่กล้าเสียจริงอย่างงี้ [b]ผมไปเจอเขาคนนั้นคนที่ตามหามานานและ ณ วันนี้ผมก็เจอแล้วผมไม่เคยเข้าไปคุยกับเขาสักครั้ง แต่ผมคอยมองเขาอยู่ห่างๆ ภายใต้เกาอี้ไม่กี่ตัว ระยะห่างไม่ถึงเมตร อ้อลืมบอกไป ผมไปเจอเขาคนนั้นที่ สถานที่เรียนพิเศษ ผมขอบอกเลยละกันเพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปิดกันไว้ทำไม ที่นั้นคือ The Brain สาขาวงเวียนใหญ่ ที่ที่ผมเชื่อว่า คนที่ผมมองมาตลอดนั้นคือรักแท้ของผม เขาว่ากันว่ารักแท้ของคนเรามีแค่3 คนบนโลก ถ้าผมเสียเขาคนนี้ไปก็เท่ากับว่าผมพลาดรักแท้ครั้งแรกของผมไปอย่างสิ้นเซิงและอาจไม่มีทางกลับมา เหมือนพรมลิขิต(Bigass)ที่ให้เราทั้ง2ได้เจอกัน ในตอนแรกผมก็สังเกตเอ๊ะทำไมผู้หญิงคนนี้เข้าตาเราแบบอย่างจัง แต่ในช่วงแรกก็ไมได้คิดอะไรเพราะตอนนั้นพึ่งขึ้นม.3 เป็นเทอมแรกของการไปเรียนที่นั้นเลยคิดว่าเดียวก็มีผู้หญิงคนอื่นที่เข้าตาเราอีกนั้นและ เทอมแรกก็ผ่านไป ในเทอมแรกผมเรียนคอร์ดเรียนทุกวิชา และหลังจากนั้น ผมก็ได้เปลี่ยนแผนการเรียนพิเศษของผมใน ม.3 เทอม 2 มาเป็นเรียนเฉพาะ วิทย์ – คณิต 2วิชาเท่านั้นโดยเรียนอังคารกับพฤหัส แต่ไฉนพรมลิขิตก็ชักจูงให้เรามาเจอกันในคอร์ดนี้อีกแล้ว ครั้งนี้ผมมองเขาเป็นพิเศษ เพราะนั่งห่างกันไม่ไกลมาก(ตอนเทอมแรกห่างกัน 6 โต๊ะ ตอนนี้เหลือ4)[/b][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]โดยมีเพียงแค่ เด็กผู้ชายโรงเรียนวัดสุทธิฯ หรือราชบพิต เนี่ยและผมก็จำไม่ได้ นั่งขั้นระหว่างผมกับผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ก็เท่านั้นเอง อ้อถ้าชื่อโรงเรียนผิดก็ขอโทษแทนด้วยละกันครับ ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย เธอเป็นเด็กเรียนเก่ง อาจาร์ยถามไรตอบได้หมด ผิดกับผมที่ตอนไปเรียนคอร์ด วิทย์ – คณิต ในช่วงแรกๆตามแทบไม่ทัน เธอเป็นคนที่ใส่ชุดและรู้สึกว่าสเปคผู้หญิงของผมจะใช่เธอด้วยสิ เธอเป็นคนหวานๆแต่ก็ห้าวๆบ้างในบางมุม ใส่แว่น ใส่เหล็กดัดฟันด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด ชุดนักเรียนของเธอ ก็เป็นกระโปรงยาวตั้งแต่เอว ถึงขาด้านล่าง หรือพูดอีกมุม ใส่กระโปรงยาวสุดในห้องแล้ว เหมือนกุลสตรีไทยยังไงบอกไม่ถูก เธอเป็นคนเรียบร้อย ไว้ผมยาวสวยไปอีกแบบเนี่ยและมันก็ตรงสเปคผมเลยละ ผมเรียนคอร์ดนี้ได้ประมาณเกือบเดือน และผมก็ไปซื้อของทีเดอะมอลส์ท่าพระกับพ่อ และเมื่อผมจะเดินจากชั้น2ไปชั้น3ขึ้นบันไดเลื่อน ก่อนจะขึ้นมันต้องเดินหมุนตัว คงเข้าใจนะครับ คือเราเดินมาทางด้านหลังของบันไดเลื่อนที่จะขึ้นนะ และเมื่อผมเดินไปตรงจุดที่จะขึ้น ผมก็เจอเออีกครั้ง เธอมาในเสื้อยืดที่ดูถมัดแทมง ใส่กางเกงยีนส์ สบายกระเป่าสีเขียวๆดูแล้วเหมือนเป็นสาวห้าวๆ แต่ไม่รู้เพราอะไรเมื่อผมจ้องเธอ เธอก็หันมาจ้องผม ก่อนผมจะขึ้นไปชั้น3 และเธอลงไปชั้น1 ทันใดที่ผมมองตาเธอ เมื่อตอนเธอทอดแว่นออกมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวผมมันล่องลอย มันเหม่อไปทางไม่ถูกจนพ่อต้องเรียกผมให้รีบขึ้นมา ความจริงแล้วการที่เราจะเจอคนแบบนี้ได้ไม่ใช่เพราะคนนั้นสวยแต่คนคนนั้น เป็นคนที่ถูกใจเราอย่างมากนั้นเอง และหลังจากนั้นผมก็คอยมองเขาทุกๆวันจนป่านนี้ท้องรึยังมี่รู้ (ไอบ้าคนนะเว้ยไม่ใช่ปลากัด) อ่าวหรอ เอิ้กๆ[b]ผมก็ได้แต่เฝ้ามอง มองเธอทุกคืนวัน ทุกวันที่มีเรียนพิเศษ อ้อวันไหนเอมาสายหรือเธอไม่มาผมรู้สึกไม่มีกระจิตกระใจจะเรียนยังไงบอกไม่ถูก [/b]แล้วก็เหตุการณ์ที่ทำให้เราได้สบตากันก็มีอีกนะ ตอนเทอม 1 นะ ตอนนั้นรู้สึกเธอจะซื้อของหรือทำอะไรสักอย่างเนี่ยและ แล้วพอจะเริ่มเรียน ก่อนเริ่มเรียนพิเศษผมต้องไปซื้อ ขนมปังมากินก่อน (เป็นโรคชอบกินขนมปัง) ผมเห็นเขาขนของและขึ้นรถแท็กซี่ไปต่อหน้าต่อตา โดยมีเพื่อนเขามาส่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำออะไรแต่เขาก็มองผม ผมก็มองเขา ในใจผมคิดว่าจะเริ่มเรียนอยู่แล้วไปไหนอีกว้ะ หรือนั้นจะทำให้ผมคิดถึงแต่เขาก็ไม่รู้สินะอะมาดูในเทอม 2 นี่ต่อ ผมก็ได้เฝ้าแต่มองเธอเหมือนเช่นเคย ก็มีบ้างเวลาทีเธอหันหน้ามาด้านหลังเพื่อปรึกษาเลขกับพวกเด็กผู้ชายที่อยู่โรงเรียนตามที่ผมบอกไว้นะ พวกนั้นมันก็เก่งซะด้วยสิ เห้อแย่จังเราจะเอาไรไปสู้กับเขาดีละเนี่ย ดูเขาเป็นเด็กเรียนไม่น่าจะเก่งคอมพิวเตอร์หรือเกมเลยนิหน่าถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็คโทรนิต คอมพิวเตอร์ก็พอจะคุยได้ยาวๆหน่อย เขาก็หันมาคุยเกี่ยกวับเลขอยู่กับพวกผู้ชายบ่อยๆแต่ก็มีบางครั้งที่เขาหันมาเจอะสายตาผมบ้าง แต่มันก็ชั่ววูบเดียว อ้ะอีกไม่กี่อาทิตย์จะหมดคอร์ดเรียนพิเศษแล้วสิจะทำยังไงดี เห้อเราหนอเราไม่ยอมบอกเขาไปสักทีในตอนหลังมานี่ ในช่วงผมสอบเสร็จอ้อผมอยู่ ม.3โรงเรียนทวีธาภิเศกนะลืมบอกไปปีนี้โรงเรียนผมสอบเร็วสักหน่อย สอบวันที่ 12 กับ 14 กุมภาพันธ์ สอบเสร็จผมก็จบม.3แล้วสิ เดียวก็ต้องเตรียมสอบต่อม.ปลายอีกเห้อ งานจบม.3นี่ยุ่งจริงๆเลยนะ แต่ก็มีเวลาให้พักในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้ผมได้เริ่มเขียนงานนิยานเรื่องใหม่ อ้ะเรื่องไรของอุ้ปไว้ละก่อน บางคนอาจชอบมันแต่บางคนอาจไม่ชอบถ้าผมเขียนได้เยอะๆเมื่อไรแล้วจะเอามาให้อ่านนะ เอ้ะแล้วใครจะอ่านหว่า อะชั่งมันเหอะในวันอังคารที่แล้ว อ้ะลืมบอกไปตอนทีผ่มเขียนบทความนี้ผมทำวันพฤหัสที่ 22 กุมภาพันธ์ นะอังคารที่แล้ว ผมก้ได้เอาเนื้อเรื่องทีผ่มเขียนไป 10กว่าหน้าเพราะพึ่งเริ่มเขียน พร้อมกับกลอนซึ้งๆบทความสั่นๆบอกรัก 1 หน้ากระดาษ แต่แม่เจ้าช่วยอกอีปิ้งจาแตกเอา ไปไม่ทันคุณเธอดันเข้าเรียนพิเศษก่อนแทบจะร้องไห้ เพราะตอนเลิกเรียน เธอก็เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนผู้หญิง ลำพังแค่เพื่อนผู้หญิงด้านหน้าผม นั่งติดกัน ขเยิบมือนิดเดียวก็แตะหลังเขาแล้วผมยังไม่กล้าคุยเลย แล้วนี่ออกมาด้วยกันเยอะแบบนี้ผมยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่ และแล้วมันก็หมดไปอีกวัน หลังจากกลับมาผมก็ได้มาถามเพื่อนผม เพื่อนผมบอกว่า มี 3 วิธี วิธีที่ 1 ไปให้ทันก่อนเขาและเอาสิ่งที่เอ็งเนี่ยเขียนไปให้เขาไปบอกรักบอกชอบเขาซะ ข้อที่ 2 ถ้าไปไม่ทัน พอเลิกออกมาปุ้ปก็ค่อยไปให้เขาวะแต่ก็ใจกล้าหน่อยข้อ 3 เก็บความรู้สึกที่มีดีต่อเขาใส่ไว้ในใจและปิดโลงฝังมันอยู่ในใจเราตลอดไป มันก็เป็นคำแนะนำที่ดีที่ผมได้จากเพื่อนคนนี้ และผมก็ปรึกษากับเพื่อนและพี่ๆอีกหลายคนเขาก็ให้กำลังใจผม ไอข้อแรกนั้นผมก็จะทำอยู่แล้วในวันอังคารแต่ติดไปไม่ทัน และแล้วผมก็ได้เขียนนิยายต่อ คราวนี้เขียนมันได้เกือบ 20 หน้าแล้ว เพราะมัวแต่กังวลเรื่องผู้หญิงเลยเขียนได้ช้า - * - เอาละคราวนี้ผมก็เพิ่มคำบอกรักบทความบอกรักไปถึง 2 หน้ากระดาษ คงไม่มีใครทำแบบผมหรอก ผมกะจะเอาไปบอกเอาไปยื่นให้เขาเต็มที่และคิดไว้ว่าเมื่อให้ ใบบทความบอกรักไปแล้วจะให้ นิยายผมไปอ่านสักหน่อยถึงแม้ว่าคำตอบของเขาจะออกมเป็นอย่างไรก็ตาม และนี้ก็มาถึงจุดจบของวันพฤหัสนี้สักที วันนี้ผมไปนั่งรอ อ้อ เรียนตอน 5โมงนะ ผมไปนั่งรอตั้งแต่ 4โมง40 อาจาร์ยที่สอนก็มาแล้ว ผมก็คุยกับอาจาร์ยเขานิดหน่อย และอาจาร์ยก็เดินเข้าไปห้องเตรียมการสอนพิเศษ เพื่อที่จะหยิบไมค์ลอยและเตรียมการสอนต่างๆ และเมื่ออาจารย์เข้าห้องเตรียมการสอนไป ผมยังไม่ทันตั้งตัว เธอก็เดินขึ้นมาจากบันได และหันหน้ามาทางผม ตัวผมที่ยังไม่ได้เปลี่ยนหน้าไปทางไหน ก็เจอะสายตาเธอเข้าอย่างจัง ตาจ้องกันทำให้ผมรู้สึกตัวชา พูดไม่ออกมือไม้ขยับไม่ได้ ได้แต่มองเธอเข้าห้องเรียนพิเศษไป วันนี้พวกกลุ่มเด็กผู้ชายมาแค่คนเดียว ทำให้ผมหันหน้าไปมองเธอ เกือบทั้งชั่วโมงเลย เมื่อเรียนจบผ่านไป 2ชม ผมก็กะว่าจะออกไปรอ แต่ผมก็เล่นกับเพื่อนผม เธอก็ยังไม่ออกมาสักที เพราะมัวแต่คุยกับอาจารย์อยู่ พอเพื่อนผมมันลงไปแล้ว เธอก็เดินออกมา ตอนแรกเธอเดินออกมาคนเดียวผมก็เตรียมจะหยิบมันออกมาจากกระเป๋าใบน้อยๆของผมแล้วละ แต่เพื่อนเธอก็เดินออกมาตัดหน้าเธอทำให้ผม เก็บมันลงไปใส่ในกระเป๋าอีกครั้งนี่ละที่เป็นความไม่กล้าของผม กาที่ผมได้อยู่ในโรงเรียนชายล้วนมา 3 ปี มันทำให้อะไรๆเกี่ยวกับความเป็นชายทั้งความแข็งแรงทางร่างกาย และทางอื่นๆที่ผู้ชายเขาเป็นผมก็มีแต่ผมขาดอย่างเดียวคือความใจอ่อน และการไม่กล้าต่อผู้หญิงเนี่ยและ ที่ผมขาดอยู่อย่างมากเลย และในครั้งนี้ เธอและเพื่อนผู้หญิงอีก 4 คนก็เดินลงบันไดไปทั้งๆที่ผมมองเธอตลอดเวลา [b]มันเหมือนความรู้สึกจะตายเอาให้ได้ซะตรงนั้น [/b]แต่ก็นะยังมีเพื่อนผมที่เรียกว่าสนิทกันค่อนข้างมาก เพราะเล่นบาสด้วยกันที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำและเขาก็พูดหยอกล้อผมทำให้ผมลืมความเสียใจที่ไม้ได้บอกความจริงในใจผมออกไปให้เธอรับรู้ พอผมขึ้นรถเมล์ ผมได้แต่คิดอยู่ในใจว่าทำไมเราไม่บอกเขาออกไปนะทำไมเราไม่เอาที่เราเขียนไว้ไปให้เขาอ่านนะ ก็ได้แต่คิดแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าจะมีเรียนพิเศษอีกรึป่าว แต่ถ้ามีคราวนี้ผมพูดกับเพื่อนผมอีกคนแล้วว่าถ้าผมไม่บอกไปตอนนี้ ผมก็ไม่ใช่ไอไบร์ท แล้วละ ถ้าขืนผมพูดแบบนี้ผมต้องทำให้ได้ถึงแม้จะหน้าแตก หน้าด้านขนาดไหนอ้อเพื่อนที่ให้ทางเลือกผม 3 ข้อนะบ้านเขาทำเกี่ยวกับรถว่างๆเอารถไปแต่งที่อู่เพื่อนผมได้ *-* และผมอยากจะบอกกับเพื่อนผมว่า “เรานะไม่เลือกข้อ 3 หลอกนะเพื่อน เพราะเราเจ็บมามากพอแล้ว เราจะเลือกข้อ 1 หรือ 2 ถ้ามันยังมีโอกาสยังไงเราก็ยังเลือก แต่ไม่มีทางเอาข้อ 3 แน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอก แต่ไม่มีทางที่จะนำความรู้สึกดีๆที่มีต่อเธอคนนั้นเก็บใส่โลงแล้วปิดมันฝังในใจเราตลอดกาลหลอกนะ ถ้าขืนเราทำแบบนั้นก็ไม่ใช่ไบร์ทแล้วสิ ” สิ่งที่ผมอยากระบายก็มีเพียงเท่านี้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้จักชื่อเธอ ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยคุยกับเธอ แต่ผมก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเธอนะ[b]อ้อ ลืมบอกไปหลายท่านอาจถามว่าแล้วทำไม ไม่บอกตอนที่เขาออกไปด้านนอกแล้วละ คือ พ่อเขาขับรถมารับมาส่งนะครับ ขืนผมออกไปแบบนั้นไม่ปืนลูกซองก็ไม้ตะพดมันต้องโดนกระบานผมอย่างแน่นอนเลยทีเดียว และนี่คือสิ่งที่อาจจะเรียกว่าระบายก็ได้สำหรับผมในตอนนี้อ้อ ตอนที่ผมเขียนอยู่นี่นะ มันปี 2550 นะ ใครอ่านแล้วก็อย่าพึ่งนึกว่าของเก่าละเขียนสดๆ[/b][color=blue]ผู้ระบายความในใจ [/color][color=darkblue]Pr๐_Ice~Z@[/color]