[img=7386]http://www.online-station.net/_gallery/9/007386_saint_valentine.jpg[/img]"วาเลนไทน์" มาจากชื่อของนักบุญ St. Valentine ในสมัยกษัตริย์คลอดิอุส ที่ 2 แห่งกรุงโรม St. Valentine เป็นบาทหลวงอยู่ที่โบสถ์ใกล้ๆ กรุงโรม สมัยนั้นกษัตริย์คลอดิอุส ที่ 2 ออกกฎห้ามมีการแต่งงานในเมืองของพระองค์ เพราะทรงต้องการให้ผู้ชายทุกคนไปเป็นทหารเพื่อทำศึกสงคราม สร้างกรุงโรมให้เป็นอาณาจักรที่รุ่งเรือง หากผู้ชายที่มีครอบครัวไปเป็นทหารจะมีห่วงและมีอารมณ์อ่อนไหวเกินกว่าจะเป็นนายทหารที่ดี ถ้าหากไม่มีการแต่งงานผู้ชายจะสนใจการรบมากขึ้นบาทหลวงวาเลนไทน์รู้สึกเห็นอกเห็นใจหนุ่มสาวที่มีความรัก จึงแอบจัดพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวที่ต้องการแต่งงานหลายคู่อย่างลับๆ โดยภายในงานจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และบาทหลวง พวกเขาต้องกระซิบคำสาบานและคำอธิษฐานต่อกัน ขณะเดียวกัน ก็ต้องเงี่ยหูฟังเสียงการเดินตรวจตราของเหล่าทหารด้วยเรื่องรู้ถึงหูคลอดิอุสเข้าจนได้ ในที่สุด นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับเข้าคุกและถูกทรมานอย่างสาหัส ระหว่างที่อยู่ในคุกมีคู่แต่งงานที่บาทหลวงวาเลนไทน์เคยทำพิธีให้หลายคู่ลอบไปเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาได้โยนดอกไม้และกระดาษเขียนข้อความต่างๆ เข้าไปทางช่องหน้าต่างของคุก เพื่อให้นักบุญวาเลนไทน์รู้ว่า พวกเขามีความเชื่อและศรัทธาในความรักเช่นกันขณะที่ถูกขังอยู่ในคุกรอการประหาร บาทหลวงวาเลนไทน์ได้รู้จักกับผู้คุมชื่อแอสทีเรียส ซึ่งมีลูกสาวตาบอด และขอให้เขาช่วยรักษา เหมือนปาฏิหาริย์เธอสามารถมองเห็นได้อีก ลูกสาวของผู้คุมจึงมักมาเยี่ยมและให้กำลังใจบาทหลวงอยู่เสมอ กระทั่งก่อนเสียชีวิตเขาได้เขียนจดหมายถึงเธอ และลงท้ายว่า "From your Valentine" นักบุญวาเลนไทน์ เสียชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 ในคุกแห่งนั้นนั่นเอง[img=7387]http://www.online-station.net/_gallery/9/007387_01_itinerari_religiosi.jpg[/img]ต่อมา สันตะปาปา Gelasius ยกย่องให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อรำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์ โดยเฉพาะในเรื่องของ "ความรัก" และ "มิตรภาพ"