ก้าวสู่ความเป็นโปรกับสนาม Blue Lagoon Part 2

แชร์เรื่องนี้:
ก้าวสู่ความเป็นโปรกับสนาม Blue Lagoon Part 2
[color=white].....[/color]เอาล่ะครับ ... มาต่อกันเลยดีกว่า ใน 9 หลุมหลังของสนาม Blue Lagoon โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 9 หลุมหลังนี่ ปังกระจายยยยยยยย[b]Hole 10 Par 3:[/b] 289 หลา[b]Hole In One:[/b] ยาก[b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ยาก[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]สนามที่ผมถือว่ายากที่สุดใน Blue Lagoon เลยครับ แค่จะเซฟพาร์ก็เหนื่อยแล้ว ซึ่งวิธีที่จะทำ หรือเบอร์ดี้นั้นจะต้องกดท่า ไปที่ภูเขา แล้วปล่อยให้ลูกวิ่งลงจากเขาขึ้นกรีนเองครับ ส่วนวิธีตีครั้งแรกไปที่แฟร์เวย์แล้วตีช็อตที่ 2 ขึ้นกรีนนั้น ผมคงต้องขอผ่านครับ เพราะการตีขึ้นเขาในครั้งแรกเลยดูจะเป็นวิธีที่คุ้มค่าสุดแล้ว[color=white].....[/color]ตรงวงสีแดงคือจุดที่แนะนำในการตี ซึ่งลูกจะไหลจากเขาลงกรีนเอง ส่วนจุดเขียวคือเวลาที่เรากด ไม่ติดลูกมักจะไหลลงมาบริเวณนี้[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b][color=red]Tip:[/color][/b] ลายพัตต์ยากมาก ช็อต 2 ควรใช้ไม้ที่ตีไกลกว่าหลุม 10 หลา แล้วกดใช้ [center]------------------------------[/center][b]Hole 11 Par 4:[/b] 357 หลา[b]Hole In One:[/b] ทำไม่ได้[b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ง่าย[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]ช็อตแรกสำหรับมือใหม่ก็ตีเต็มแรงเลยครับ แต่สำหรับพวกไม้ตีแรงๆ ก็ระวังลมด้วยหากลมบวกเกิน 5 ทำให้ลูกไหลจนตกรัฟได้ ควรลดแรงเหลือซัก 95 % (ไม้ 240) พอแล้ว ส่วนช็อต 2 นั้นก็อยู่ที่ลมเป็นหลักครับ แต่ควรจะเน้นตีไม้ประเภทพวก 3I หรือ 2I กำลังดี สิ่งสำคัญคือลมครับหากแรงไม่เกิน 3 ก็ตีไปที่หลุมตรงๆ เลย หรือจะให้ดีก็เหลือไม้ที่แรงกว่าหลุมไม่เกิน 10 หลาแล้วตี จะช่วยให้ลูกเข้าใกล้หลุมมากขึ้น[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]ลายกรีนของหลุมนี้ถือว่ากลางๆ ครับ ที่ระยะ 15 หลาถือว่าใช้ฝีมือพอควร[center]------------------------------[/center][b]Hole 12 Par 5:[/b] 543 หลา[b]Hole In One:[/b] ทำไม่ได้[b]Albatross (-3):[/b] ยาก[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ง่าย[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]เส้นสีเหลือง: เริ่มด้วยการตีแบบลดหัวไม้ลงไปใช้ 2W หรือ 3 W จะปลอดภัยที่สุด (หากลมพัดช่วยไปข้างหน้าให้ลดพลังตีเหลือ 90 % ก็พอ) เพราะยังไงเราก็ต้องตีถึง 3 ครั้งครับ จากนั้นก็ใช้ช็อต 2 ใช้หัวไม้ 1w ตีเต็มแรงเลยครับ ช่วงช็อต 3 นี้เราจะได้ใช้หัวไม้ I ซึ่งลายกรีนจะคล้ายๆ เนินหลังเต่า แต่ไม่สูงมากทำให้ลูกที่ตกวิ่งพอสมควร ซึ่งเราควรจะใช้ เข้ามาช่วยจะทำให้กำหนดจุดตกที่แน่นอนได้ง่ายขึ้น [color=white].....[/color]เราควรจะเก็บเบอร์ดี้ได้เพราะลายกรีนของหลุม 12 นี้ค่อนข้างง่ายครับ[color=white].....[/color]เส้นสีแดง: ด้วยไม้พลังสูงระดับ 240 หลา คุณจะต้องใช้ บวกกับยา Spin Mastery (จังหวะที่ลูกตกหน้าผาอาจติดก้อนหินทำให้ O.B ได้) เมื่อช็อต 2 มีระยะห่างไม่เกิน 270 หลา ให้ใช้ ไปเลย มีหวาดเสียวหน้าหลุมแน่นอน [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b][color=red]Tip:[/color][/b] ที่ช็อตแรกหากลมต้าน 3 แล้วใช้หัวไม้ 242 หลา บวกกับยา Spin Mastery ตีด้วยท่า ลูกกอล์ฟจะตกชนขอบหน้าผาทำให้ลูกกระเด้งแล้ววิ่งไปไกลกว่า 350 หลา เลยครับ ^^ ทำให้ซ็อต 2 เหลือระยะแค่ 200 นิดๆ เอง (เน้นนะครับที่ไม้ 242 ลมต้าน 3 หากเราใช้ไม้แบบอื่นต้องปรับลดอีกที)[center]------------------------------[/center][b]Hole 13 Par 4:[/b] 442 หลา[b]Hole In One:[/b] ทำไม่ได้[b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ปานกลาง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]หากเราใช้ไม้ 230 หลา แนะนำว่าการตีครั้งแรกควรจะตีเต็มสุด เพราะที่ช็อต 2 เราอาจจะเจอปัญหาภูเขาบังได้ (ใช้เกจไม้ตายเลยก็ได้นะครับเปลืองหน่อย) ส่วนผู้เล่นที่มีหัวไม้ 240 ขึ้นไปก็ตีง่ายขึ้นเพราะสามารถตีถึงกรีนได้แน่นอน แต่ปัญหาจะอยู่ที่ช็อต 2 นี้เองครับ เพราะลักษณะกรีนจะเป็นทางเลลงไปยังบ่อทราย ประกอบกับการใช้หัวไม้ W ตีจะทำให้ลูกวิ่งเร็วมาก หากลมช่วยด้วยก็มีสิทธิลูกกลิ้งลงบ่อทรายได้เลย วิธีแก้คือต้องใช้ [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]การพัตต์ก็อย่างที่บอกครับว่าพื้นค่อนข้างเทมากทำให้เราต้องดูทั้งลายและแรงให้ดี เพราะแรงจะสำคัญมากกับกรีนหลุมนี้ เบอร์ดี้อาจจะยากมากหน่อยหากระยะพัตต์เกิน 15 หลา[center]------------------------------[/center][b]Hole 14 Par 4:[/b] 441 หลา[b]Hole In One: [/b]ทำไม่ได้[b]Albatross (-3): [/b]ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1): [/b]ปานกลาง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]ช็อตแรกเพื่อความปลอดภัยควรลดไม้ลงมาเหลือ 3W ครับ ที่ช็อต 2 เราจะใช้ไม้ 1W ตี ซึ่งการให้นำหนักในการตีจะสำคัญพอๆ กับทิศทางเลยครับ เพราะหัวไม้ W ลูกจะวิ่งมากทำให้กำหนดจุดที่ลูกจะตกยาก ส่วนการพัตต์นั้นหากเราตีมาแรงไม่ถึง (ห่างจากหลุมเกิน 15 หลา) จะทำให้พัตต์ยากครับ อาจจะได้แค่พาร์เท่านั้น[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b][color=red]Tip:[/color][/b] ช็อต 2 หากลมไม่แรงและทิศทางดีควรเปิดตารางลมแล้ว เลยครับ หากลงก็ได้อีเกิ้ลกับเงินปังอีกจำนวนมากแน่ๆ[center]------------------------------[/center][b]Hole 15 Par 5:[/b] 270 หลา[b]Hole In One:[/b] ยาก[b]Albatross (-3):[/b] ยาก[b]Eagle (-2):[/b] ปานกลาง[b]Birdie (-1): [/b]ง่าย[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]เส้นสีเหลือง: ตีง่ายๆ เน้นความแน่นอนและเป็นการฝึกซ้อมไปในตัว ซึ่งต้องใช้การตีถึง 3 ครั้งกว่าจะออนกรีน ซึ่งการเก็บ เบอร์ดี้ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไปครับสำหรับผู้เล่นใหม่[color=white].....[/color]เส้นสีแดง: เสี่ยงขึ้นมานิดแต่ได้พิชิตอีเกิ้ลนับว่าคุ้มค่ามากๆ ครับ โดยเริ่มแรกให้เราใช้หัวไม้ที่ตีไม่เกิน 220 หลา ซึ่งจุดที่ต้องระวังอันดับแรกเลยคือเจ้าต้นไม้เล็กๆ ตรงจุดตี (หากเป็นผู้เล่นใหม่ที่อยากลองแนะนำให้ลองผิดลองถูกดูครับจะได้เก่งเร็วๆ ) และควรตีให้ลูกเอียงขวาเสมอดังรูป (ไม่ต้องตีให้ติดปังย่า ตีให้เอียงขวาเลยครับ) คราวนี้เมื่อลูกมาถึงเกาะอย่างปลอดภัย ให้ดูลมให้ดี ใช้หัวไม้ 1W กับ เข้าช่วยจะดีมาก[color=white].....[/color]เส้นสีฟ้า: Hold In One หลุม PAR 5 วัดกันที่ฝีมือบวกกับดวงสุดๆ หน่อย เพราะหากเราไม่ใช้หัวไม้ที่ตีแรงเกิน 260 ขึ้นไปก็ต้องใช้อย่างน้อยคือไม้ 240 บวกกับลมที่แรงมากพอและใช้เกจไม้ตาย กินยา Spin Mastery เยอะมากครับ หากจะลุ้น Hole In One (หากหลุมห่าง 261 หลาห้ามใช้ยา Spin Mastery นะครับ)[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [b][color=red]Tip:[/color][/b] แนะนำให้ใช้เกจไม้ตายตี ตาย กับยา Lucky PangYa หรือ Tranquillizer (หากใช้ยา 100 % ได้จะอุ่นใจขึ้น) เพื่อตีให้ขึ้นกรีนแล้วลุ้นพัตต์เอาอาบาสทอส[center]------------------------------[/center][b]Hole 16 Par 3: [/b]231 หลา[b]Hole In One:[/b] ยาก[b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ปานกลาง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]สำหรับผู้เล่นที่หวังจะได้เบอร์ดี้จากหลุมนี้คงต้องวัดกันที่ช็อตแรกเป็นหลักครับ เพราะระยะกรีนกับรัฟอยู่ในจุดที่ค่อนข้างยากครับ โดยรัฟนี้จะมีความฝืดสูงมาก (หญ้าสูง) ประกอบกับกรีนเป็นทางขึ้นเนินทำให้ลูกไม่ค่อยวิ่ง แนะนำให้ตีไปเต็มแรงแล้วใช้ เลยก็ไม่ว่ากันครับ[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]ลายกรีนค่อนข้างยาก ยิ่งทางหากลูกตกขนานทางซ้าย หรือ ขวา จะยากมากครับเพราะเราต้องพัตต์เอียงๆ ตามลายหญ้า หากใครตีไม้แรกมาตกหลุมเกิน 15 หลา ผมว่าเซฟพาร์ได้ก็ดีแล้ว[center]------------------------------[/center][b]Hole 17 Par 4: [/b]416 หลา[b]Hole In One:[/b] ทำไม่ได้ [b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ปานกลาง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]เส้นสีเหลือง: เริ่มด้วยการตีเต็มแรงแบบเนียนๆ ซึ่งต้องดูทิศทางลมด้วยนะครับ ไม่งั้นลูกวิ่งลงรัฟแน่ๆ (แต่ก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนักเพราะถึงตกรัฟก็สามารถใช้ไม้ 2W ตีถึงหลุมได้อยู่ดี) ซึ่งช็อตที่ 2 ก็ต้องเพื่อแรงไม้สั้นกว่าหลุมซัก 10 หลา พอ [color=white].....[/color]เส้นสีแดง: สำหรับการตีเส้นสีแดงนั้น ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่ต้องการสร้างสถิติตีไกลที่สุดให้กับตัวเองเป็นหลัก แล้วก็มีเงินปังแถมให้ประมาณ 200 ปังกว่าๆ [color=white].....[/color]หลักการคือใช้เกจท่าไม้ตายเพื่อให้ตีได้ไกลสุด บวกกับท่า และต้องกินยา Spin Mastery (ยาเขียว) ด้วยนะ จะช่วยให้เราตีได้ไกลกว่า 350 หลาเลยทีเดียว[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]การพัตต์หลุมนี้เรียกว่าง่ายครับ หากตีช็อต 2 มาอยู่ในระยะไม่เกิน 15 หลาจากหลุมก็ลุ้นรับเบอร์ดี้ได้เลย แต่หากไกลกว่าเช่น 30 หลา ก็ให้เผื่อลายไว้หน่อย แล้วก็เน้นแรงตีที่มากว่าปกติสัก 5 หลา น่าจะได้สถิติพัตต์ไกลจากหลุมนี้ไม่ยากนัก[center]------------------------------[/center][b]Hole 18 Par 4: [/b]409 หลา[b]Hole In One:[/b] ทำไม่ได้ [b]Albatross (-3):[/b] ทำไม่ได้[b]Eagle (-2):[/b] ยาก[b]Birdie (-1):[/b] ปานกลาง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]หลุมนี้มาถึงให้เราลดหัวไม้ลงเหลือไม่เกิน 180 หลา จะได้ทิศทางที่เหมาะกับการตีช็อต 2 ครับ ให้ใช้หัวไม้ 1W ไปเลย (หากไม้แรงกว่า 240 จะลดลงมาเหลือ 2W ก็ได้ครับลูกน่าจะวิ่งมาที่หลุมพอดี) [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=white].....[/color]การพัตต์หลุมนี้ถือว่าไม่ยากครับ ซึ่งเพื่อนๆ น่าจะเก็บเบอร์ดี้ได้[b][color=red]Tip:[/color][/b] ที่ช็อต 2 หากเรามีเกจไม้ตายเหลือให้ใช้ ไปเลยครับเป็นการฝึกไปในตัว[color=white].....[/color]เอาล่ะ ... ครบ 18 หลุมแล้ว สกอร์ของเพื่อนๆ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ผมได้สูงสุดก็แค่ -21 นี่แหละครับ (ไม่ค่อยจะเก่งเลยแฮะเรา ... เห็นคนอื่นทำได้ -26 ก็มี) และอีกอย่างหนึ่งที่ต้องควบคู่ไปกับเทคนิคที่ผมได้นำเสนอไปนั้นก็คือ การฝึกฝนครับ ใครจะใช้โปรแกรมโกงล่ะก็ อย่าเลยครับ ไม่มันส์เท่าเล่นเองหรอกครับผม
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ