ลุ้นกับ Nokia N-Gage และ MP3 กับ Yulgang

แชร์เรื่องนี้:
ลุ้นกับ Nokia N-Gage และ MP3 กับ Yulgang

A Chinese Tall Story

     ไซอิ๋ว หรือ Journey to the West คือตำนานอมตะเกี่ยวกับการเดินทางไปหาคัมภีร์ทางพุทธศาสนาของหลวงจีนชื่อ พระถังซำจั๋ง ซึ่งมีตัวละครเอกเป็นจ้าวแห่งวานร ชื่อ ซุนหงอคง ตำนานเรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มาแล้วนับเรื่องไม่ถ้วน

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าไซอิ๋วโด่งดังไปทั่วโลกและมีแฟนอยู่ทุกทวีป ทว่าวันนี้ เจฟ หลอ ผู้กำกับคนเก่งที่เคยดัดแปลง ตำนานไซอิ๋วขึ้นจอภาพยนตร์หลายครั้ง กำลังจะขอท้าทายตีความตำนานนี้ใหม่ ด้วยเรื่องราวสุดสร้างสรรค์ที่แหวก ขนบเดิมอย่าง สิ้นเชิง อาจกล่าวได้ว่า A Chinese Tall Story คือโลกใหม่ของซุนหงอคงที่เต็มไปด้วยความเป็นแอคชั่น และแฟนตาซีเหนือ จินตนาการด้วยทุนสร้าง 500 ล้านบาท

เรื่องย่อ

      การเดินทางระหว่างกาแล็คซี่ก่อนยุค Star Wars เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เรื่องราว ความรักระหว่างดวงดาวก็เกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน...

     พระถังซำจั๋ง (เซียะถิงฟง) พร้อมด้วยลูกศิษย์ทั้ง 3 อันได้แก่ ซุนหงอคง (เฉิน ป๋อหลิน), ตือโป๊ยก่าย (เคนนี่ วง Boyz) และ ซัวเจ๋ง (สตีเฟ่น วง Boyz) เดินทางมา ถึงเมืองซาจี่ โดยพระหนุ่มไม่รู้เลยว่าหนทางข้างหน้ามีสิ่งท้าทายความศรัทธา และ อุปสรรคต่อการบรรลุธรรมรอเขาอยู่

     ระหว่างที่อยู่ในซาจี่ ศิษย์ทั้งสามของพระถังถูกจอมปีศาจจับตัวไป พระถังจึงต้อง
  
หาทางช่วยศิษย์ของตน ต่อมาเขาได้พบกับ ปีศาจสาวน้อยแสนซนหน้าตาอัปลักษณ์หัวกระเซิง ฟันเหยิน ชื่อเม่ยหยาน (ชาร์เลน ชอย) ที่ตกหลุมรักพระหนุ่มตั้งแต่แรกเห็นและคอยตามเขาไปทุกฝีก้าว เม่ยหยานถึงขนาดวางกับดักรักกับ เขา จนพระถังตกหลุมและทำผิดกฎสวรรค

     เมืองซาจี่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยปีศาจ และสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่ไม่รู้แหล่ง ที่มา หนึ่งในจำนวนนั้นคือ องค์หญิงเสี่ยวชานแสนสวย (ฟานปิงปิง) และกองทัพ ของเธอ ระหว่างทางสู่โลกมนุษย์ เสี่ยวชานได้พบกับพระถัง และสัญญาว่าจะช่วย เขาตามหาลูกศิษย์ พระถังจึงตัดสินใจไปกับองค์หญิง

     เม่ยหยานรู้สึกเสียใจมาก เธอเปิดฉากต่อสู้กับเสี่ยวชาน และแม้จะแพ้ แต่การ ต่อสู้ครั้งนี้ก็ทำให้เธอได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองเป็นนักรบแห่งกาแล็คซี่ ท้ายที่สุด เม่ยหยานก็ร่วมมือกับองค์หญิงเสี่ยวชานเปิดศึกกับศัตรู เพื่อช่วยชีวิตพระถังและ ศิษย์ทั้งสาม
 
  

      หลังการต่อสู้ครั้งนั้น เม่ยหยานต้องเข้ารับการตัดสินโทษจากสวรรค์ แต่พระถังซำจั๋งก็ละเมิดกฎสวรรค์เพื่อช่วย ชีวิตเธอ เพราะเขาสับสนระหว่างความปรารถนาและความถูกต้อง โชคดีที่พระพุทธเจ้าผู้เปี่ยมเมตตา เดินทางมาโปรด สัตว์พวกเขา ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ทั้งคู่ต้องเดินทางไปยังทิศตะวันตกเพื่อปฏิบัติภารกิจ 81 อย่างเพื่อไถ่บาป และเพื่อกู้โลก

ตัวละคร

พระถังซำจั๋ง
รับบทโดย เซียะถิงฟง (The Promise, New Police Story, Heroes in Love)
 
      พระถังซำจั๋งเวอร์ชั่นนี้แหวกแนวจากพระทั่วไป อย่างสิ้นเชิง เพราะเขาไม่ได้แค่ร้องรำทำเพลงเก่ง เท่านั้น แต่ยังรูปหล่อใสซื่อจนสาวๆ ทั้งในและนอก โลกหลงอีกต่างหาก

     ข้อเสียอย่างเดียวของเขาคือความหลงใหลในการ สนทนาธรรมอันยืดยาวน่าเบื่อ เมื่อพระถังตกหลุมรัก ปีศาจน้อยแสนซน ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทำให้เขา ละเมิดกฎสวรรค์และช่วยชีวิตเม่ยหยาน

     ท้ายที่สุดพระถังซำจั๋งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตาชีวิต ของตนเองได้ เพราะเขาต้องออกเดินทางสู่แดนตะวัน ตก เพื่อตามหาคัมภีร์พระพุทธศาสนา


หยู เม่ยหยาน
รับบทโดย ชาร์เลน ชอย (Twin Effect, House of Fury, Bug Me Not)
 
     แผลที่ปากทำให้ปีศาจแสนซนตนนี้ มีฟันผิดรูป น่าเกลียด เธอมีจิตใจดีงาม และคิดเข้าข้างตัวเองว่า พระถังซำจั๋งมีใจให้

     เม่ยหยานเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพระถังหลายครั้ง ในตอนท้าย เธอได้กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตสุดพิเศษ นั่นคือ นักรบแห่งกาแล็คซี่


องค์หญิงเสี่ยวชาน
รับบทโดย ฟานปิงปิง (The Lion Roars, The Huadu Chronicles : Blade of the Rose)
 
     องค์หญิงเสี่ยวชานผู้สูงศักดิ์ และแสนสวยผู้นี้ต้อง ระเห็จออกจากดาวของตนเอง เพื่อหนีการแต่งงาน แบบคลุมถุงชน

     โชคชะตานำพาให้เธอได้มาพบกับ พระถังซำจั๋ง บน โลก เสี่ยวชานสัญญาว่า จะช่วยชีวิตลูกศิษย์ทั้งสามของ พระถัง แล้วเธอกับกองทัพต่างดาวก็เปิดศึกกับเหล่า ปีศาจ


ซุนหงอคง, ศิษย์ลำดับที่ 1
รับบทโดย เฉินป๋อหลิน (Bug Me Not, About Love, Love of May, Blue Gate Crossing)
 
     ซุนหงอคง คือ ลิงนักรบผู้กล้าหาญ แต่การกระทำ และคำพูดที่ไม่ค่อยดูตาม้าตาเรือของเขา มักทำให้เกิด เสียงหัวเราะเสมอ หงอคงได้รับเลือกจากเบื้องบน ให้ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้แสวงหา พระคัมภีร์ในดินแดน ตะวันตก

     ในตอนแรก เจ้าลิงจอมหยิ่งตัวนี้ไม่ยอมรับ พระถัง ซำจั๋งในฐานะอาจารย์ เพราะพระหนุ่มดูนุ่มนิ่ม เปราะ บาง แต่หลังจากพระถังช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้ง หงอคงก็เริ่มเคารพนับถือในตัวอาจารย์คนนี้มากขึ้น


ตือโป๊ยก่าย, ศิษย์ลำดับ 2
รับบทโดย เคนนี่ กวาน (Bug Me Not, New Police Story, PaPa Loves You, Fantasia)
 
     นี่คือ ตือโป๊ยก่ายฉบับรูปหล่อผอมเพรียวกว่าที่เรา เคยเห็น แต่ก็ยังคงมีพุงและจมูกแบบหมู ตือโป๊ยก่าย คือตัวละครที่มีจิตใจซื่อบริสุทธิ์

     เขาติดตามพระถังซำจั๋งไป ทุกที่โดยไม่เคยเอ่ยปาก ถามหรือลังเลใดๆ และเชื่อฟังซุนหงอคง ศิษย์ลำดับที่ 1 ทุกอย่าง


ซัวเจ๋ง, ศิษย์ลำดับ 3
รับบทโดย สตีเว่น จาง (Bug Me Not, New Police Story, PaPa Loves You, Fantasia)
 
     แม้เขาจะไว้เครา แต่ก็ไม่อาจซ่อนใบหน้าอันไร้ เดียงสาได้ ซัวเจ๋งเวอร์ชั่นนี้จะอ่อนโยนกว่าต้นฉบับ

     เขาคือสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม และเชื่อฟัง พระถังซำจั๋งเป็นอย่างดี ซัวเจ๋งชอบนำข่าวต่างๆ มา บอกซุนหงอคง เขาถูกจอมปีศาจจับไปพร้อมกับ ซุนหงอคง และตือโป๊ยก่าย


สาวน้อยชุดสีเลือด
รับบทโดย อิซาแบลล่า เหลียง (Bug Me Not, The Eye 10)
 
     สาวน้อยชุดแดงคนนี้เคยเป็นเด็กน้อยฉลาด ร่าเริง แสนซน แต่หลังจากถูกเพื่อนทรยศ เธอก็กลาย เป็นคน ที่เก็บ กดความเกรี้ยวกราดไว้ภายใน

    มองเผินๆ เหมือนว่าเธอเต็มใจช่วยเหลือพระถังซำ จั๋งและเม่ยหยาน ต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้าย แต่แท้จริง แล้วเธอพร้อมหักหลังเขาได้ทุกเมื่อ โชคร้ายที่เธอต้อง พ่ายแพ้ต่อกองทัพนักรบกาแล็คซี่ ก่อนได้เผชิญหน้า กับจอมปีศาจ

ตัวละคร

เจฟ หลอ - กำกับ

     เจฟ หลอ เป็นทั้ง ผู้กำกับ, ผู้อำนวยการสร้าง, มือเขียนบท และ นักแสดง วิธีการเล่าเรื่องที่เฉพาะตัว ทำให้เขาได้รับ การยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ดีที่สุดของฮ่องกง ในปี 1980 หลอได้กำกับ Mo Lei Tau ซึ่งนำแสดงโดยโจวซิงฉือ อาจกล่าวได้ว่าหลอนี่เองที่มีส่วนทำให้โจวซิงฉือขึ้นแท่นเป็นราชาแห่งหนังตลกร้าย ปี 1992 หลอได้กำกับ 92’s The Legendary La Rose Noir จนได้รับการยกย่องให้เป็น1 ใน 100 หนังจีนคลาสสิคตลอดกาล และในปี 1993 เจฟ หลอ ก็ได้ก่อตั้งบริษัท Jet Tone Film ร่วมกับผู้กำกับสุดเจ๋ง หว่องกาไว และได้ร่วมงานกันในหนังอีกหลายเรื่อง

     A Chinese Tall Story คือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา ที่อิงจากตำนานเรื่องการเดินทางไปหาคัมภีร์ทางศาสนาของ พระถังซำจั๋ง แต่นี่ไม่ได้เป็นหนังเรื่องแรกที่เขาอิงตำนานไซอิ๋ว เจฟ หลอ เคยสร้างหนังจากตำนานไซอิ๋วมาแล้ว หลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น A Chinese Odyssey: Pandora’s Box, A Chinese Odyssey: 2002, A Chinese Odyssey: Cinderella ผลงานเรื่องเด่นอื่นๆของเขาคือ All for the Winner, Ashes of Time, Second Time Around

โจ ฮิซาอิชิ - แต่งเพลง

     โจ ฮิซาอิชิ เป็นที่รู้จักในระดับสากล เขามีผลงานมาแล้ว 15 อัลบั้ม ในฐานะนักเปียโนและนักแต่งเพลง อย่างไรก็ ตามผลงานที่โดดเด่นของโจ กลับเป็นงานที่เขาร่วมทำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับหนังอนิเมชั่นแถวหน้าของญี่ปุ่น (Nausica’a, Castle in the Sky, My Neighbor Totoro, Princess Monoke, Spirited Away, Howl’s Moving Castle) และผู้กำกับแหกคอกอย่าง ทาเคชิ คิตาโน่ (Sonatine, Kid’s Return, Kikujiro, Brother)

โครี่ หยวน – กำกับคิวบู๊

     โครี่ หยวน คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มากว่า 30 ปี เขาเป็นทั้งผู้อำนวยการสร้าง, ผู้กำกับ และนักออกแบบคิวบู๊ ของหนังนับเรื่องไม่ถ้วน รวมถึง Yes Madam! ที่มิเชล โหยว แสดงนำ, Fong Sai Yuk ที่ เจ๊ท ลี แสดงนำ และ All for the Winner ที่โจวซิงฉือ แสดงนำด้วย หยวนได้ร่วมงานกับ เจ๊ท ลี อีกหลายครั้งในฮอลลีวูดกับหนังเรื่อง Romeo Must Die, The One และ Kiss of the Dragon และได้กำกับหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกคือ The Transporter


วิลเลี่ยม จาง - ออกแบบงานสร้าง

     วิลเลี่ยม จาง คือผู้กำกับศิลป์, นักออกแบบเสื้อผ้า และที่ปรึกษาด้านการตัดต่อที่ได้รับการยกย่องมาก เขามีชื่อเสียง จากการร่วมงานกับผู้กำกับที่มีแนวทางของตัวเองชัดเจนอย่างหว่องกาไว จางเป็นเจ้าของรางวัล Hong Kong Film Awards ถึง 7 รางวัล และได้รางวัลม้าทองคำไต้หวันมาครองอีก 6 รางวัล จากผลงานคุณภาพอย่าง As Tears Go By, Days of Being Wild, Ashes of Time, Chunking Express, Lan Yu, In the Mood for Love และ 2046

บิล ลุย - กำกับศิลป์

     บิล ลุย คือ ผู้กำกับศิลป์ฝีมือเก๋าที่มีผลงานทั้งมากมายทั้งภาพยนตร์และละครเวที ช่วงเริ่มต้นอาชีพ ลุยได้ทำงานกับ ผู้กำกับ จุ่ย ฮาก ใน Blade และ Tristar รวมถึงงานละครเวทีเรื่อง The Umbrella Story และ The Mad Phoenix ผลงาน การกำกับของ คลิฟตัน โก ผลงานเรื่องล่าสุดของเขานั้น รวมไปถึง The Twins Effect ที่ทำให้เขาได้รางวัล Hong Kong Film Award สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และหนังหักเหลี่ยม Infernal Affairs ทั้ง 2 ภาค

สถานที่ถ่ายทำ

      ทีมผู้สร้างเดินทางไปหาสถานที่ถ่ายทำในหลายๆ จังหวัดและหลายๆ มณฑลของ ประเทศจีน เพื่อให้ได้โลเคชั่นที่สมบูรณ์แบบ จนในที่สุดพวกเขาก็ได้ค้นพบ ทิวทัศน์ในฝันที่มณฑลหูเป่ย นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติ "เฉินนองเจี่ย" และเพื่อ ให้สถานที่ถ่ายทำสอดคล้องกับเรื่องราวอันซับซ้อน ผู้กำกับ เจฟ หลอ จึงเลือก ทะเล สาบทั้งเก้า, สวนพีช, แม่น้ำจ้าวหยาง และทะเลสาบหลงตานเป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก โดยได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาล เมื่อการถ่ายทำสิ้นสุดลง ฉากใน หนังอย่าง เมืองซาจี่, ถ้ำปีศาจเลื้อยคลาน และหมู่บ้านเทพนิยายที่สร้างขึ้นในเฉิน นองเจี่ย ก็ไม่ได้ถูกรื้อถอนทิ้ง แต่คงไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดผู้คนจาก ทั่วโลก
  

     นอกจากเฉินนองเจี่ยแล้ว กองถ่ายยังเดินทางไปหาโลเคชั่นอื่นๆ ในอีกหลาย ซอกหลืบของจีน ฉากที่เม่ยหยานและพระถังซำจั๋งพบกับผู้เฒ่าเต่าริมทะเลนั้น ความจริง แล้วถ่ายทำในกวงดอง และฉากที่เราเห็นพระถังซำจั๋งกับม้าขาวของเขา กำลังออก เดินทางสู่แดนตะวันตกนั้น แท้จริงแล้วก็ถ่ายทำแถบแม่น้ำหนานไต่ ใกล้กรุงปักกิ่ง ในวันที่ถ่ายฉากนี้ อุณหภูมิลดลงถึง - 20 องศา ลมพัดแรงจนทราย ละเอียดนุ่ม กระจายกลายเป็นละอองหิมะสีขาวบริสุทธิ์ ฉากนี้จึงมองดูเป็นเมืองหิมะ มหัศจรรย์ไป โดยปริยาย

     สำหรับคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ทีมงานได้เดินทางไปจัดการที่สตูดิโอในกวางโจว
 
  
โดยให้นักแสดงถ่ายฉากแอ๊คชั่นหน้าฉากกรีนสกรีน ก่อนจะใส่แบ็คกราวด์เข้าไปทีหลัง ฉากที่ถ่ายก็คือฉากทะเลสาบ เกลือ และ ศาลสวรรค์     

คอมพิวเตอร์กราฟฟิก

     เพื่อสร้างฉากการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่วออกมาน่าตื่นเต้นและสมจริงมากที่สุด ผู้สร้างได้ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลล่าร์ฮ่องกงสำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกในขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่น
  
     ในช่วงแรกของหนังที่พระถังซำจั๋งและศิษย์ทั้งสาม ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจ ซุนหงอคงสามารถเสกโคลนนิ่งของตัวเองขึ้นมา เพื่อสู้กับปีศาจแมลง เพื่อสร้างฉาก มหัศจรรย์นี้ทีมงานได้ยกกองไปที่สตูดิโอกวางโจว เพื่อให้ดาราแสดงฉากบู๊หน้า ฉากกรีนสกรีน ก่อนจะนำภาพเหล่านี้ไปผสานกับแบคกราวด์คอมพิวเตอร์ กราฟฟิกที่ให้อารมณ์เหมือนเกม เทคนิคนี้ทำให้สามารถสร้างซุนหงอคงได้เป็น พันๆ ตัว และผุ้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของโลกภาพยนตร์

     ในฉากการมาถึงขององค์หญิงต่างดาว กับกองทัพนักรบแห่งกาแล็คซี่ของเธอ ณ หมู่บ้านเทพนิยายนั้น ทีมงานสเปชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์ได้ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก เพื่อ
 
 
สร้างยานอวกาศที่บินลงมาจากท้องฟ้า ยานแม่มีรูปร่างเหมือนกล่องใส่เครื่องเพชร ขนาดยักษ์ เพิ่มความแปลกและ อารมณ์ขันให้กับตัวหนัง

     เมื่อเม่ยหยานกลายร่างเป็นนักรบระหว่างดวงดาว เธอก็รีบรุดไปยังเมืองซาจี่ เพื่อเผชิญหน้ากับจอมปีศาจและช่วยชีวิตพระถังซำจั๋งกับลูกศิษย์ ฉากต่อสู้ที่ตาม มานั้นถือเป็นฉากสำคัญที่สเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์เยี่ยมมาก จนเทียบชั้นฮอลลีวูดได้ สบาย แสงวูบวาบระรัวและเอ็ฟเฟ็กต์ระเบิด ตระการตา ทุกอย่างทำให้ฉากนี้กลาย เป็นไคลแม็กซ์สุดอลังการที่ทำให้นึกถึง Star Wars โดยเฉพาะฉากที่เม่ยหยานถูก คุกคามโดยจอมปีศาจร่างทะมึน ฉากเจ๋งๆ เหล่านี้ได้รับการสร้างสรรค์ด้วยระบบ ดิจิตอลอย่างประณีต โดยทีมออกแบบภาพกว่า 200 ชีวิต เมื่อหนังทั้งเรื่องผสาน
แอคชั่น แสดงสดและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเข้าด้วยกันอย่างไม่ที่ติ ก็ช่วยขับเน้น ฉากที่เม่ยหยานแสดงความกล้าหาญเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพระถัง ทำให้คนดูเข้าถึงเรื่องราวมากขึ้น
 
  
 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ