กำเนิดเมืองอโยธยาและบทสัมภาษณ์ทีมงาน Thai Ragnarok Online by OS

[b][color=#bf0000]กำเนิดเมืองอโยธยา[/color][/b][p]เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๔๖ บริษัท เอเชียซอฟท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยความร่วมมือกับ บริษัท กราวิตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาเกม Ragnarok Online ได้พัฒนาแผนที่ใหม่ โดยอิงหลักสถาปัตย กรรม และ วัฒนธรรมมาจากประเทศไทย โดยให้ชื่อว่า "เมืองอโยธยา"[img]http://www.ragnarok.in.th/microsite/ayothaya/images/special/spe01.jpg[/img][p]แผนการสร้างเมืองอโยธยา เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในช่วงเดือนมิถุนายน ปี ๒๕๔๖ ในขณะนั้น ทีมงาน Thai Ragnarok Online มีความต้องการที่จะสอดแทรกเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน เกม เพื่อที่จะสร้างจิตสำนึกแห่งความภาคภูมิของผู้เล่นไทย และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมอันงดงามไป สู่ทั่วโลก ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ทางบริษัท กราวิตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ริเริ่มโครงการสร้าง Localize Map ทีมงาน Thai Ragnarok Online จึงได้ทำการเสนอแนวความคิดในการสร้างเมืองแบบไทยๆ ขึ้น และได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งใน ณ บัดนี้ หลังจากใช้ระยะเวลาในการวางแผน และพัฒนาร่วม ๒ ปี เมือง อโยธยาก็ได้ปรากฏโฉมให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ และนับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการเกม ออนไลน์ในประเทศไทย[center][b][color=#ff0000]"กว่าจะมาเป็นอโยธยา"[/color][/b][/center][center][b][color=#1200ff]บทสัมภาษณ์ทีมงาน Thai Ragnarok Online[/color][/b][/center][img]http://www.ragnarok.in.th/microsite/ayothaya/images/special/spe02.jpg[/img][b]คุณฤทธิรงค์ แก้ววิเชียร[/b]Senior Project Manager[p]"อย่างที่ทราบกันดีว่า Ragnarok Online มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยหลักๆ ก็จะ เป็นการเพิ่มเมือง หรือแผนที่ใหม่ๆ เข้ามา ในเกม ซึ่งเมืองในช่วงหลังๆ จะเป็นการ จำลองจากประเทศต่างๆ ที่เปิดให้บริการ เกม Ragnarok Online หรือที่เรียกกันว่า Localize Map ไม่ว่าจะเป็น Amatsu ที่ จำลองมาจากประเทศญี่ปุ่น, Gonryun ที่ จำลองมาจากไต้หวัน และ Louyang จาก ประเทศจีน ซึ่งล่า สุดที่เพิ่งจะมีการอัพเดท ลงในเซิร์ฟเวอร์ทดสอบ ของประเทศผู้ พัฒนาไปนั้นคือเมืองอโยธยา ที่อ้างอิงหลัก สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมมาจากประ เทศไทยโดยตรง[p]"แผนการสร้างเมืองอโยธยาได้เริ่มต้น ขึ้นอย่างจริงจังในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2547 ตอนนั้น ทีมงานได้ปรึกษากันว่า ถึง เวลาแล้วที่เกม Ragnarok Online ควรจะมี คุณฤทธิรงค์ แก้ววิเชียรSenior Project Manager [p]การเพิ่มอะไรบางอย่างที่แสดงออกถึงความเป็นไทยลงไปมากกว่านี้ เพราะในปัจจุบันผู้เล่นชาวไทยมี จำนวนสูงถึงล้านคน เป็นสัดส่วนที่สูงมากๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น เราอยากให้พวกเขารู้สึกว่า ได้อะไร ที่เป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับพวกเขาจริงๆ อย่างที่ผ่านๆ มา เราก็ พยายามจัดกิจกรรมที่อิงกับประเพณีไทย อย่างในวันลอยกระทง เราก็ให้ผู้เล่นไปตามหากระทงในเกม แต่หลังจากคิดไปคิดมาหลายๆ อย่าง ก็มา เกิดไอเดียที่ว่า ทำไมเราไม่ทำเมืองที่เป็นแบบไทยๆ ขึ้นมาเลย ล่ะ โดยให้ทุกอย่างในเมือง ไม่ว่าจะเป็น อาคาร บ้านเรือน ตัวละครในเกม ทั้ง NPC และ Monster เป็น ไปตามแบบไทยทั้งหมด[p]"หลังจากที่ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดนี้ เราก็รีบติดต่อประสานงานไปทาง Gravity บริษัทผู้พัฒนา เกมในทันที ซึ่งพอดีกับที่ช่วงนั้น ทาง Gravity มีโครงการสร้าง Localize Map ให้กับประเทศผู้ให้บริการ เกม Ragnarok Online แผนการสร้างเมืองอโยธยาจึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็น เพราะความงดงามของสถาปัตยกรรม และแบบแผนวัฒนธรรมของประเทศไทยเรานั้น มีเสน่ห์ลึกลับ สามารถดึงดูดใจผู้คนทั่วโลกได้ จากนั้นเราก็พยายาม support ทางทีมผู้สร้างหลายๆ อย่าง โดยการส่งข้อ มูลเกี่ยวกับ ประเทศไทยไปให้ เชิญทีมผู้สร้างมาดูโบราณสถานสำคัญต่างๆ และมีการส่งเจ้าหน้าที่ของ เราไปตรวจสอบ ความคืบหน้า และให้คำแนะนำเป็นระยะ[p]"ในส่วนการตั้งชื่อเมืองนั้น เราเลือกที่จะนำเอาชื่อของแคว้นโบราณในสมัยอดีตมาตั้ง ด้วยความขลัง ให้ความรู้สึกที่เป็นเสมือนอีกบทหนึ่งของตำนาน ซึ่งในตอนนั้นก็มองไว้หลายชื่อ อย่างเช่น ล้านนา ทวารวดี แต่สุดท้ายก็เลือกชื่ออโยธยา เพราะฟังแล้วได้กลิ่นอายความเป็นไทยเต็มรูปแบบ ซึ่งยังมีคน สงสัย และ ถามกันเข้ามาเหมือนกันว่า ชื่ออโยธยานี้มาจากจังหวัดอยุธยารึเปล่า ต้องบอกเลยว่า ไม่ใช่ เพราะชื่อนี้เป็น ชื่อของอาณาจักรโบราณเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งจังหวัดอยุธยาก็ตั้งชื่อตามอาณาจักรนี้มาอีก ทอดหนึ่ง"[img]http://www.ragnarok.in.th/microsite/ayothaya/images/special/spe03.jpg[/img][b]คุณชินทัต ถนอมนันทกุล[/b]Marketing Strategic[p]"ในช่วงพัฒนาแพทช์อโยธยา ทาง บริษัท เอเชียซอฟท์ได้มีการประสานงาน กับทาง Gravity อย่างใกล้ชิดโดยตลอดเพื่อ ตรวจสอบ ความคืบหน้า และช่วยดูแลราย ละเอียด ต่างๆ โดยช่วงต้นๆ นั้น จะเน้น การติดตามงานผ่านทาง E-Mail เป็นส่วน มาก โดยทาง Gravity ก็จะส่งภาพร่างของ โบราณสถาน อาคาร ตัวละครในเกมมาให้ ทีมงานดูเป็น ระยะๆ ซึ่งทางเราก็จะ Feedback กลับไปว่า ส่วนนี้ดีแล้ว หรือ ส่วนไหนที่ยังต้องแก้ไข ซึ่งก่อนที่จะมีการ เปิดตัวแพทช์นี้อย่างจริง จังบนเซิร์ฟเวอร์ ทดสอบในประเทศเกาหลี ทางเราก็บินกัน ไปดูงานถึงที่นั่น เพื่อเก็บ รายละเอียดที่ อาจหลงหูหลงตากันไปบ้าง ในขั้นสุดท้าย[p]"สำหรับแผนการสร้างเมือง Ayothaya นั้น จัดว่าเป็นอีกโครงการที่ยิ่งใหญ่มากๆ และมีผลกระทบต่อคนไทยโดยตรง เพราะเมืองนี้จะถูกแสดงออกสู่สายตาของคนทั่วโลกด้วย อย่างตอนที่ได้ ไปดูการทำงานของ Gravity ซึ่งเป็นผู้ พัฒนาเกม RO นั้น เขาเองยังบอกเราตามตรงเลยว่า เมืองอโยธยา นี่ถือเป็นเมืองที่ยากมากที่สุดเท่าที่ พวกเขาเคยทำมา ซึ่งก็เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความ สำคัญในเรื่องประเพณีและวัฒนธรรม ต่างๆ อยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ทำให้ทางทีมงาน Thai Ragnarok Online เราจึงพยายามใช้ความระมัดระวังอย่าง มาก เพราะบางประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้าม อาจส่งผลให้ เกิดความ เข้าใจที่ไม่ถูกต้อง และส่งผล กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้ขั้นตอนการวางแผนงาน กินเวลานานมาก โดยทีมงานต้อง พยายามศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างลึกซึ้ง และเปิดรับข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้แน่ใจว่า ข้อมูลที่ได้ มี ความน่าเชื่อถือ และเป็นจริงตามนั้น ซึ่งท้ายที่สุดก็ทำให้เมืองอยุธยา สำเร็จออกมาได้อย่างสวยงาม ประทับใจคนไทยมากที่สุด"[img]http://www.ragnarok.in.th/microsite/ayothaya/images/special/spe04.jpg[/img][b]คุณฐิติพล แสงเอี่ยม[/b]Game Planning[p]"หลังจากมีการติดต่อกลับจากทาง Gravity ว่าเห็นด้วยกับแผนการสร้างเมือง อโยธยา ทาง Asiasoft เราเองก็ต้องเริ่มต้น ลงมือทำการบ้านกันอย่างหนัก โดยหลักๆ นั้นจะเน้นไปในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม ของไทย ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ซึ่งมีอยู่ จริงรวมไปถึงนิทานพื้นบ้าน และความเชื่อ ที่มีการบอกเล่ากันมานับแต่อดีต ในตอน นั้นทางเราเองก็เริ่มมีภาพของเมืองอโยธยา อยู่ในหัวกันบ้างแล้ว ซึ่งเราพยายามมองหา จุดเด่นของประเทศไทย ว่าตรงไหนที่โดด เด่น น่าประทับใจไม่เหมือนใคร อย่างเช่น ตลาดน้ำ ลักษณะของการปลูกสร้างบ้าน เรือนริมแม่น้ำ หรือรูปแบบการดำเนินชีวิต ของชาวบ้านที่มีวัดเป็นศูนย์กลางอย่างที่ยัง คงพบเห็นกันอยู่ในหลายๆ จังหวัด ซึ่งใน จุดนั้นเรามองว่ามันคือเสน่ห์ที่เห็นแล้วรู้ [p]รู้เลยว่านี่คือเมืองไทย และอโยธยาก็ควรจะมีอะไรแบบนี้ด้วย ดังนั้น ข้อมูลในลักษณะนี้จึงถูกส่งไปให้กับ ทาง Gravity ค่อนข้างมาก ซึ่งทางเขาเองก็ชอบ และให้ความสนใจ พอๆ กับที่รู้สึกสนุกกับการได้ลงมือ สร้างอะไรแบบนี้[p]สำหรับส่วนที่ยากสำหรับแผนการนี้อย่างหนึ่งเลยคือ ทีมงาน Thai Ragnarok Online ไม่ได้มีส่วนร่วม ใน การสร้าง หรือพัฒนาโดยตรง หากแต่ทำหน้าที่คอย Support ทีมงานผู้พัฒนาของบริษัท Gravity ซึ่ง เป็นชาวเกาหลีในด้านข้อมูล ซึ่งสมาชิกในทีมงานผู้พัฒนานั้น น้อยคนมากๆ เลยที่จะเคยมาเมืองไทย หรือรู้จักเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง เราจึงกังวลว่า เขาจะสามารถเข้าใจถึงเอกลักษณ์จริงๆ ของเมืองไทย และ จะสามารถดึงเอาจุดเด่นของเราออกมาแสดงได้อย่างที่เราหวังไว้หรือเปล่า ดังนั้น เราก็จึงเชิญทีมงานผู้ พัฒนาของ Gravity มายังประเทศไทย เพื่อให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศจริง และได้ชมสถาปัตยกรรมของ วัดวาอาราม รวมถึงเมืองโบราณต่างๆ กันจริงๆ ซึ่งตอนที่ได้เห็นเมืองอโยธยาสำเร็จออกมา เราคิดเลยว่า นั่นเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้เขาสามารถเก็บรายละเอียดออกมาได้อย่างน่าประทับใจอย่างที่เห็น[p]สำหรับในแพทช์อโยธยา เราได้เพิ่มแผนที่ขึ้นมาอีก 5 แผนที่ โดยแบ่งออกเป็น แผนที่เมืองอโยธยา แผนที่รอบเมือง 2 แผนที่ และแผนที่ Dungeon อีก 2 ซึ่งในแผนที่เมืองนั้น ทาง Gravity สามารถทำออก มาได้ดีมากๆ ทั้งวัด ปราสาท และอาคารบ้านเรือนแต่ละหลัง ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาอย่างประณีต แต่ ส่วนที่น่าทึ่งที่สุด คงจะไม่พ้นรูปปั้นยักษ์ที่ยืนตระหง่านอยู่ปากทางเข้าปราสาท ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ลวดลายในส่วนที่เป็นเครื่องแต่งกายของยักษ์นั้นละเอียด และสวยงามมากๆ นอกจากนี้ ในส่วนของ แผนที่โดยรอบ และแผนที่ Dungeon ทางเราได้เลือกที่จะนำเอาสถาปัตยกรรมของปราสาทหินโบราณ มาใช้ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดูมืดทึม อับชื้น น่ากลัว แต่ยังคงความขลังไปอีกแบบ[p]ส่วนมอนสเตอร์นั้น ในแพทช์อโยธยาเราได้เพิ่มเข้ามาอีกทั้งหมด 3 ตัว คือ กระหัง ยักษา และ สีนวล ซึ่ง ล้วนถูกหยิบยกออกมาจากนิทาน ความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับภูติผีปีศาจ อย่างที่จะเห็น มอนสเตอร์ "กระหัง" ซึ่งมีที่มาจากเรื่องผีพื้นบ้าน รวมถึง "ยักษา" ที่จำลองมาจากยักษ์ที่เราคุ้นเคยกันดีจากหนังสือ นิทาน หรือละครโทรทัศน์สมัยเด็กๆ สุดท้าย มอนสเตอร์ “สีนวล” นั้น มีต้นแบบมาจากแมวขาวมณี หรือ ขาวปลอด ซึ่งเป็นแมวไทยพันธุ์ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันมากที่สุด โดยตัวนั้นจะมีขนสีขาว หางยาว ตา 2 สี คือ ตาสีฟ้าและเหลืองอำพัน ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นเส่นห์อีกอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นจะได้พบเห็น เมื่อเดินทางมายัง เมืองอโยธยา"[p]หลังจากที่มีข่าวการอัพเดทแพทช์อโยธยาลงสู่เซิร์ฟเวอร์หลักของประเทศผู้พัฒนา และประเทศผู้ให้ บริการเกม [color=#1200ff]Ragnarok Online[/color] ไปแล้วในบางประเทศ ในที่สุด อโยธยาก็จะได้ฤกษ์เผยโฉมให้ชาวไทย ทั่วประเทศได้ร่วมชื่นชมกันอย่างแน่นอนในเร็ววันนี้ [color=#ff0000]โดยในวันที่ 4 เมษายน และ 11 เมษายน 2548[/color] บริษัท เอเชียซอฟท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการเกม Ragnarok Online ในประเทศไทยจะทำ การอัพเดทแพทช์อโยธยาลงสู่เซิร์ฟเวอร์ทดสอบ และเซิร์ฟเวอร์หลักตามลำดับ ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถติด ตามรายละเอียดเพิ่มเติมของแพทช์ดังกล่าวนี้ได้ที่เว็บไซต์หลักของ Thai Ragnarok Online หรือ [url]http://www.ragnarok.in.th[/url][img]http://www.online-station.net/news/files/0504/1782_monster.jpg[/img][center][b][color=#c80000]เรื่องราวของเมืองอโยธยา[/color][/b][/center][p]หลังจากที่ได้มีการค้นพบ[color=#ff0000]เมือง Amatsu, Gonryun และ Louyang[/color] เหล่านักผจญภัยทั้งหลาย ต่างพร้อม ใจกันออกเสาะแสวงหาดินแดนใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพระราชา Tristan III แห่ง Rune Midgard ได้ประกาศว่า [color=#2d00ff]คนผู้ใดก็ตามที่ค้นพบแผ่นดินใหม่ คนผู้นั้นจะได้รับทั้งรางวัล การยกย่อง และถือเป็น เกียรติยศอันสูงส่ง[/color][p]ณ บัดนี้ คำบอกเล่าถึงเรื่องราวของเมืองแห่งใหม่ก็ได้แพร่สะพัดมาถึงดินแดน Rune Midgard ชื่อ ของเมืองแห่งนั้น คือ [color=#bf0000][b]อโยธยา (Ayothaya)[/b][/color][p]เช่นเดียวกับ Amatsu, Gonryun และ Louyang ผู้คนสามารถเดินทางจาก Rune Midgard ไปยังเมือง อโยธยาได้โดยทางเรือ ผู้คนในเมืองแห่งนี้ล้วนอาศัยกันอยู่อย่างสงบสุข ยึดมั่นในศาสนา และมีขนบ ธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง นอกจากนั้นแล้ว เมืองอโยธยาเองยังเป็นสถานที่ซึ่งงดงามไปด้วย ทิวทัศน์ของวัดวา อารามสีทองอร่าม ที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องสีเขียวเช่นมรกต และเช่นเดียวกัน บรรยากาศเย็นสบายภายใน เรือนไม้กลางน้ำ ตลาดน้ำอันครื้นเครง รวมถึงอาหารรสเยี่ยม ซึ่งล้วนเป็น จุดดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือน[p]หลังจากที่เมืองอโยธยาได้เปิดประตูต้อนรับนักผจญภัยจากเมืองต่างๆ เหล่าผู้คนใน Rune Midgard จึงมี โอกาสได้รับรู้ถึงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับชาวเมืองแห่งนี้ พวกเขานั้นภายนอกรักความสงบ แต่มิได้ เกียจคร้าน พวกเขามีความศรัทธาและจริงใจ แต่ไม่คลั่งไคล้ในสิ่งใดจนเกินพอดี นอกจากนั้นแล้ว ชาว อโยธยาล้วนเป็น กลุ่มชนที่สุภาพอ่อนโยน หากแต่พวกเขายังคงความแข็งแกร่งไว้เพื่อช่วยเหลือผู้คน[p]แต่ทว่า นอกจากเรื่องราวอันงดงามแล้ว ในอโยธยายังคงมีเรื่องราวเล่าขานถึงความน่าสะพรึงกลัวของ ปีศาจร้าย ที่ถูกจองจำอยู่ในเขตซากปรักหักพังของเมือง[p]แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ณ บัดนี้ เหล่าผู้กล้าทั้งหลายต่างพากันออกผจญภัยกันอีกครั้ง โดยหมายมั่นจะ ไปเยี่ยมเยือนเมืองอโยธยาที่สวยงาม และแสนอบอุ่น