[p]สำนักข่าวซีเน็ต รายงานผลการสำรวจของบริษัทวิจัย เมอร์คิวรี่ ซึ่งระบุว่า บริษัท อินเทล คอร์ป.มีส่วนแบ่งตลาดชิพประมวลผลพีซี ซึ่งรวมถึงยอดขายชิพประมวลผลสำหรับเครื่องเล่นเกม เอ็กซ์ บ็อกซ์ ลดลงราว 0.8% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี ส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในช่วงไตรมาสที่สอง เหลือ 82.7% [p]ขณะเดียวกัน บริษัท แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ หรือเอเอ็มดี มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นราว 0.5% ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในช่วงไตรมาสสอง ทั้งหมดราว 15.5% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดอีก 1.8% ตกเป็นของบริษัท เวีย เทคโนโลยีส์ และบริษัท ทรานส์เมต้า [p]นายดีน แมคคาร์รอน หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์ ของบริษัท เมอร์คิวรี่ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในตลาดชิพ ช่วงไตรมาสที่สอง เป็นผลจากปรากฏการณ์ปกติที่ผู้ผลิตชิพจำนวนมาก จะหันไปใช้ชิพราคาถูก [p]พร้อมอธิบายว่า แนวโน้มดังกล่าวถือเป็นปรากฏการณ์ปกติ เนื่องจากไตรมาสที่สองมักเป็นช่วงที่ตลาดชิพ มียอดขายต่ำที่สุดในรอบปี และชิพประมวลผลเดสก์ทอปราคาถูก ก็มักมียอดจำหน่ายสูง ในช่วงไตรมาสนี้เช่นกัน ขณะที่ตลาดพีซีเกิดใหม่ ซึ่งมักนิยมใช้ชิพราคาถูก ยังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ผลิตอย่างเอเอ็มดี และเวีย เทคโนโลยีส์ มีข้อได้เปรียบมากที่สุด [p]ตัวแทนเอเอ็มดี เปิดเผยว่า แม้บริษัทจะมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มชิพราคาต่ำ แต่ยังคงไม่ต้องการให้ชิพ "แอธลอน เอ็กซ์พี" กลายเป็นแบรนด์ของชิพราคาถูก ดังนั้น ทางเอเอ็มดี จึงเปิดตัวแบรนด์ชิพยี่ห้อใหม่ "เซมพรอน" (Sempron) สำหรับเจาะกลุ่มตลาดระดับล่างโดยเฉพาะ [p]โดยภารกิจหลักของชิพตระกูลดังกล่าว ในปัจจุบัน คือ การแย่งส่วนแบ่งตลาดพีซีราคาต่ำ เพื่อแข่งกับชิพตระกูล เซเลอรอน (Celeron) ของอินเทล แม้ว่าในที่สุดแล้ว ชิพเซมพรอน จะเข้ามาแทนที่ชิพแอธลอน เอ็กซ์พี ในอนาคต[img]http://www.online-station.net/news/files/0408/743_intelamd.jpg[/img]