ทศท ตั้งเป้าดันเอดีเอสแอลสู่2หมื่นพอร์ต

แชร์เรื่องนี้:
ทศท ตั้งเป้าดันเอดีเอสแอลสู่2หมื่นพอร์ต
[color=blue]ทศท ตั้งเป้าดันเอดีเอสแอลสู่2หมื่นพอร์ต [/color]ประธานบอร์ด ทศท เล็งดันบริการเอดีเอสแอลต่อ หลังพอใจผลงานเปิดให้บริการโทรทางไกลระหว่างประเทศ ทั้งศึกษารูปแบบบริการ 3จีทั่วโลก หมายดันกิจการไทยโมบาย 1900 นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ทศท คอร์ปอเรชั่น กล่าวในโอกาสครบรอบ 2 ปี จัดตั้ง ทศท เป็น บมจ.วานนี้ (30ก.ค.) ว่า จะกระตุ้นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (เอดีเอสแอล) ที่ยังล่าช้าต่อไป ตามเป้าหมาย 20,000 พอร์ตในปีนี้ หลังจาก ทศท ได้เปิดบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศเพิ่มเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ผ่านรหัส 007 ซึ่งผู้บริหารรับนโยบายแล้วนำไปปฏิบัติด้วยความ "กระตือรือร้น" เป็นอย่างดี เพราะทั้ง 2 ธุรกิจจะสร้างรายได้ใหม่ให้ ทศท ได้ต่อไป ด้านแหล่งข่าวจาก ทศท กล่าวว่า ทศท กำลังทดลองนำเข้าทราฟฟิกจากต่างประเทศสู่โครงข่าย ทศท ในรูปแบบบริการวีโอไอพี (วอยซ์โอเวอร์ไอพี) ซึ่งมี 19 บริษัทลงนามข้อตกลงแล้ว เช่น บริษัทฮาตาริ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทสามารถบรอดแบนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด และบริษัท เซิฟเอ็กเซล จำกัด ซึ่งมีให้บริการแล้ว 13 ราย และมีรายได้นำเข้าตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค.2547 ประมาณ 73.65 ล้านบาท เฉพาะ มิ.ย.ประมาณ 45 ล้านบาท โดยสิ้นสุดการนำร่องประมาณ ส.ค.2547 อีกทั้งเริ่มทดลองให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศระบบวีโอไอพี ผ่านรหัส 008 ใน 29 ประเทศ นาทีละ 7 บาท ตั้งแต่นาทีแรกของวันที่ 31 ก.ค. นี้ โดย ทศท มีรายได้หลักจากโทรศัพท์พื้นฐานปี 2546 ประมาณ 21,228 ล้านบาท รายได้จากโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ 2,054 ล้านบาท จากดาต้าเน็ตเวิร์ค 1,313 ล้านบาท จากบริการอื่นๆ 4,378 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากโทรศัพท์ในประเทศลดลงในช่วงทดลองโทรในประเทศราคาประหยัด ซึ่งต่ำกว่าประมาณการ 5% และมีรายได้เฉพาะจากสัญญาร่วมการงานปีที่ผ่านมาประมาณ 16,408 ล้านบาท มาจากเอไอเอสกว่า 60% ทีทีแอนด์ที 20% ทีเอ (ทรู) 18% และจากสัญญาอื่นๆ ไม่ถึง 1% ต่ำกว่าปี 45 กว่า 25% เนื่องจากภาษีสรรพสามิต อย่างไรก็ตาม บอร์ด มอบนโยบายให้ผู้บริหารจัดทำแผนธุรกิจสร้างรายได้เพิ่มให้บริการโทรศัพท์สาธารณะทั่วประเทศ โดยจะต้องปรับวิธีการเก็บเงินใหม่ไปพร้อมๆ กับเพิ่มปริมาณตู้ให้บริการด้วย ซึ่งปัจจุบัน ทศท มีสวนแบ่งตลาดโทรศัพท์สาธารณะปี 2546 ประมาณ 87% ที่เหลือเป็นทีเอ และทีทีแอนด์ที หรือมีรายได้ประมาณ 5,837 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา แต่ ทศท มีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่ำกว่าเอกชน โดยมีรายได้จากบริการโทรศัพท์สาธารณะเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือนประมาณ 2,435 บาท เนื่องจากมีรายได้ต่อเลขหมายใน กทม. 4,520 บาท ในต่างจังหวัดเฉลี่ย 1,950 บาท ขณะที่เอกชน 2 รายมีรายได้ต่อเลขหมายเฉลี่ยกว่า 6,000 บาท ส่วนกิจการร่วมค้าไทยโมบาย ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์นั้น กำลังศึกษารูปแบบการให้บริการ 3 จีทั่วโลกว่า แห่งใดประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเหตุใด รวมถึงเทคโนโลยีมีความคืบหน้าไปกว่าปีที่ผ่านมาอย่างไร เพื่อหาความเหมาะสมสำหรับกิจการ ก่อนนำไปเจรจากับพันธมิตรกลยุทธ์ที่อยู่ระหว่างการเจรจาหลายราย และวันที่ 6 ส.ค.นี้จะประชุมกับผู้บริหารเรื่องทิศทาง 1900 ต่อไป ข่าว : กรุงเทพธุระกิจ
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ