ไซแมนเทคออกโปรแกรมกันไวรัสไทยรายแรก

แชร์เรื่องนี้:
ไซแมนเทคออกโปรแกรมกันไวรัสไทยรายแรก

     ไซแมนเทค ประเดิมตลาดโซลูชั่นป้องกันไวรัสภาษาไทยเป็นรายแรก เกาะติดยอดใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ขยายตัวถึง 17% เล็งกวาดลูกค้าครอบคลุมไปถึงเอสเอ็มอี และผู้ใช้ตามบ้าน ขณะที่ แนวโน้มความเสียหายจากเวิร์มตัวใหม่ๆ ที่พัฒนาสายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และยังแพร่กระจายไม่หยุด

     นายนอร์แมน โคห์ลเบอร์เกอร์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไซแมนเทค จำกัด กล่าวว่า บริษัทตัดสินใจเปิดตัวโซลูชั่นด้านความปลอดภัย สำหรับป้องกันไวรัส "นอร์ตัน แอนตี้ไวรัส 2004" ในเวอร์ชั่นภาษาไทยเป็นครั้งแรก ในราคา 1,037 บาท ขณะที่ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ราคาประมาณ 3,000 บาท

     เนื่องจากเห็นโอกาสตลาดของแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปีนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 17% ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้งานระบบรักษาความปลอดภัย บนเครือข่ายมากขึ้นตามมาหนุนตรวจจับภัยคุกคามรูปแบบใหม่

     ขณะเดียวกัน โปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่นี้ ยังมีจุดเด่นในการตรวจจับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เช่น สปายแวร์และเครื่องมือเจาะระบบ รวมถึงตรวจจับไฟล์ ในกรณีที่มีการใช้งานแบบแลกเปลี่ยนไฟล์บนเครือข่าย และการคุกคามออนไลน์ทุกรูปแบบ

     นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจหาโค้ดในไฟล์อัตโนมัติ รวมถึงการกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ และหนอนคอมพิวเตอร์ต่างๆ และยังมีฟังก์ชันไลฟ์อัพเดท ที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ

     "เราจะติดตามผลตอบรับจากตลาดในช่วงเปิดตัวระยะหนึ่ง โดยมองว่าส่วนแบ่งการตลาดในไทยจะประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 70% ทั่วโลก" นายโคห์ลเบอร์เกอร์กล่าว

     สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสำหรับโซลูชั่นดังกล่าว จะเป็นลูกค้าที่ใช้เครื่องพีซีสำหรับครัวเรือน หรือกลุ่มลูกค้าที่มีการใช้งานในสำนักงานขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ โดยจะจัดส่งเสริมการขยายในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับคู่ค้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น

     เทรนด์ไมโคร เล็งโอกาสตลาดใหม่

     ด้านนายนักรบ เนียมนามธรรม ผู้เชี่ยวชาญเทคนิค บริษัท เทรนด์ ไมโคร จำกัด กล่าวว่า บริษัทกำลังมองแนวโน้มความต้องการใช้งานโปรแกรมด้านความปลอดภัยในไทย เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะออกผลิตภัณฑ์ในเวอร์ชั่นภาษาไทยหรือไม่

     พร้อมกันนี้ เขาได้กล่าวเตือนถึงไวรัสยุคใหม่ว่า ใช้ระยะเวลาการพัฒนาสายพันธุ์สั้นกว่าเดิม เช่น เวิร์มแซสเซอร์นี้ใช้เวลาเพียง 19 วัน ขณะนี้ไวรัสตัวก่อนหน้าใช้เวลาพัฒนาตั้งแต่ 100 วัน ถึงกว่า 300 วัน

     สำหรับเทรนด์ไมโคร ได้ประกาศตัวระบบป้องกันเครือข่าย "เน็ตเวิร์ค ไวรัส วอลล์" ไปก่อนหน้านี้ เพื่อทำหน้าที่จับไวรัสที่เข้ามาในเครือข่ายก่อนจะก่อให้เกิดปัญหา

     ทั้งนี้ คาดว่า การแพร่ระบาดของแซสเซอร์ในไทยจะมีสูงในสัปดาห์นี้ แม้ที่ผ่านมาองค์กรธุรกิจ และหน่วยราชการหลายแห่งโดนโจมตีมาแล้ว และยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ ซึ่งการระบาดของเวิร์มตัวนี้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในยุโรป และอเมริกามาก่อนแล้ว และมีแนวโน้มการกลายพันธุ์ เพิ่มความสามารถโจมตีระบบ

     "แม้จะพบผู้เป็นเจ้าของซอร์สโค้ดของแซสเซอร์แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าไวรัสตัวนี้จะหยุดการแพร่ระบาด เนื่องจากเป็นไวรัสที่โจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส จึงมีผู้พัฒนาต่อยอดซอร์สโค้ด" นายนักรบ กล่าว

     ฉะนั้น จึงแนะนำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ และผู้ดูแลระบบ คอยติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส กรณีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประกาศรูรั่ว และเตือนให้ดาวน์โหลดโปรแกรมป้องกัน ต้องรีบกระทำ เพื่อป้องกันระบบและคอมพิวเตอร์ของตัวเอง

     เช่น ดาวน์โหลดโปรแกรมอุดช่องโหว่ MS04-11 และใช้ไฟล์วอลปิดพอร์ตสำคัญ 3 จุดคือ พอร์ตไฟล์วอล 445 พอร์ตที่ไวรัสใช้โจมตีเร้าเตอร์ และไฟล์วอลพอร์ต 5554 พอร์ตที่เวิร์มใช้ในการแพร่เวิร์มให้กระจายไปยังเครื่องอื่น และพอร์ต 9996 พอร์ตที่ทำหน้าที่เป็นรีโมทเชล ที่วิ่งเข้าไปโจมตีช่องโหว่ของวินโดว์ส
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ