Star Wars: Outlaws จารชนสาวบนดวงดาวในกาแลคซี่อันใกล้โพ้น

แชร์เรื่องนี้:
Star Wars: Outlaws จารชนสาวบนดวงดาวในกาแลคซี่อันใกล้โพ้น

Star Wars: Outlaw เป็นอีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ของค่าย Ubisoft ที่เตรียมจะวางจำหน่ายภายในปี 2024 นี้ และได้รับความสนใจในหลายๆ ความหมายจากทั้งแฟนๆ และบุคคลทั่วไป เนื่องด้วยเป็น IP ดังที่หลายคนจับตามอง อีกทั้งยังเป็นเกม Star Wars ที่ตัวเอกไม่ใช่เจไดอีกต่างหาก แน่นอนว่าเราได้เห็นตัวอย่างกันมาพอสมควรและมันก็ดูเข้าท่าใช้ได้ แต่ก็อย่างที่หลายๆ คนรู้ว่า Ubisoft นั้นเก่งในเรื่องของการโปรโมต จะให้มั่นใจเลยก็คงไม่ใช่

https://youtu.be/Kwo41nUwyeo?si=yBXpDtcqU_M8Hz5P

อย่างไรก็ตามไม่นานมานี้ทาง Online Station ของเราก็ได้รับเกียรติจากทาง Ubisoft ให้เข้าร่วมทดสอบตัวเกมในเบื้องต้นแล้วครับ มันจะดีขนาดไหนหรือมีความน่าเล่นรึเปล่า ก็ตามมาดูกันโลด

ออกตัวไว้ก่อนว่าการทดสอบรอบนี้นั้นทาง Ubisoft ใช้วิธีการ Remote Test อันเป็นวิธีที่พวกเขาใช้มาตลอด ดังนั้นนอกจากคุณภาพเกมจะยังไม่สมบูรณ์แล้ว ยังมีเรื่องของกราฟิกที่ถูกปรับลดความสวยงามลง รวมไปถึงเฟรมเรตที่ยังไม่นิ่ง อันเนื่องมาจากการเล่นแบบ Remote ข้ามประเทศนั่นเอง เพราะฉะนั้นพวกข้อผิดพลาดในเรื่องของกราฟิกต่างๆ ก็จะยังไม่พูดถึงมากมายนะครับ และจะโฟกัสที่ความรู้สึกและสิ่งที่ได้พบเจอเป็นหลัก

โดย Star Wars: Outlaw จะมีเซตติ้งอยู่ระหว่างภาพยนตร์ภาค 5 (The Empire strikes back) กับภาค 6 (Return of the Jedi) เป็นช่วงเวลาที่เหล่าเจไดสูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ และจักรวรรดิ์กาแลคติคกำลังเรื่องอำนาจอย่างที่สุด

https://youtu.be/KpFR0bBWHk4?si=jRmZWChGEOVLjQy7

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Kay Vess นักลักลอบขนของเถื่อนสาวผู้มุ่งมั่นจะเป็นตัวแสบตัวเป้งของจักรวาล แต่แน่นอนว่าหนทางของเธอไม่มีทางเรียบง่ายขนาดนั้น เพราะในกาแลคซี่แห่งนี้ก็มีฝักฝ่ายเยอะเหลือเกิน เมื่อต้องทำงานให้กับใครก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะต้องขัดแย้งกับขั้วอำนาจอีกฝั่ง งานทุกงานไม่การันตีความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน และเมื่อเธอเป็นคนธรรมดาไม่มี Force หรือพลังใดๆ มาช่วย ก็ต้องงัดเอาทุกกลเม็ดมาใช้เพื่อเอาตัวเองให้รอดและสำเร็จภารกิจให้จงได้

ในส่วนที่ทาง Ubisoft ให้เราเข้าไปเทสต์นั้น ประวัติและความเป็นมา เป้าหมาย รวมไปถึงแรงจูงใจของ Kay นั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก เพราะในเวอร์ชั่นเทสต์จะมีให้เล่น 3 ช่วงหลักๆ คือภารกิจบนดาวที่มีทิวทัศน์แบบทุ่งหญ้าสไตล์แอฟริกา, ภารกิจขับยานยิงกลางอวกาศ และภารกิจบนดาวน้ำแข็ง ซึ่งทั้ง 3 ภารกิจจะเน้นให้เห็นถึงฟีเจอร์เกมเพลย์ในแง่ต่างๆ เสียมากกว่าจะมาลงลึกในแง่ของเนื้อเรื่องครับ

Star Wars: Outlaw

ภารกิจแรกบนดาวทุ่งหญ้าจะเปิดด้วยการยิงต่อสู้เป็นน้ำจิ้มแล้วให้เรามุ่งหน้าไปยังเมืองหลักอย่าง Mirogana ด้วย Speeder ซึ่งส่วนแรกจะเป็นการโชว์องค์ประกอบความเป็นโอเพิ่นเวิร์ลและทิวทัศน์โลกเปิดในภาพรวม ซึ่งจะมีทั้งสัตว์ต่างๆ ตามรายทาง ถนนหนทางและผู้สัญจรไปมา รวมไปถึงนักล่าค่าหัวที่ตามมายิงเราได้ทุกเมื่อ จุดนี้คือคิดว่าเกมทำได้ตามมาตรฐานของ Ubisoft ซึ่งทำเกมโอเพ่นเวิร์ลมามาก ความมีชีวิตชีวาหรือทิวทัศน์อลังการก็คือเห็นได้ชัด บรรยากาศถือว่าโอเคเลย

พอมาถึง Mirogana เราจะได้พบบรรยากาศเมืองในธีมไซเบอร์พังค์ ที่เต็มไปด้วยผู้คนและ Storm Trooper ในเมืองนี้มีมินิเกมให้เล่นเป็นการ์ดเกมที่วิธีเล่นไม่ซับซ้อน ใช้เวลากับมันไม่นานก็เข้าใจ แต่จะชนะรึเปล่าก็อีกเรื่อง

ในเมืองนี้ทางเรามีโอกาสได้ลองเล่นราวๆ 2- 3 ภารกิจใหญ่ที่เน้นลอบเร้นเป็นหลัก ว่ากันตรงๆ มันมีความคล้ายคลึงเกมก่อนๆ หน้าของค่ายอยู่ไม่น้อย แต่มีการเพิ่มออพชั่นในการจบภารกิจเข้ามา คือไม่ได้มีวิธีเดียวในการเล่น ขึ้นกับความสะดวกของผู้เล่น เช่นในการหาทางไปต่อในภารกิจนั้นๆ คุณอาจจะสำรวจรอบๆ เพื่อหาทางเลือกอื่นๆ หรือจ่ายเงินกับ NPC บางตัวให้พวกเขาช่วยในการเข้าถึงบางพื้นที่ได้อีกด้วย

Star Wars

ตัวเกมยังมีระบบค่าความสัมพันธ์ของฝ่ายต่างๆ ที่มีกับเรา ยิ่งสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับฝ่ายหนึ่งเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็จะเกลียดเรามากขึ้นเท่านั้น โดยหากเราสนิทกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากๆ พวกเขาจะเปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงพื้นที่หรือทรัพยากรต่างๆ มากขึ้น ซึ่งก็หมายความอีกว่าเราสามารถขโมยของหรือแทรกซึมทำภารกิจให้คู่อริของฝ่ายนี้ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ตัวเกมดูจะเปิดโอกาสให้เราเป็นนกสองหัวได้อย่างเต็มที่ทีเดียว แต่แน่นอนว่าเล่นไปแค่ชั่วโมงเดียวคงบอกอะไรมากไม่ได้ แต่เท่าที่เห็นก็ได้ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร

ภารกิจถัดมาคือการขับยานไล่ยิงศัตรูที่จะมาแย่งทรัพยากรจากเรา จุดนี้เราจะได้เทคออฟตัวเองจากพื้นดาวทะยานสู่อวกาศแบบพยายามจะไร้รอยต่อ แต่เราก็เห็นแหละว่ามันผ่านจุดที่เกมโหลดอยู่เบื้องหลังแบบไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ ทว่าในแง่อารมณ์ร่วมก็คิดว่าพอหลับตาให้ข้างหนึ่งได้อยู่

Star Wars: Outlaw

เมื่อออกมาอวกาศก็จะพบเศษซากยานและไอเทมที่เราต้องไปเก็บตามออร์เดอร์ แต่ทันใดนั้นก็มีศัตรูเข้ามาขวางและเกิดการยิงกันขึ้น ยอมรับว่าฉากอวกาศตื่นตาใช้ได้เลย แต่ตอนเข้าฉากยานยิงคือต้องทำความเข้าใจกับการคอนโทรลระดับหนึ่ง พอมันเคลื่อนที่ได้แบบ 360 องศาแล้วการไล่ตามยิงอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวได้แบบเดียวกันและอาจจะคล่องกว่ามากๆ (ในช่วงต้น) มันก็กลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที แม้ตอนเริ่มคุ้นเคยและยิงศัตรูร่วงได้จะสนุกอยู่ แต่พอคิดถึงว่าหากต้องเจอศัตรูเยอะกว่านี้ มันจะยังสนุกอยู่รึเปล่าถ้าจะไล่ยิงลำบากลำบนปานนั้น หวังว่าเกมตัวเต็มจะหาสมดุลย์ในจุดนี้ได้ เพราะเอาจริงๆ ฉากยานยิงมันน่าตื่นตาอยู่แล้ว แค่ต้องหาทางทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เล่นเท่านั้น เหมือนตอนที่เราได้เล่นฉากเรือรบใน Assassin’s Creed 3 จนผู้เล่นชื่นชอบ จากโหมดน้ำจิ้มก็กลายเป็นฟีเจอร์หลักในภาค Black Flag ในที่สุดนั่นแหละ

ภารกิจสุดท้ายในตัวเทสต์นี้เราจะได้ไปยังดาวน้ำแข็ง โดยหลังจากคุ้นเคยกับระบบมาระยะหนึ่งตัวภารกิจบนดาวนี้จะเป็นการปล่อยฟรีสไตล์ให้ผู้เล่นได้หาวิธีจบเอาเอง เราจะได้เจอความท้าทายที่มากขึ้นไม่ว่าจะในแง่ของศัตรู หรือมินิเกมอย่างไขกุญแจกับเจาะระบบที่จะเป็นพัซเซิลเบิ้ลความยากไปอีกระดับ แต่ก็คงไม่เกินมือเกมเมอร์ที่คุ้นชินระบบมาระดับหนึ่งครับ เมื่อจบภารกิจทีมงานก็ปล่อยให้ลองวิ่งเล่นในเมืองนี้อีกพักหนึ่งก่อนจะหมดเวลาเทสต์และจบเดโมไป

Star Wars: Outlaw

สิ่งที่ชอบคงเป็นบรรยากาศแบบ Star Wars ที่เกมทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว กันเพลย์ที่ได้ลองไม่เยอะแต่ก็มีระบบน่าสนใจกับการเปลี่ยนรูปแบบกระสุนเพื่อรับมือศัตรูชนิดต่างๆ ทั้งนี้ Kay จะใช้ปืนพก Pistol เป็นหลัก และสามารถเก็บแมชชีนกันหรือปืนชนิดอื่นของศัตรูที่ตายแล้วมาใช้ได้แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ทว่าระบบนี้จะทดแทนการเปลี่ยนปืนไปมาได้เลยรึเปล่าก็ต้องมารอดูในตัวเต็ม ขณะที่ระบบลอบเร้นเท่าที่เห็นในเดโมก็ยังดูมาตรฐานไม่มีอะไรพิเศษแต่ก็ไม่ได้แย่ มันเป็นความธรรมดาที่เราก็ขอคาดหวังว่าจะมีอะไรมากกว่านี้แล้วกัน

รวมไปถึงความเปิดกว้างต่างๆ ที่เราพอเห็นแววจากการเข้าถึงภารกิจต่างๆ ที่ทำได้หลากหลายวิธี รวมถึงระบบความสัมพันธ์กับฝักฝ่ายที่หากทำออกมาได้ดีจริงๆ มันคงจะเพิ่มความตึงเครียดให้กับการตัดสินใจในการทำสิ่งต่างๆ ของผู้เล่นได้แน่นอน ซึ่งนั่นจะทำให้เกมดูลึกขึ้นเยอะเลย

Star Wars: Outlaw

อย่างไรก็ตามทางเราคงไม่สามารถตัดสินอะไรมากได้กับการเล่นไปเพียง 3 ชั่วโมง ถึงอย่างนั้นก็พอจะเห็นบางอย่างที่มีทั้งน่าคาดหวังและอยากให้ได้รับการปรับปรุงพอสมควร ซึ่งใครที่เป็นแฟนคลับของ Star Wars ก็คงต้องรอลุ้นกันครับว่าทริปสู่กาแลคซี่อันไกลโพ้นเที่ยวล่าสุดนี้จะดีสมการรอคอยขนาดไหนหรือมีเซอร์ไพรส์อะไรรอเราอยู่บ้าง

Star Wars: Outlaw มีกำหนดวางจำหน่าย 30 สิงหาคมนี้ บน PS5, Xbox Series และ PC ครับ


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station

แชร์เรื่องนี้:
Dark_Libra
About the Author

Dark_Libra

Everything in this world comes down to the matter of ponytail

เรื่องที่คุณอาจสนใจ