หลังจากที่ Microsoft ได้สั่งปิดสตูดิโอเกม 4 แห่งในเครือของ Bethesda ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างหนักในวงการเกม เพราะทำให้เห็นว่าแม้ได้มีโอกาสทำเกมที่ดีก็ไม่ได้แปลว่าจะรอดจากการถูกสั่งปิดเสมอไป วันนี้มีอดีตผู้บริหารคนหนึ่งออกมาวิพากย์วิจารณ์โดยชี้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนี้เป็นเพราะนโยบายการผลักดัน Xbox Game Pass นั่นเอง
โดยคุณ Brad Hilderbrand ซึ่งเคยทำงานเป็น Senior Public Relations Manager ที่ Microsoft มาก่อนแสดงความคิดเห็น LinkedIn ว่าปัจจุบัน Xbox มีปัญหาใหญ่อยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือ Game Pass นั้นกลายเป็นสิ่งที่ขัดแข้งขัดขายอดขายเกมต่าง ๆ เช่น Hi-Fi Rush ทำให้ยอดขายเกมเต็มราคาไปไม่ถึงเป้า เพราะผู้เล่นชินกับการรอให้มาลง Game Pass ขณะที่ Microsoft เองก็ชดเชยรายได้ที่หายไปนี้ไม่ได้ เพราะยอดสมาชิกบริการ Game Pass ก็แทบไม่มีการเติบโต
ปัจจัยที่สองคือการที่ Microsoft เข้าซื้อ Activision Blizzard ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะหลังจากที่ใช้จ่ายเงินไปหลายหมื่นล้าน ทาง Microsoft ก็พยายามหาทุนคืนและทางลดทอนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และเนื่องจาก Xbox มีผลประกอบการที่ไม่น่าประทับใจ ผู้บริหารระดับสูงของ Microsoft จึงลงมาแทรกแซงกิจการต่าง ๆ ลงเอยด้วยการสั่งปิดสตูดิโอในเครือเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง
นอกจากนี้เขายังชี้ด้วยว่าการนำเกม Call of Duty ภาคต่าง ๆ รวมถึงภาคใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวมาลงให้เล่นผ่านทาง Game Pass ตั้งแต่วันแรกนั้นจะกลายเป็นปัญหาที่ทำหรือไม่ทำก็เจ็บตัวอยู่ดี เพราะหากเปิดให้เล่นภาคล่าสุดตั้งแต่วันแรกก็จะทำให้ยอดขายและกำไรตก แต่ถ้าไม่ลงก็จะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย ถูกผู้ใช้บริการที่อยากเล่นบน Game Pass ตั้งแต่วันแรกวิพากย์วิจารณ์อย่างแน่นอน
แปลและเรียบเรียงจาก
Tech4Gamers
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station