คุณ Shawn Layden อดีตผู้บริหารของ PlayStation ที่เคยทำงานอยู่กับ Sony มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าในอนาคตนั้น ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาจจะต้องพิจารณาพอร์ตเกมมาวางจำหน่ายบน PC มากกว่านี้ เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้ครอบคลุมกับงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ใช้ไปในการพัฒนา และในปัจจุบัน การกำหนดให้เกมต่าง ๆ เป็นเกม "Exclusive" หรือเกมที่ลงให้กับแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งนั้นก็เป็นเหมือนกับ "จุดอ่อน" ของเกมเหล่านี้ค่ะ

"เมื่อต้นทุนในการพัฒนาเกมเกมหนึ่งมีมากกว่า 200 ล้านเหรียญขึ้นไป การทำให้เกมนั้น ๆ กลายเป็นเกม Exclusive ก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของคุณ"
คุณ Layden เอ่ยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว GamesBeat
"เพราะมันจะทำให้ตลาดของคุณมีขนาดแคบลง โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเกมไลฟ์เซอร์วิสหรือเกมฟรี การเพิ่มแพลตฟอร์มเข้าไปจึงถือเป็นการเปิดช่องทางให้คนเข้ามาเล่นเกมของคุณได้มากขึ้น"

คุณ Layden ยังได้ยกตัวอย่างเกม Helldivers 2 ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ว่าการที่ตัวเกมลงให้กับ PlayStation และ PC ในเวลาเดียวกันนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีคนสนใจตัวเกมมากขึ้น หรือต่อให้เป็นเกมเล่นคนเดียวที่อาจไม่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันในการลงให้กับหลาย ๆ แพลตฟอร์ม แต่หากคุณใช้งบประมาณในการสร้างเกมไปกว่า 250 ล้านเหรียญ คุณก็ย่อมอยากขายเกมให้คนเล่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าจะได้เพิ่มมาแค่ 10% ก็ตามที

นอกจากให้ความเห็นเรื่องเกม Exclusive แล้ว คุณ Layden ยังได้พูดเสริมไว้อีกว่าอุตสาหกรรมเกมในปัจจุบันยังดึงดูด "ผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นเกมบนคอนโซล" เข้าสู่วงการคอนโซลได้ไม่มากพอ ฉะนั้นการดันทุรังทำอย่างที่ทำอยู่ต่อไปย่อมไม่อาจดึงดูดคนเหล่านี้ให้เข้ามาสนใจผลงานมากขึ้นได้
"หากผู้คน 95% ของโลกไม่อยากเล่นเกม Call of Duty, Fortnite และ Grand Theft Auto อุตสาหกรรมนี้ก็จะยังทำเกม Call of Duty, Fortnite และ Grand Theft Auto ออกมาอยู่หรือ แบบนั้นมันคงดึงดูดคนเข้ามาเพิ่มไม่ได้หรอก"
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.videogameschronicle.com
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station