วันนี้วงการ Esports ของเกมที่เกี่ยวข้องกับ Nintendo อย่าง Smash Bros. และ Splatoon อาจต้องสะอึกกันอย่างยกใหญ่ เพราะทาง Nintendo ได้ประกาศแนวทางปฏิบัติในการจัดงานแข่งขันทัวร์นาเมนท์ Esports สำหรับทั้งทางฝั่งยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา ซึ่งหลายข้อทำให้หลายฝ่ายรู้สึกกังวลมากว่าอาจสร้างปัญหาให้การจัดงานแข่งขันในอนาคตได้

แนวทางปฏิบัติดังกล่าวจะมีผลบังคับกับการแข่งขันขันแบบ "Community Tournament" ซึ่งนิยามไว้ว่าเป็นการแข่งขันขนาดชุมชนแบบย่อม ๆ ที่ไม่แสวงหาผลกำไรโดยใช้เกมที่ Nintendo ถือลิขสิทธิ์อยู (ส่วนการแข่งขันขนาดใหญ่หรือแบบแสวงหากำไรนั้นมีกฎเกณฑ์และต้องขอใบอนุญาตอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว) โดยมีสาระสำคัญต่าง ๆ เช่น
- ห้ามใช้ซอฟต์แวร์ของ Nintendo ที่ถูกดัดแปลงแก้ไข
- ห้ามหารายได้เพื่อการพาณิชย์เว้นแต่ว่าแนวทางฯ จะอนุญาต
- จำกัดให้มีผู้เข้าแข่งขันได้ 200 คน หรือ 300 คนสำหรับการแข่งขันออนไลน์ ห้ามเก็บค่าสมัครเกินคนละ $20
- ผู้จัดงานต้องเป็นบุคคลธรรมดา (ไม่ใช่นิติบุคคล) และห้ามรับค่าตอบแทนจากสปอนเซอร์บุคคลที่สาม
- ห้ามขายอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าอื่น ๆ เด็ดขาด
- รางวัลรวมทั้งหมดห้ามมีมูลค่าเกิน $5,000 ในการแข่งขันนั้น ๆ หรือเกิน $10,000 ในรอบ 12 เดือน
หลังจากที่ประกาศออกไปก็สร้างความไม่พอใจให้กับชุมชนผู้เล่นทั้งเกม Splatoon และ Smash Bros. เลยทีเดียว จนเรียกได้ว่าทำลายวงการแข่งขันในระดับรากหญ้าแบบถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว อีกทั้งยังระบุด้วยว่าต้องควบคุมให้ผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมทำตามนโยบายที่ Nintendo วางไว้ และห้ามทำ "สิ่งใด ๆ ก็ตามที่ Nintendo เห็นว่าไม่สมควร" ไม่เช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีได้

ขณะเดียวกันบางคนก็ไม่ปลื้ม แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะ Nintendo ในอดีตก็มีท่าทีไม่ค่อยเป็นมิตรกับวงการ Esports สักเท่าไหร่ เคยพยายามยุติการแข่งขัน Super Smash Brothers Melee ที่งาน EVO 2013 แม้จะระดมทุนเพื่อการกุศลด้วย แม้หลัง ๆ จะเริ่มดูเหมือนผ่อนปรนลงมาบ้าง แต่วันนี้กลับแข็งกร้าวขึ้นมาชนิดที่หลายคนคาดว่าคงต้องกลับไปจัดงานแข่งขันแบบใต้ดินเหมือนเดิม
ข้อมูลอ้างอิงจาก
eSports Illustrated
IGN
Shack News
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station