ณ วันที่เพื่อน ๆ ได้อ่านบทความนี้ก็น่าจะเหลือเวลาเพียง 4 วัน ก่อนที่เกม Samba de Amigo: Party Central จะวางขายบนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้แล้วนะครับ ซึ่งตัวเกมดังกล่าวเป็นภาคต่อของเกม Samba de Amigo ที่เคยวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1999 หรือเกือบ 24 ปีมาแล้ว โดยที่เกมก็ยังคงเป็นแนว Rhythm จับจังหวะดนตรีที่แฟนเกมยุคนั้นคุ้นเคยกันดีนั่นเอง
แน่นอนครับว่าการคัมแบ็คกลับมาทำภาคต่อ หลังหายหน้าหายตาไปนานขนาดนี้ ย่อมต้องมีคำถามในหมู่แฟน ๆ ไม่น้อยแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องรอยต่อของยุคสมัยที่วงการเกมมีความเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน จนเกิดความวิตกว่าทีมงานจะสามารถทำเกมภาค Party Central ให้มีความสนุกตามสมัยนิยมได้อยู่หรือไม่ ในโอกาสนี้คุณชุน นากามุระ (Shun Nakamura) โปรดิวเซอร์ของเกม และเคยเป็นผู้กำกับเกมภาคออริจินัลเมื่อปี 1999 ก็มาให้ความกระจ่างแก่แฟน ๆ แล้วครับ เรามาชมบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่า
คุณนากามุระเปิดประเด็นถึงสาเหตุของการหยิบเกมนี้มาทำภาคต่อ โดยเผยว่าตัวเขาเองนั้นทำงานอยู่ใน Sega มาเป็นเวลาประมาณ 25 ปีแล้ว และเคยมีส่วนร่วมในทีมที่พัฒนาเกมซีรีส์ Sonic มาก่อน ซึ่งตอนที่เครื่อง Nintendo Switch เปิดตัวเป็นครั้งแรก เขาก็ได้เห็นรูปลักษณ์อันโดดเด่นของเครื่องดังกล่าวที่ประกอบไปด้วย Joy-Con สองชิ้น จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่าตัว Joy-Con น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีหากนำมาพัฒนาร่วมกับเกม Samba de Amigo ครับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Switch ออกวางขาย ทางคุณนากามุระกับทีมงานกลับอยากทำเกมซีรีส์ใหม่หรืออยากลองอะไรท้าทายใหม่ ๆ ดูแทน กระทั่ง Switch วางขายมาได้ราว 2-3 ปี ณ เวลานั้นทีมงานก็ยังไม่มีไอเดียที่จะหยิบ Samba de Amigo ด้วยซ้ำ จนคุณนากามุระเห็นว่าค่ายเกมอื่น ๆ ก็เริ่มจะนิยมนำเกม IP เก่า ๆ ของตัวเองมาทำใหม่อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการรีมาสเตอร์หรือรีเมค ซึ่งเขาและทีมงานรู้สึกได้ว่าการทำเช่นนี้ก็เหมือนเป็นการสื่อสารกับเหล่าแฟนเกมที่เคยผูกพันกับเกมซีรีส์ต่าง ๆ ในอดีตได้ทางหนึ่งด้วย และก็คือที่มาของการนำเกม Samba de Amigo มาปัดฝุ่นใหม่นั่นเอง
ในช่วงที่กำลังวางคอนเซ็ปต์ให้กับเกมภาค Party Central ตลาดเกมขณะนั้นจะมีเกมแนว Rhythm อยู่มากมายที่ล้วนมีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่เอื้อให้ผู้เล่นรู้สึกได้ว่าถ้าพวกเขาเล่นเกมแนวนี้เก่ง พวกเขาจะดูเท่ดูเจ๋งโคตร ๆ และก็จะมีเกมเมอร์คนอื่น ๆ สนใจจะเข้ามาท้าประลองและทำให้เกมแนวนี้ดูสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคุณนากามุระอยากให้เกมภาค Party Central ดูมีความทันสมัยและเกาะติดเทรนด์โลก เขาจึงนำองค์ประกอบเด่น ๆ ของเกมซีรีส์นี้มาผนวกเข้ากับลูกเล่นของแอปพลิเคชั่น TikTok ทำให้ผู้เล่นสามารถผ่อนคลายและสนุกไปกับเกมและท่วงทำนองดนตรีได้ โดยไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่ต้องแข่งขันกันจริงจังตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ในภาค Party Central ก็จะมีลูกเล่นของ Battle Royale ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้เล่นจะสัมผัสกับความสนุกส่วนนี้ได้ที่โหมด World Party ครับ ทางด้านโหมดดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ฝึกฝนเพื่อทำลายสถิติของตัวเอง ให้ได้คะแนนออกมาดีที่สุด รวมถึงได้ประชันฝีมือกับผู้เล่นอื่น ๆ ทั่วโลก นั่นคือความสนุกของความเป็น Battle Royale ที่หลายเกมทำกันจนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
คุณนากามุระกล่าวเสริมว่ากระบวนการเลือกเพลงมาใช้กับเกมนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนที่ทีมงานพิถีพิถันไม่แพ้กัน โดยทีมงานได้เลือกเพลงหลากหลายแนวให้เกิดความสมดุล เพื่อให้ผู้เล่นได้สนุกกับเพลงทุกแนว ซึ่งทีมงานมีการสอบถามความเห็นจากพนักงานและทีมงานที่อยู่สาขาต่างประเทศด้วย นั่นก็เพราะต้องการให้ได้เพลงที่ดีที่สุดจากแต่ละภูมิภาค ให้เกิดความกลมกล่อมและเข้ากับมาราคัส ที่เป็นเครื่องดนตรีธีมหลักของเกมครับ
เมื่อพูดถึงจุดแข็งของเกม Samba de Amigo คุณนากามุระเผยว่าตัวเกมจะนำเสนอฟีลที่ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนการได้แสดงสดหรือเวลาอยู่ในห้องคาราโอเกะกับเพื่อน ๆ โดยที่ไอเดียนี้เริ่มมาจากการได้เห็นผู้คนต้องอยู่แต่ที่บ้านในช่วงที่ COVID-19 แพร่ระบาด เลยคิดว่าถ้าเกมนี้ช่วยให้ผู้คนได้ลุกมาขยับตัวก็คงจะช่วยให้เกิดความสนุกขึ้น และถ้าได้เล่นร่วมกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงก็ยิ่งดีไม่น้อย นั่นเลยเป็นจุดที่เกม Samba de Amigo มุ่งเน้นนำเสนอมาตลอด
ด้วยความที่ตัวเกมภาค Party Central จะมีลงทั้งแพลตฟอร์ม Nintendo Switch ที่เป็นเครื่องเกมพกพาและ Meta Quest 2 / Pro ที่เป็นอุปกรณ์ VR ทีนี้ในฝั่งของ Meta Quest 2 / Pro ก็เลยจะมีฟีเจอร์เฉพาะสำหรับโหมด VR ครับ อย่างแรกเลยคือฉากแวดล้อมรอบตัวระหว่างเล่นจะเป็นแบบ 3D ทั้งหมด รวมถึงบรรยากาศโดยรอบก็จะให้ความสมจริงและเหมือนอยู่บนเวทีแสดงสดมากกว่า แต่ทั้งนี้ยังมีระบบอีกหลายอย่างที่ทางทีมงานยังไม่สามารถเปิดเผย ณ ตอนนี้ได้ ขอให้แฟน ๆ ทุกคนอดใจรอข้อมูลที่จะอัปเดตเพิ่มเติมในอนาคตอีกทีครับ (เวอร์ชั่นที่ลง Meta Quest 2 / Pro จะวางขายช่วงปลายปี 2023 ส่วนบน Nintendo Switch จะวางขายวันที่ 29 สิงหาคมที่จะถึงนี้)
ใครที่ยังคิดถึงซีรีส์แนวดนตรีนี้อย่าง Samba de Amigo กันอยู่ อย่าได้พลาดภาค Party Central กันนะครับ
ทีมงาน Online Station ขอขอบคุณทาง Sega ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมสัมภาษณ์คุณชุน นากามุระ โปรดิวเซอร์ของเกม Samba de Amigo: Party Central มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station