เรียกได้ว่าปัจจุบัน เกมแนว Live Service เปิดบริการยาวนานทำรายได้ไปเรื่อย ๆ ก็ยังถือเป็นอีกเกมหนึ่งประเภทที่ค่ายไหนก็ใฝ่ฝันอยากจะมีเป็นของตัวเองสักเกม อาจจะไม่ต้องเป็นเบอร์ 1 แต่อย่างน้อย ๆ ขอให้ติดตลาด มีคนเล่นตลอดเวลา มีคอมมูที่เหนียวแน่นและยาวนาน ที่ผ่านมาเราเห็นทั้ง Dota2, LoL, PUBG, Apex Legends, Fortnite Final 14 และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทุกวันนี้ก็ยังคงฮิตติดลมบน แล้วไฉนเล่า ค่ายเกมที่ตอนนี้หุ้นกำลังขึ้นเพราะออกมาแต่ละเกมก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี แถมมี IP ใหม่รอคิวออกในอนาคตอย่าง Capcom จะไม่ทำเกมประเภทนี้ออกมาบ้าง ใช่ครับ นี่คือบทความรีวิวเกมล่าสุดของค่ายนี้กับเกมที่มีชื่อว่า Exoprimal

Exoprimal ว่าด้วยเรื่องราวของโลกอนาคตที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ประตูมิติสุดประหลาดที่นำเอ่าไดโนเสาร์ออกมาสร้างความวุ่นวายและโกลาหลต่างมีอยู่ในทุกที่ทั่วโลก ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นหน่วยรบพิเศษ ที่คอยใช้วิทยาการสุดล้ำอย่าง Exo Suit ในการเข้าต่อกรกับสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์เหล่านี้ ซึ่งก็เหมือนไดโนเสาร์ที่มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ Exo Suit ที่เป็นอาวุธของมนุษยชาตินี้เองก็มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานเช่นกัน แถมเทคโนโลยีของมนุษย์ในตอนนี้ ก็สามารถเดินทางย้อนหรือข้ามเวลาได้ นอกจากนี้ ยังมีการเล่าถึงมิติคู่ขนานควบคู่ไปด้วย เรียกได้ว่าไซไฟจัด ๆ เลยทีเดียว

เผื่อหลายคนจะเข้าใจผิดเพราะเห็นพวกเราคณะ OS เคยหยิบเกมนี้มาเล่นช่วง Network Test แล้วชอบกด Skip เนื้อเรื่อง ขอให้พื้นที่ตรงนี้แก้ต่างให้กับตัวเกมสักหน่อย คือต้องอย่าลืมว่าเกมนี้คือเกมที่ขายในราคา 60 เหรียญ (1,979 บาท บน Steam) หรือพูดง่าย ๆ ก็คือระดับเกม AAA นั่นล่ะครับ ดังนั้นเราจะได้เห็นคัทซีนของตัวเกมที่เล่าเนื้อเรื่องแบบยาว ๆ ใช่ครับ บางคัทซีนคือยาวมาก โดยการเล่าเนื้อเรื่องของเกมนี้จะสลับไปกับการบังคับให้เหล่าผู้เล่นนั้นเข้าไปเล่นเกมกันเสียก่อนอย่างน้อยหนึ่งหรือสอง Match แล้วค่อยมาดูคัทซีนเล่าเรื่อง ซึ่งถ้าหากเราอ่านหรือดูแบบตั้งใจกันเสียหน่อย ผู้เล่นก็จะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องเข้าไปเล่นไอ้โหมดหลักที่เรียกว่า Wargame นั่น รวมไปถึงได้รับรู้ถึงที่มาที่ไปและความไม่ชอบมาพากลของ AI ที่คอยนำทางเราตลอดทั้งเกมอย่าง Leviathan ด้วยนั่นเอง ก็เพราะเหตุผลเหล่านี้ ดังนั้นจะบอกว่าเกมนี้ขายราคา AAA แต่ไม่มีเนื้อเรื่องให้ติดตามก็คงไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นักครับ

ระบบเสียง
ในส่วนแรกที่ต้องขอรีวิวก่อนก็คือเรื่องของเสียงครับ คือต้องบอกว่าก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก ถือว่าโอเคในระดับเกม AAA พวกเสียงเอฟเฟคต่าง ๆ ที่แสดงถึงความล้ำยุคก็ถือว่าทำได้ดี ทั้งเสียงพูดของ AI อย่าง Leviathan เสียงปืน เสียงระเบิด ซึ่งถ้าหากจะเล่นจริงจัง การฟังเสียงพูดของ AI นำทางตนนี้ก็ถือว่าช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เล่นได้นิดหน่อย เพราะเวลาที่เราวุ่นวายอยู่กับการเคลียร์กองทัพไดโนเสาร์นั้น หลาย ๆ ครั้งเจ้า Leviathan จะเรียกไดโนเสาร์มาเพิ่ม และมันก็มักจะบอกก่อนเสมอว่าจะทำการเสกตัวอะไรมา ดังนั้นเสียงที่ค่อนข้างชัด และแยก Dynamic ชัดเจนก็ถือว่าโอเคอยู่ ส่วนเพลงประกอบก็ใช้ได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเราอาจจะโฟกัสถึงความช่วยเพิ่มอรรถรสของมันไม่ได้ก็ตาม เพราะเสียงส่วนใหญ่จะตีกันด้วยเสียง AI เสียงไดโนเสาร์ เสียง Exo Suit และเสียง Effect ก็ตาม

กราฟิก
ต้องขอชมในเรื่องของ Performance ตัวเกมนั้นออกแบบภาพ ฉาก และบรรยากาศออกมาได้ดีแถมไม่กินสเปค บางฉากมีไดโนเสาร์เป็นร้อยเป็นพันตัวเฟรมเรทก็ยังพอโอเคอยู่ที่ 60 เฟรมแบบค่อนข้างนิ่ง นี่เป็นอีกครั้งที่ Capcom ทำให้เราเห็นว่า RE Engine ของพวกเขามันเทพขนาดไหน ถ้าจะให้ติหน่อยก็คงเป็นเรื่องความรกของ UI ต่าง ๆ และ Effect ของสกิลที่หลาย ๆ ครั้งรู้สึกว่ามันทำให้ดู Object ยากเกินไปหน่อย

เกมเพลย์
ผมมีความรู้สึกว่าคงไม่ต้องอธิบายยืดยาวเหมือนกับเกมอื่น ๆ เท่าที่ควร ง่าย ๆ คือ ตัวเกมเป็น Action Shooting สไตล์ Overwatch ผสมกับ Earth Defense Force นั่นล่ะครับ เพียงแต่ว่ามันเป็นแบบมุมมอง 3rd person หน้าที่ของผู้เล่นก็คือทำการตะลุยภารกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละด่านด้วยรูปแบบ PvPvE หรือ PVE คือเมื่อเราเข้าไปแล้ว เราจะสามารถเลือกเปลี่ยน Exo Suit ได้ตลอดเวลาเหมือนกับการเปลี่ยนฮีโร่ใน Overwatch และ Exo Suit ที่ผู้เล่นเลือกได้ก็จะแบ่งออกเป็น 3 Class คือ DPS / Tank แล้วก็ Support

แน่นอนว่าพอเป็นเกมสไตล์นี้ ทีมเวิร์คจะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด นอกเสียจากคุณจะมี Reflex เทพเจ้าที่สามารถแบกผู้เล่นทั้งทีมได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การล้างบางไดโนเสาร์และฝั่งตรงข้าม แต่มันเป็นการทำ Object ให้ไวเพื่อชิงความได้เปรียบ โหมดการเล่นหลัก ๆ ที่ผู้เล่นน่าจะเจอกันบ่อยที่สุดคือการเล่นแบบ PvPvE โดยจะแบ่งออกเป็นสองทีม ช่วงแรกของเกมจะเป็นการลุยฝูงไดโนเสาร์ตามจุดต่าง ๆ ฆ่าบอส ป้องกันจุดสำคัญ แล้วก็มาเข็นรถช่วงท้าย ซึ่งทีมไหนที่ทำเวลาได้เร็วกว่าก็จะสามารถดันรถได้ก่อนอีกทีม และทีมไหนเข้าเส้นชัยก่อนก็เป็นฝ่ายชนะไป ใช่ครับ มันคือเกมเพลย์แบบหมา ๆ ที่เราทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดี ดังนั้นเมื่อเราเห็นทีมของเราหยิบ Exo Suit เบียว ๆ เล่นยาก ๆ แล้ววิ่งนำหน้าไปคนเดียว คุณทำหน้าที่ Support หรือเป็นตัว Tank เกาะติดอยู่กับการทำ Object อยู่แนวหลัง ก็เห็นชะตากรรมของ Match นั้นได้ไม่ยาก

Exo Suit นั้นมี 3 Class อย่างที่ผมบอกไป และด้วยความที่ตัวเกมนั้นมีศัตรูหลากหลาย ทั้งพวกแรปเตอร์กี๊ ๆ มาเป็นฝูง เทราโนดอนที่บินได้ ไทรเซราทรอปสุดถึก และ T-Rex สุดร้ายกาจที่โจมตีรุนแรง ดังนั้น การเลือก Exo Suit ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ก็เป็นอะไรที่จำเป็นสำหรับเกมนี้ไม่ต่างกับ Overwatch บางด่านตัวบินเยอะ การจะใช้พวกตัวละครโจมตีระยะประชิดอย่างเดียวก็เป็นอะไรที่เลอะเทอะ หรือการสู้กับบอสโดยไร้ Support เองก็เป็นนรกสำหรับ Tank รวมถึงการเข้าไปกลางดงผู้เล่นทีมตรงข้ามแบบซี๊ซั๊วเองก็เป็นอะไรพาทีมแพ้ได้เช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นนั้นคิดว่าสถานการณ์ไหนควรจะเลือก Exo Suit แบบใด ไม่มีการตายตัว บาง Match เราไม่สามารถเลือกเล่นตัวละครเดียวได้ตลอด คือคงไม่ต้องอธิบายเยอะไปกว่านี้ หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจ พูดง่าย ๆ คือถ้าหากเราเจอผู้เล่นน้ำลายยืด เกมแบบนี้มันก็จะสนุกน้อยลงและกลายเป็นความน่าเบื่ออย่างมิอาจปฏิเสธ แต่ถ้าเราเจอทีมที่ดี หรือมีเพื่อนเล่นที่เข้าใจ แบ่งหน้าที่กันชัดเจน Exoprimal ก็ถือว่าเป็นเกมที่สนุกใช้ได้ ยิ่งโหมดการเล่นหลังๆ นี่ต้องชมล่ะครับว่ามันสนุกและลุ้นมาก เพียงแต่ว่าคุณต้องผ่านช่วง 4-5 ชั่วโมงแรกของเกมไปให้ได้ เพราะตัวเกมจะเพิ่มความหลากหลายของภารกิจตามเข้ามา แล้วก็ติดตามเนื้อเรื่องของเกมเสียหน่อย ผมว่าทุกคนน่าจะแฮปปี้กับเกมนี้ได้ไม่ยากเพราะเกมเพลย์มันสนุกและทำให้อยากเล่นเรื่อย ๆ อยู่เหมือนกัน

สุดท้ายมีข้อจุกจิกอยู่นิดหน่อย ตัวเกมนั้น Cross Platform ได้นะครับ แต่ไม่รู้ทำไมผู้เล่นบน Game Pass ถึงไม่สามารถเล่นร่วมกับผู้เล่นบน Steam ได้ แถมยังมีขายเพิ่มทั้ง Premium Pass และ DLC pack ที่ช่วยให้ปลดล็อคนั่นนี่ได้ไวขึ้น ซึ่งนั่นมันก็พ่วงกับระบบ Loot Box เข้าไปอีก ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าไอ้สิ่งเหล่านี้มันไม่ควรจะโผล่มาพร้อมกันทั้งหมดในเกมที่ขายด้วยราคา 60 เหรียญ

บทสรุปส่งท้าย
Exoprimal มีเกมเพลย์ที่สนุก เล่นเพลิน ยิ่งเล่นกับเพื่อนยิ่งโอเค เนื้อเรื่องก็ดูมีอะไรให้ติดตาม พอปลดเกมเพลย์ทุกรูปแบบแล้วก็ดูมีอะไรให้สมกับความเป็นเกมที่ขายราคา 60 เหรียญอยู่พอสมควร ข้อเสียใหญ่ของเกมก็คือพี่ดันขายราคาขนาดนี้แต่ดันทำรูปแบบ Live Service ที่พ่วงการเก็บเลเวลตัวละคร การเปิดกล่อง แถม Pass ให้ซื้อในเกมเพิ่มไปอีก มันก็เลยดูเป็นอะไรที่เสี่ยงพอสมควร เพราะผมเชื่อว่าคงมีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่กดซื้อราคาเต็มแล้วต้องมาเจอรูปแบบการ Monitize แบบเกมฟรี ยังดีที่มีทางเลือกด้วยการเล่นผ่าน Game Pass เพื่อทดลองก่อน แล้วถ้าหากตัวเกมไม่ได้มี End Game Content ที่อัพเดทมารวดเร็วพอ มันก็จะร้างไวมาก ตามธรรมชาติของเกมที่ขายราคา AAA ด้วยระบบ Live Service

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ พวกเรา Online Station ขอมอบคะแนนให้กับเกมนี้ไปที่ 6.5 คะแนนครับ ง่าย ๆ เลยคือมันสนุก แต่พอคุณเล่นไปราว 10 กว่าชั่วโมงนิด ๆ เนื้อเรื่องมันหมด มันไม่มี Passion ให้เล่นต่อเท่าที่ควร ว่ากันตามตรง ถ้าตี้ไม่ครบ ผมไม่อยากเล่นเลย เพราะเกมเพลย์มันหมา และผมต้องย้ำอีกที ใครหวังจะเล่น PVE เป็นหลัก เกมนี้ไม่ใช่แบบนั้นครับ สาระสำคัญของเกมมันคือ PVP หรือเรียกให้ถูกคือ PvPvE มากกว่าอย่างที่บอกไปช่วงต้นนั่นเอง
คะแนน 6.5/10
อ้างอิงข้อมูลจาก
Online Station
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station