Hogwarts Legacy แม้ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เราเล่นได้หลากหลายรูปแบบ แต่ด้วยความจำเป็นที่ Talent ของตัวเกมมีจำกัดไม่สามารถอัปใช้ทุกอันได้ ก็ทำให้มีรูปแบบการเล่นเฉพาะทางที่ไว้สำหรับคนที่ชอบเล่นสายนั้นอัปเกรดกันโดยเฉพาะ เรามาดูกันดีกว่าว่าบิ้วการเล่นที่เจ๋ง ๆ นั้นมีอะไรกันบ้าง

สาย Dark Arts
สายยอดนิยมสำหรับวัยรุ่นอัซคาบัน แม้คำสาป Avada Kedavra จะดูโกงเพราะยิงศัตรูตายในทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยคูลดาวน์ที่นานพอสมควร กระนั้นเราก็สามารถทำให้คาถานี้ดุเดือดมากกว่าเดิมได้ด้วยการอัป 2 Talent ที่สำคัญในสาย Dark Arts ได้แก่ Crucio Mastery และ Avada Kedavra Mastery

โดยเป้าหมายของบิ้วนี้จะเป็นการเคลียร์ศัตรูในชุดเดียว ด้วยการใช้ Crucio Mastery ยิงกระจายคำสาปใส่ศัตรูให้เยอะที่สุด ก่อนที่จะปิดฉากด้วย Avada Kedavra Mastery ที่จะทำให้ศัตรูทุกตัวที่ติดคำสาปตายทั้งหมดนี่เอง

ข้อดี - ใช้ Talent น้อยแค่ 2 แต้ม ก็โหดได้ง่าย ๆ
ข้อเสีย - คำสาป Avada Kedavra จะได้ก็ช่วงท้ายเกมแล้วเท่านั้น
สาย Cursed แชร์ดาเมจ
คล้ายกับสาย Dark Arts ที่กล่าวมา แต่ครั้งนี้จะเน้นในการแชร์ความเสียหายเป็นหลัก ซึ่งหากความเสียหายรุนแรงพอก็สามารถกำจัดศัตรูเป็นหมู่ได้เช่นกัน โดย Talent หลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ Blood Curse ที่หากเราทำความเสียหายแก่ศัตรูที่ติดคำสาป จะทำให้ศัตรูอื่น ๆ ที่ติดคำสาปด้วย โดนความเสียหายทั้งหมด

หากเราใช้ท่าโจมตีที่รุนแรงมากพอใส่เป้าหมายที่ติดคำสาปอยู่ ก็สามารถทำให้ศัตรูอื่น ๆ ที่ติดคำสาปตายทันทีได้เช่นกัน ซึ่งสายนี้สามารถเล่นควบคู่ไปกับ Dark Arts ได้เป็นอย่างดี เพราะ Crucio Mastery ก็ถือเป็นสกิลสำคัญที่ทำให้ศัตรูติดคำสาปได้ทีละมาก ๆ อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเพิ่ม Talent อย่าง Stunning Curse, Knockback Curse, Disarming Curse, Slowing Curse เพื่อทำให้ศัตรูติดคำสาปจากการใช้คาถาปกติ

ข้อดี - สามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงเลเวลยังไม่สูงมาก
ข้อเสีย - อาจจะเสียแต้ม Talent ค่อนข้างเยอะ และค่อนข้างยุ่งยากหากยังไม่มี Crucio Mastery
สายกินยา
สำหรับสายกินยานั้น จะมียาอยู่ 3 ชนิด ที่สามารถใช้ในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี และจะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นหากเราอัป Talent ในสายนั้น ๆ มาใช้ มาวันนี้จะแนะนำยาสุดโกงที่ทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

Edurus Potion
ยาที่จะทำให้ตัวเราเคลือบด้วยหินและลดความเสียหายที่ได้รับ หากอัป Talent เพิ่มเติม Edurus Potion Potency ก็จะทำให้ตัวเราเป็นอมตะแถมยังสะท้อนการโจมตีด้วยคาถาจากศัตรูอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวตายกันเลย

Maxima Potion
ยาที่ช่วยเพิ่มความแรงของการโจมตีของเรา แต่ถ้าหากอัป Maxima Potion Potency นอกจากจะเพิ่มพลังโจมตีให้มากขึ้น มันยังช่วยให้การโจมตีของเราทำลายบาเรียศัตรูทุกสีอีกด้วย ส่งผลให้เราคอมโบได้อย่างเต็มที่ (ยกเว้นศัตรูตัวใหญ่)

Focus Potion
ยาที่จะทำให้คูลดาวน์คาถาของเราลดน้อยลง หากอัป Focus Potion Potency จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของยา หากเรามีการใช้คาถาใด ๆ ก็ตาม ซึ่งมีเทคนิคเล็กน้อยตรงที่เราสามารถใช้คาถาที่ไม่มีคูลดาวน์อย่าง Lumos มากดรัว ๆ เพื่อยืดระยะเวลาของยาได้อีกด้วย

ยาสามชนิดนี้สามารถนำมาใช้พร้อมกันได้ ซึ่งจะทำให้เราเป็นอมตะแถมยังโจมตีได้รัว ๆ โดยไม่ต้องสนบาเรียศัตรูด้วยเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งสายที่ถือว่าโกงมากเลยทีเดียว
ข้อดี - ค่อนข้าง OP เป็นอย่างมากทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ
ข้อเสีย - จำเป็นต้องใช้ยาซึ่งในช่วงต้นเกมอาจจะหาได้ยาก จะสะดวกใช้มากขึ้นเมื่อปรุงยาเองได้
สายเล่นพืช
สายที่นับว่า OP มากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องมีการเตรียมตัวค่อนข้างมากเช่นกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็แทบจะทำให้เราผ่านศัตรูได้ทุกตัวอย่างแน่นอนเช่นกัน โดยการเตรียมการหลักจะมีดังนี้
อัป Talent ในสาย Room of Requirement
จะมีสอง Talent ที่ต้องอัปคือ Fertiliser กับ Noxious ซึ่งจะช่วยอัปเกรดพืชสองชนิดที่เราจะใช้เป็นหลักได้แก่ Chinese Chomping Cabbage และ Venomous Tentacula

อัปชุดเพิ่ม Trait Herbology

Trait Herbology นั้นจะช่วยเพิ่มความเสียหายให้การกับโจมตีของพืชเป็นอย่างมาก ยิ่งมีขั้นสามและใส่ครบทุกชุดจะทำให้การโจมตีของพืชนั้นรุนแรงถึงขีดสุดเลยทีเดียว

สำหรับการเล่นสายนี้ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เราวิ่งหลบการโจมตีศัตรูพร้อมกับโยนให้ผักจัดการศัตรูแบบง่าย ๆ เรียกได้ว่าเป็นสายที่โกงและเล่นง่ายสุด ๆ สายนึงเลยทีเดียว
ข้อดี - โกงในระดับที่เล่น Hard เหมือนเล่น Easy
ข้อเสีย - ยุ่งยากในการปลูกผัก และต้องมีการอัปชุดใส่ Trait ถึงจะดี
เรื่อง: O_Taiki
[อ่านไกด์อื่น ๆ ของ Hogwarts Legacy ได้ที่นี่]
[อ่านข่าว Hogwarts Legacy ได้ที่นี่]
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net