ย้อนไปเมื่อปี 2008 ได้มีซีรีส์เกมแนวสยองขวัญหน้าใหม่นามว่า Dead Space ที่ผู้เล่นต้องเอาชีวิตรอดในสถานีอวกาศ พร้อมกับต้องต่อสู้กับอสุรกายรูปร่างประหลาดถือกำเนิดขึ้น ซึ่งมีจุดเด่นตรงการนำเสนอความน่าสะพรึงกลัวและฉากการตายสยดสยองของบรรดาตัวละครในเกม แต่ด้วยปัญหาสั่งสมหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้ซีรีส์ดังกล่าวมาถึงทางตันจนต้องถึงคราวถูกรีเมคใหม่ ขณะที่อดีตหัวเรือของเกม Dead Space อย่างคุณ Glen Schofield ก็ได้ออกมาก่อตั้งสตูดิโอของตัวเอง พร้อมกับเปิดตัวเกมใหม่ที่เป็นแนวเดียวกันในชื่อ The Callisto Protocol ทว่าเมื่อออกมาโบยบินเองแล้ว ผลงานของเจ้าตัวจะยังขลังเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น เพื่อน ๆ ลองชมรีวิวในบทความนี้กันได้เลยครับ
แพลตฟอร์ม: PS5, PS4, Xbox Series X|S, Xbox One, PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS5)
แนวเกม: แอ๊กชั่น, สยองขวัญ
ผู้พัฒนา: Striking Distance Studios
วางจำหน่าย: 2 ธันวาคม 2022
เรือนจำมรณะบนห้วงอวกาศ
เนื้อเรื่องแห่งความน่าสยดสยองนี้เริ่มจาก เจค็อบ ลี นักบินขนส่งสินค้าที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดทำให้ยานของเขาตกลงในเขตของเรือนจำแบล็คไอรอนบนดวงจันทร์ Callisto แถมเจ้าตัวดันถูกจับกุมไปเป็นนักโทษในเรือนจำอย่างไร้เหตุผล ไม่นานนักความซวยของเจค็อบก็ประดังประเดเข้ามาหารัว ๆ เป็นคอมโบ เมื่อเหล่านักโทษต่างพยายามหนีออกจากห้องขังและก่อการจลาจล อันมีสาเหตุจากการที่พวกเขาติดเชื้อลึกลับที่ทำให้หลายคนกลายพันธุ์เป็นอสุรกาย เจค็อบเลยต้องหาทางรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ ท่ามกลางต้นตอของความชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ก็กำลังจับตามองเขาอยู่เช่นกัน
ความสยองที่ถูกสร้างอย่างปราณีต
สิ่งที่โดดเด่นของเกมก็คือการเดินทางอันน่าขนพองสยองเกล้าที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน โดยที่โลเคชั่นในเกมนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ในคุก ทางน้ำใต้ดิน เขตแดนหิมะ ฯลฯ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไป แทบจะไม่มีจุดที่ใช้ฉากซ้ำในการออกแบบเส้นทางเลย เกมมีรายละเอียดของวัตถุที่โดดเด่น และเน้นจุดขายในฉากเลือดสาดและซากศพที่ถูกฉีกกระชาก นอกจากนั้นสีหน้าของตัวละครในเกมแสดงออกถึงความรู้สึก ความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง ได้ชัดเจนและสมจริง ผู้เล่นจะสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครในเกมได้ง่ายและรวดเร็ว
หน้าจอที่โล่งตาแต่เข้าใจได้ง่าย
เกมนี้มีการใช้หน้าตาของเมนู ตลอดจนระบบการแสดงผล HUD ที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ในทันที คล้ายกับเกม Dead Space โดยเกมนี้จะใช้แผงวงจรที่ถูกฝังอยู่ที่ท้ายทอยของเจค็อบในการแสดงระดับพลังชีวิตและเกจ GRP ส่วนกระสุนก็จะแสดงจำนวนให้เห็นอย่างชัดเจนที่หน้าจอท้ายปืนในระหว่างที่เรายกปืนขึ้นมา มันช่วยให้หน้าจอดูโล่งสามารถมองเห็นฉากทั้งหมดได้ชัดเจนโดยไม่มีแถบพลังมาบังตาแต่ในเวลาเดียวกันก็ยังดูระดับพลังชีวิตหรือกระสุนที่เหลือได้ง่ายด้วย
เหล่าอสุรกายที่พร้อมจะชำแหละเราให้เป็นเศษเนื้อ
ศัตรูส่วนมากในเกมจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีรูปร่างบิดเบี้ยว ซึ่งพวกมันก็อึด ตายยากในแบบที่ว่าบางครั้งถูกปืนยิงจนหัวระเบิดก็ยังไม่ตาย แต่โชคดีที่พวกมันมีทักษะในการต่อสู้ระยะประชิดไม่เก่งมัก หากเราฝึกการหลบได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วก็จะสามารถกำจัดพวกมันในสถานการณ์ที่ต้องสู้แบบตัวต่อตัวได้แบบไม่ยากเย็น
ขณะเดียวกัน เกมก็ยังมีศัตรูอีกหลายประเภท อาทิ สัตว์ประหลาดที่เลื้อยเข้ามาพร้อมใช้ท่าระเบิดตัวเองใส่เรา หรือศัตรูที่ปีนป่ายทำแพงเหมือนแมงมุมแล้วโจมตีสลับกับวิ่งหนี พวกมันล้วนถูกออกแบบมาให้ดูน่าขยะแขยงและน่าสยดสยองไปด้วยกัน ต้องชื่มชมการออกแบบของทีมงานที่การมีอยู่ของพวกมันช่วยทำให้เกมมีบรรยากาศกดดันได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้เกมยังเปิดโอกาสให้เราเลือกได้ว่าจะลุยแบบปกติหรือเน้นย่องแล้วลอบฆ่าศัตรูทีละตัว ซึ่งการลอบเร้นจะค่อนข้างจำเป็นในหลาย ๆ ช่วง อันเนื่องมาจากศัตรูบางประเภทที่ตรวจจับตำแหน่งของเราได้จากเสียงเท่านั้น แต่เสียงที่พวกมันตรวจหาได้ดันมีเพียงเสียงจากอาวุธหรือการเคลื่อนที่เร็ว ๆ ของเราครับ ส่วนเสียงร้องของศัตรูที่โดนเราลอบสังหารจะไม่มีผลให้ศัตรูตัวอื่นสงสัยและมายังตำแหน่งที่เราอยู่แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี หากผู้เล่นศึกษาเส้นทางการเดินของศัตรูและใจเย็นมากพอก็จะสามารถลอบจัดการพวกมันได้หมดฉากอย่างสบาย
เน้น Melee มากกว่าอาวุธปืน
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง The Callisto Protocol กับ Dead Space ก็คือ Dead Space จะโฟกัสที่การใช้อาวุธปืนเป็นหลัก ขณะที่ The Callisto Protocol จะนำเสนอการต่อสู้ระยะประชิดด้วยกระบองเสียมากกว่า ซึ่งการฟาดแต่ละครั้งจะทำให้อวัยวะของศัตรูค่อย ๆ หลุดกระเด็น และก็จบด้วยการกระหน่ำฟาดที่หัวของศัตรูให้แหลกเหลว สิ่งที่ได้แน่นอนคือความสะใจและดูดิบเถื่อน แถมเกมยังมีให้ผู้เล่นใช้เทคนิคหลบการโจมตีระยะประชิดของศัตรูด้วยการโยกซ้ายขวาและหาจังหวะรอเคาท์เตอร์สวนกลับด้วย
แน่นอนว่าในช่วงเริ่มเกมนั้นอาวุธปืนจะไม่ค่อยมีอานุภาพนัก มิหนำซ้ำกระสุนก็ยังหายาก ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องใช้การโจมตีประชิดเป็นหลัก อีกทั้งเป็นวิธีในการประหยัดกระสุนที่ดี หรือบางคนก็อาจคิดว่าการใช้กระบองฟาดนี่แหละมันส์กว่าเยอะ และเกมก็ยังมีระบบการทำคอมโบที่ใช้การโจมตีต่อเนื่องและจบด้วยการชักปืนยิงจุดอ่อนของศัตรูอย่างรวดเร็วด้วย เป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ทั้งในเรื่องความรุนแรงและการประหยัดกระสุนเช่นกัน
ปืนของเกมนี้ค่อนข้างจะเป็นอาวุธแบบพื้นฐานมากเมื่อคิดว่าเกมนี้เป็นแนวสยองขวัญธีมไซไฟ ปืนที่มีในเกมก็เช่นปืนพก ปืนลูกซอง และปืนกลธรรมดา แต่สิ่งที่ขัดใจระหว่างเล่นอย่างมหาศาลก็คือระบบการเปลี่ยนอาวุธของเกมที่อุตส่าห์ใช้คำว่า “Quick Weapon Swap Menu” นี่แหละ เพราะเวลาใช้งานจริงดันช้าจนน่าหงุดหงิด อนิเมชั่นการเปลี่ยนปืนนั้นใช้เวลานานมากจนหลายครั้งเรามักจะถูกโจมตีขณะเปลี่ยนปืน และหากโดนโจมตีในช่วงนั้นการเปลี่ยนปืนก็จะไม่สำเร็จด้วย และนั่นคือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ผู้เล่นต้องกลายเป็นศพหลายต่อหลายรอบในการสู้กับบอส ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ยาฟื้นพลังชีวิตก็ต้องใช้เวลามากเช่นกัน เรียกได้ว่าฝึกหลบการโจมตีของศัตรูและบอสให้พลิ้วยังง่ายกว่าการหาจังหวะหลบไปเติมพลังชีวิตหรือเปลี่ยนปืนด้วยซ้ำไป
นอกเหนือจากการต่อสู้ด้วยกระบองระยะประชิดที่มีความเสี่ยง กับการโจมตีด้วยปืนที่มีกระสุนจำกัดแล้ว ยังมีการโจมตีอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมนี้นั่นก็คือถุงมือ GRP ที่ทำให้เจค็อบมีพลังฟอร์ซที่สามารถจับศัตรูหรือสิ่งของจากระยะไกลแล้วเขี้ยงออกไปได้ การใช้งานของถุงมือจะเสียเกจ GRP ที่จะแสดงเป็นเกจสีฟ้าบนหลังคอของเจค็อบ ถ้ายกของที่มีน้ำหนักมากก็จะยิ่งใช้เกจมากขึ้น โดยผู้เล่นสามารถดึงวัตถุเข้ามาและเขวี้ยงออกไปได้ หรือจะยกถังแก๊สขึ้นปาใส่ก็ได้เช่นกัน แต่วิธีการใช้งานที่ดีที่สุดคือเขวี้ยงศัตรูเข้าใส่หนามแหลมหรือใบพัดที่มีอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งจะกำจัดศัตรูทั่วไปได้ในครั้งเดียว เป็นวิธีการประหยัดกระสุนที่ดีและมีความเสี่ยงน้อยด้วย
ถึงอยู่ในคุกแต่จะรอดได้ก็ต้องมีตัง
การอัพเกรดในเกมนี้จะต้องใช้เงิน ซึ่งเงิน Callisto นั้นค่อนข้างจะหายากในเกม และเกมนี้ก็ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ฟาร์มเงินนัก เนื่องจากศัตรูจะตายแล้วตายเลย ไม่มีเกิดใหม่ให้เราไล่ฆ่าวนไปมา ในขณะที่การอัปเกรดจะต้องทำที่เครื่องพิมพ์ CPU ซึ่งราคาของการอัปเกรดในขั้นสูงนั้นจะแพงจนน่าใจหาย แต่การอัปเกรดกระบองให้แรงขึ้นหรืออัพเกรดถุงมือ GRP ให้ใช้งานได้บ่อยขึ้นจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้นมาก วิธีการหาเงินที่ดีที่สุดในเกมนี้ก็คือการขายของนอกจากของที่มีไว้ขายโดยเฉพาะแล้ว ก็อาจต้องขายยาฟื้นพลังและกระสุนด้วยเหมือนกัน นั่นก็เพราะว่าเจค็อบมีช่องเก็บของในตัวที่น้อยมาก ๆ และไม่มีระบบการฝากของด้วย ดังนั้นวิธีเล่นที่จำเป็นในช่วงแรกคือพยายามใช้ทรัพยาการให้น้อยที่สุดและขายของที่เกินกว่าจะแบกได้ เพื่อแปลงสภาพเป็นเงินหรือใช้อัปเกรด ไม่เช่นนั้นแล้วหากเล่นไปถึงช่วงหลัง ๆ ชีวิตจะลำบากแสนสาหัสแน่นอน
อย่างที่เกริ่นไปในย่อหน้าก่อนว่าช่องเก็บของจะมีน้อยมาก และกว่าจะได้ช่องเพิ่มก็ปาไปช่วงครึ่งหลังของเกมแล้ว ดังนั้นช่วงแรกของเกมจะลำบากในเรื่องการเก็บของมาขายเพื่อหาเงิน ทำให้เราต้องเดินวนซ้ำ ๆ ในเส้นทางเดิมเพื่อเก็บของจากหีบและศพศัตรูที่ไม่สามารถขนไปได้หมดในรอบเดียว ตรงจุดนี้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้เล่นลำบากโดยไม่จำเป็น แถมไม่ได้ทำให้เกมมีความท้าทายขึ้น ซ้ำยังทำให้รู้สึกว่าเสียเวลาและน่าหงุดหงิดเหมือนกลับไปเล่นเกมแนว RE ยุคคลาสสิค หรือเกมสยองขวัญยุคก่อนหน้านั้นอีก
ส่วนที่ไม่ปลื้มนัก
เกม The Callisto Protocol มีเส้นทางดำเนินการผจญภัยแบบเป็นเส้นตรง มีทางเลือกให้น้อย และจะไม่สามารถย้อนกลับไปเล่นในฉากเก่า ๆ ได้ถ้าดำเนินเนื้อเรื่องผ่านจุดสำคัญไปแล้ว ข้อดีคือเล่นง่ายไม่มีหลง เพราะเกมจะบอกเส้นทางที่เราต้องไปตลอดจนจบ แต่ข้อเสียคือความที่มันมีทางเลือกให้เราน้อยก็เลยไม่ชวนให้รู้สึกอยากเล่นซ้ำอีกรอบเท่าไหร่นัก
ระบบเซฟของเกมนี้จะเซฟได้เฉพาะช่วงผ่านเนื้อเรื่องซึ่งจะขึ้นเป็นออโต้เซฟเท่านั้น ถ้าเรากดเซฟเองหลังจากออโต้เซฟ เกมจะไม่นับช่วงหลังจากออโต้เซฟให้ เช่นถ้าหลังจากออโต้เซฟแล้ว เราไปจัดการซื้อขายของและอัพสกิล จากนั้นกดเซฟ เกมจะนับให้เฉพาะช่วงที่ขึ้นออโต้เซฟครับ กล่าวคือถ้าหลังจากนั้นเราไปเล่นพลาดจนตาย จะโหลดเซฟได้ในช่วงที่ยังไม่ได้ขายของอัปสกิล กลายเป็นว่าผู้เล่นต้องทำทุกอย่างที่กล่าวมาใหม่หมด และถ้าตายอีกก็ต้องทำใหม่อีก จนกว่าจะไปถึงเช็คพอยต์ถัดไปที่ขึ้นออโต้เซฟอีกรอบ เป็นปัญหาที่ไร้สาระและชวนหงุดหงิดโดยใช่เหตุ
เป็นเกมที่ดีแต่ยังไม่สุด
พูดได้ว่า The Callisto Protocol เป็นเกมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและพยายามนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ด้วยระบบการต่อสู้ระยะประชิดที่ทำได้น่าประทับใจ ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดและหนักหน่วงกว่า และเป็นส่วนที่น่าชื่นชมมากที่สุดในเกม รวมถึงงานภาพ กราฟิก และซาวด์ประกอบที่น่าอัศจรรย์เข้ากับเรื่องราวที่ลึกลับน่าติดตามได้ดี น่าเสียดายที่ระบบหลายอย่างดูอืดอาดและบังคับให้ผู้เล่นต้องเดินเก็บของซ้ำซากจนน่าหงุดหงิด ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์เกมสยองขวัญหน้าใหม่ที่น่าสนใจ ได้แต่ภาวนาว่าจะมีแพตช์แก้บั๊กปัญหาเชิงเทคนิคออกมา และได้รับความนิยมมากพอที่จะมีภาคต่อครับ (แม้ว่ามันจะยากก็ตามที)
จุดเด่น
- กราฟิกสวยจัด โมชั่นแคปเจอร์เนียนกริ๊บ รายละเอียด เท็กซ์เจอร์ของตัวละคร ฉากแวดล้อม และศัตรูดูเนี้ยบ ชวนสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในกระบวนการพัฒนาส่วนนี้
- ซาวด์ประกอบชวนเขย่าโสตประสาท สร้างฟีลความหลอนได้ถึงขั้น
- เมนู อินเตอร์เฟซ และ HUD ออกแบบมาดี ใช้งานง่าย เป็นมิตรกับผู้เล่น
จุดด้อย
- การเปลี่ยนอาวุธ การใช้ยา เข้าขั้นชักช้ายืดยาด ทำให้ชีวิตดูยากลำบากแบบไม่จำเป็นเลย
- ระบบเช็คพอยต์ในเกมไม่มีความสมเหตุสมผล
- ตัวเกมแทบไม่มีทางเลือกให้กับผู้เล่นในยามที่ต้องรับมือฝูงศัตรูที่พุ่งเข้ามาหาเป็นจำนวนมาก ๆ
- กลวิธีการเล่าเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อ และพล็อตดูซ้ำซากจำเจ
- เกมเพลย์ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของระบบ หรือโชว์ไอเดียใหม่ ๆ ให้เห็นเท่าไหร่
คะแนน 6
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net