ที่จริงการรีวิว FIFA 23 นั้นผมมีความเห็นเหมือนกับหลายๆ คนที่รู้สึกว่าถ้าได้ขุดเอารีวิวภาคก่อนหน้ามาปล่อยเลยมันก็คงไม่น่าตะขิดตะขวงนัก เพราะความเปลี่ยนแปลงมันมีอยู่น้อยมากๆ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า Core เกมเพลย์ของมันนั้นดีเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรเยอะ แค่อัปเดตนักเตะและเปลี่ยนชื่อภาคก็ยังการันตีว่าฟันยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ
FIFA นั้นจัดเป็นเซฟโซนของ EA มาหลายภาค ไม่ว่าปีนั้นเกมอื่นๆ จะยอดขายทุเรศทุรังขนาดไหน พวกเขายังเชื่อใจได้ว่า FIFA จะทำให้ผลประกอบการบริษัทไม่ติดตัวแดง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจังเป็นเกมรายปี และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมันมากนัก “เพราะของมันขายได้จะเปลี่ยนทำไม?” กับ FIFA 23 เองก็เช่นกัน ถึงจะเป็นภาคทิ้งทวน และมีคำโปรยว่ามันจะเป็นภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความเปลี่ยนแปลงมันก็ยังคงไม่มากนัก แต่บางทีก็อาจพอเข้าใจได้ เพราะปีหน้าจะเป็นวามเสี่ยงขั้นสุด ปีนี้โกยได้ก็โกยไปก่อน เพราะอย่างไรเสียเกมเพลย์หลักๆ ของมันก็ยังคงสนุกอยู่ดี
แต่แม้จะมีเปลี่ยนมีปรับปรุงไม่มาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย โดยภาคนี้ได้มีการอัปเกรดฟีเจอร์ Hypermotion ขึ้นมาเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ และการเคลื่อนที่ของลูกบอลมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แต่พอเป็นแบบนั้นก็สัมผัสได้ว่าเกมมีเทมโปที่ช้าลงกว่าภาคก่อนระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
สิ่งที่ถูกเติมเข้ามาและส่วนตัวคิดว่าทำให้ความสนุกของเกมเพิ่มมากขึ้น (โดยเฉพาะเวลาเล่นกับเพื่อน) ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Power Shot โดยมันคือการยิงประตูแบบทรงพลังลักษณะคือก้มหน้าก้มตายิง คือแรงก็จริงแต่ต้องคุมทิศทางและน้ำหนักดีๆ มีโอกาสเป็นประตูสูง แต่ก็ใช่ว่าการกดยิงลูกแบบนี้จะถือว่าโกงเสียทีเดียว เพราะนักเตะจะใช้เวลาง้างนานกว่าปกติ ถ้าโม่โล่งจริงๆ ยังไงอีกฝ่ายก็สกัดได้ก่อนแน่นอน
เวลาเล่นกับเพื่อนแล้วกดยิงลูกแบบนี้ก็คืออย่างฮา วืดบ้าง ข้ามคานบ้าง ออกข้างบ้าง ทำให้เรารู้สึกได้ว่ากำลังเล่นสนุกอยู่ และไม่ตึงจนเกินไปนัก ช่วยปรับอารมณ์ได้อย่างดี นอกจากนี้พวกลูกเซ็ตพีซยังมีการเปลี่ยนวิธีเตะ (อีกแล้ว) อย่างฟรีคิกที่อาจจะต้องทำความเข้าใจพักใหญ่ๆ เลย ส่วนจุดโทษก็ปรับใหม่เช่นกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วเป็นไปในทางที่ดี โดยเฉพาะจุดโทษที่ยังคงมีลูกเล่นตอนกดอยู่ ทว่าก็เป็นมิตรกว่าการยิงแบบเดิมมากๆ
ในภาค 23 นี้สุดยอดโหมดปั่นเงินให้ EA อย่าง FUT ยังกลับมาเช่นเคย ภาพรวมอาจไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีสิ่งน่าสนใจถูกเติมเข้ามาเช่นระบบเคมีความเข้ากันของตัวผู้เล่น ที่ทำให้การจัดทีมเพิ่มมิติมากขึ้น (และอาจบังคับให้เปิดแพคเยอะขึ้นไปในตัว) นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดย่อยน่าสนใจเพิ่มเข้ามาให้ได้เล่นกัน เช่น Rise of Mbappe ที่เราจะได้เล่นพ่อหนุ่มคนนี้ตั้งแต่ยังเป็นนักเตะตัวกระจ้อยสู่การเป็นทั่นประธานกันเลยทีเดียว (หยอกๆ)
อย่างไรก็ตามตัวเกม FIFA 23 ยังมีความแตกต่างกันในแต่ละเวอร์ชั่น เช่นของ PS5 จะมีฟีเจอร์เฉพาะสำหรับคอนโทรลเลอร์ที่ช่วยเพิ่มความอินระหว่างเล่น ขณะที่ในเวอร์ชั่น PC ก็ไม่ได้เป็นลูกเมียน้อยแล้วมีฟีเจอร์หลักๆ เหมือนกับเวอร์ชั่นคอนโซลเน็กซ์เจนทุกๆ อย่าง ส่วน Switch จะยังเป็น Legacy Edition เหมือนเดิม ซึ่งถ้าจะเล่นกันจริงๆ ยังไงก็แนะนำเวอร์ชั่น PC กับคอนโซลเน็กซ์เจนที่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ครบถ้วนกว่าครับ
โดยรวมแล้ว FIFA 23 มันก็คือเกมเดิมที่เติมของเติมฟีเจอร์เข้ามาเล็กน้อย พร้อมกับอัปเดตเนื้อหาให้มันทันโลกมากขึ้น เป็นภาคสุดท้ายที่ยังคงเพลย์เซฟจนอาจจะน่าเสียดายไปสักหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ อย่างไรเสียในยุคที่เกมฟุตบอลมีให้เลือกไม่มากนัก FIFA 23 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ อยู่ดี เพราะอย่างน้อยของเดิมๆ ที่เขาเพลย์เซฟไว้มันก็ยังสนุกอยู่ดีนั่นแหละ
FIFA 23 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Xbox Series X/S, PlayStation 5/4, Xbox One, Nintendo Switch, Google Stadia, Microsoft Windows
VERDICT
7/10
ซื้อเกมเวอร์ชั่น PC
