รีวิวเกม Xenoblade Chronicles 3 – ผจญภัยบนโลกกว้างกับอีกหนึ่งสุดยอด JRPG

Xenoblade Chronicles นั้นเป็นหนึ่งในซีรีส์เกม RPG ที่โดดเด่นสำหรับแพลตฟอร์มฝั่ง Nintendo อันมีจุดเด่นอยู่ตรงระบบต่อสู้ที่เน้นบทบาทของแต่ละคลาส โดยฝ่ายตัวเอกของแต่ละภาคจะมีความสามารถพิเศษต่างกัน สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นเกมภาค1 หรือ 2 มาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เข้าใจเนื้อเรื่องหรือจับต้นชนปลายไม่ถูกครับ เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นโลกเดียวกันแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ผ่านมายาวนานแล้ว และต่อให้ในเกมมี Easter Egg และตัวละครที่ชวนให้คิดถึงโผล่มาด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมากนักถ้าผู้เล่นไม่ได้รู้จักพวกเขามาก่อน ส่วนคนที่เพิ่งมาเล่นภาค 3 นี้เป็นภาคแรกก็ถือว่ามีเรื่องราวมากมายให้ผู้เล่นได้ค้นหาและเพลิดเพลินไปในตัวของมันเองอย่างพอเพียงแล้ว

แพลตฟอร์ม: Nintendo Switch
ผู้พัฒนา: Monolith Soft
แนวเกม: Action-RPG
วันวางจำหน่าย: 29 กรกฎาคม 2022

สำหรับเนื้อเรื่องของภาค 3 นี้จะกล่าวถึงโลกของ Aionios ที่ทุกสิ่งกำลังจะถูกทำลายจากผลพวงของมหาสงครามล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างสองชนชาติ ได้แก่ Keves และ Agnus สาเหตุก็คือชีวิตของเหล่าทหารทั้งสองฝ่ายต่างถูกควบคุมด้วยนาฬิกาชีวิตที่เรียกว่า Flame Clock อันมีผลให้ชีวิตของทุกคนถูกจำกัดสั้นลง และหนทางที่จะยืดชีวิตต่อไปได้คือต้องกำจัดทหารของอีกฝ่ายเพื่อต่อเวลาชีวิตของตนเองให้ยืนยาวขึ้น กลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็รบราฆ่าฟันกันโดยไม่สนใจว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ อะไรคือความหมายในการมีชีวิตของพวกเขา หน่วยทหารของตัวละครหลักอย่าง Noah และ Mio ที่ต้องห้ำหั่นกันนั้น ก็พลันได้พบกับเหตุการณ์ที่จะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของโลกนี้โดยบังเอิญ

คนที่เคยเล่นภาคเก่ามาแล้วรู้สึกว่าทำไมภาคนี้เล่นลำบากเหลือเกินแผนที่ก็กว้าง ต้องอธิบายว่าตัวเกมถูกปรับให้เล่นได้ง่ายขึ้นมาก ไม่เพียงแค่สามารถปรับระดับความยากของศัตรูขึ้น-ลงได้ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ในด้านระบบการเล่นก็คอยช่วยเหลือผู้เล่นเป็นอย่างดี เช่นระบบออโต้ที่ตัวละครหลักจะต่อสู้ให้เอง ทำให้เราไม่ต้องบังคับเลยก็เอาชนะศัตรูตามทางได้ รวมถึงระบบเนวิเกเตอร์ที่จะนำทางผู้เล่นไปยังเป้าหมายของเควสต์, จุดเซฟ หรือจุดวาร์ปได้ ส่วนทางด้านระบบการต่อสู้นั้นค่อนข้างจะมีรายละเอียดเยอะไม่แพ้กัน แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการโดยรวมอย่างถ่องแท้มันก็เพียงพอแล้วที่จะเล่นให้ผ่านได้

เอาเข้าจริง ๆ รู้สึกว่าการดำเนินเรื่องอาจจะดูแปลก ๆ ไปสักหน่อย บางช่วงก็รวบรัดตัดบทกันดื้อ ๆ ไปเลย เกมเริ่มมาโดยการที่เราเป็นทหารมีหน้าที่ต้องกำจัดศัตรูเพื่อต่อชีวิตของตัวเองเพราะถูกควบคุมอายุขัยด้วย Flame Clock แต่หลักจากนั้นไม่นาน ชนิดที่เรียกว่าเรายังศึกษาระบบต่อสู้ของเกมได้ไม่เคลียร์เลย พวกเราก็แก้ปัญหาได้แล้วและก็จะไม่ได้เห็นนาฬิกาโชว์บนจออีกเลยตลอดเกม ซึ่งตอนนั้นผู้เล่นยังไม่ทันได้ซึมซับเลยว่าไอ้นาฬิกาชีวิตเนี่ยมันทำให้เหล่าตัวเอกต้องทุกข์ทรมานสักแค่ไหน (นี่ยังไม่นับว่ามีตัวละครอีกหลายตัวที่เหมือนจะมีบทบาทสำคัญแต่เรื่องราวของพวกเขากลับจบลงอย่างรวดเร็วราวกับเป็นตัวประกอบที่เราไม่ต้องรับรู้ถึงตัวตนและบทบาทของพวกเขาด้วยนะครับ)

ตัวละครหลักของเกมจะมีทั้งหมด 6 คนด้วยกัน ซึ่งเราจะได้พวกเขามาเข้าทีมกันครบหลังจากเริ่มเกมได้ไม่นานนัก แต่นอกจากตัวละครทั้ง 6 แล้ว ยังมีตัวละครฮีโร่อีกเกือบยี่สิบคนที่เราจะเลือกหนึ่งคนในจำนวนนั้นมาร่วมปาร์ตี้เพื่อช่วยสู้ได้ ทว่าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพหรือบังคับพวกเขาได้แบบตัวละครหลัก แต่ถึงกระนั้นพวกตัวละครฮีโร่ก็จะต่อสู้ได้เองอย่างชาญฉลาด และยังมีความสามารถพิเศษที่ตัวละครหลักไม่มีด้วย

โดยทั่วไปตัวละครฮีโร่จะเข้ามาร่วมทีมเรากันได้ค่อนข้างง่าย หลายคนจะได้จากเควสต์บังคับตามเนื้อเรื่อง และอีกส่วนหนึ่งก็จะได้มาจากการค้นหาเควสต์ย่อยตามเมืองหรือแผนที่ แต่ก็จะมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเป็นเพื่อนด้วยยากหน่อยเพราะต้องทำเควสต์ย่อยหลายเควสต์ และทางด้านตัวละครหลักของเกมและตัวละครฮีโร่แต่ละคนจะมีคลาสอาชีพประจำตัวมาให้ด้วย ในตอนที่ได้ฮีโรใหม่เข้าเป็นพวกคนหนึ่ง เราก็จะได้คลาสอาชีพเพิ่มขึ้นด้วยอีกหนึ่งคลาสเช่นกัน ดังนั้นระบบการเปลี่ยนคลาสของเกมนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก

ขณะเดียวกัน ระบบการต่อสู้เราจะได้บังคับตัวละคร 1 คน ส่วนตัวละครหลักอีก 5 คนจะเป็น AI ทำหน้าที่ให้ และยังสามารถเลือกตัวละครฮีโร่อีกหนึ่งคนมาช่วยได้ (แต่เราจะบังคับตัวละครฮีโร่ไม่ได้นะครับ) รวมแล้วก็จะมีตัวละครทั้งหมดในปาร์ตี้ 7 คนด้วยกัน ด้านตัวละครที่เราบังคับนั้น ปกติถ้าอยู่ในระยะโจมตีก็จะทำการโจมตีธรรมดาแบบออโต้ไปเรื่อย ๆ แต่ที่ผู้่เล่นต้องทำคือเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเอง และกดใช้ Art ที่เป็นท่าพิเศษ และ Talent Art ที่เหมือนท่าไม้ตาย นอกจากนั้นก็กดสั่งเปิด Chain Attack ที่เป็นท่าโจมตีคอมโบต่อเนื่องของทุกตัวละคร โดยเป้าหมายหลักคือให้เราทำค่า TP จากการเชนให้ได้สูงกว่า 100% เพื่อใช้งาน Chain Orders แล้ววนทำคอมโบต่อจนกว่าจะใช้ตัวละครจนครบ

เกมจะแบ่งหน้าที่ในการต่อสู้ของแต่ละคลาสคล้ายกับเกมออนไลน์แนว MMORPG โดยคลาสจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ Attacker ที่คอยทำหน้าที่โจมตี ถัดมาคือ Tank มีหน้าที่ล่อเป้าและรับการโจมตีแทนเพื่อน ปิดท้ายด้วย Healer ที่มีหน้าที่รักษาและซัพพอร์ตคนในทีม และเป็นสายเดียวที่ชุบชีวิตเพื่อนได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น คลาสที่มีบทบาทซ้ำกันก็จะมีความแตกต่างเฉพาะตัวอยู่ อย่างน้อยเราควรจะเลือกให้มีครบทั้ง 3 สายเพราะจะสามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ในการเล่นนั้นเราต้องใช้ตัวที่เราบังคับทำหน้าที่ตามโรลของตัวเองให้ถูก ขณะเดียวกันก็ต้องดูระดับการใช้ Art ทำคอมโบด้วยว่าเป็นท่าเปิด ท่าตาม หรือท่าปิด ส่วนพวกเพื่อนที่เป็น AI ก็จะทำหน้าที่ได้อย่างดีอยู่แล้ว เพียงแค่อาจจะไม่ฉลาดหรือมีทักษะแพรวพราวเท่าคนจริง เช่น Tank กับ Healer แทนที่จะยืนห่าง ๆ กันหน่อย บางทีก็ไปยืนเบียดกันเองแทน ทำให้บ่อยครั้งมักจะโดนโจมตีหมู่ไปด้วย เป็นต้น

จุดตั้งแคมป์หรือจุดพักในเมืองมีความสำคัญมากขึ้นในภาคนี้ แม้ว่าเหล่าตัวละครของเราจะฟื้นพลังเองหลังจบการต่อสู้ ทำให้ไม่ต้องนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นพลังแล้วก็ตาม แต่จุดตั้งแคมป์จะมีการเพิ่มหน้าที่ด้านอื่นแทน เช่น การทำอาหารเพื่อเพิ่มบัฟให้ทีมชั่วคราว หรือการฝึกซ้อมที่จะนำเอาค่า EXP ที่สะสมไว้มาอัพเลเวลตัวละครเพิ่ม และที่สำคัญที่สุดคือการสนทนา ซึ่งเมื่อเราได้คุยกับผู้คนหรือไปยืนแอบฟังคนคุยกัน ก็จะได้รู้หัวข้อสนทนาใหม่ ๆ และนำหัวข้อเหล่านั้นไปสนทนากันในตอนพักในแคมป์ได้เช่นกัน ในบางหัวข้อก็จะเป็นการเปิดเป้าหมายใหม่ ๆ เควสต์ใหม่ ๆ ซึ่งบางเควสต์ก็ต้องไปฟังเรื่องราวมาจากหลายคนจึงจะมารวมผลสรุปเพื่อเปิดเควสต์ได้ อีกทั้งฉากที่ตัวละครผลัดกันแสดงความเห็นในแคมป์ก็ดูมีสีสันดีด้วย

Xenoblade Chronicles 3 มีกราฟิกที่อาจจะยังไม่โดดเด่นมากนักแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสำหรับ Nintendo Switch นอกจากนี้การดีไซน์ฉากสถานที่และตัวละครนั้นทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะการแสดงสีหน้าท่าทางของตัวละครซึ่งจะยิ่งดูโดดเด่นขึ้นในช่วงคัตซีน สำหรับระบบเสียงของเกมนั้นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะดนตรีประกอบฉากหรือซาวด์ประกอบต่างก็ทำออกมาได้ไพเราะและเข้ากับสถาณการณ์อย่างลงตัว

รวม ๆ แล้วถือเป็นหนึ่งใน RPG ที่ดีที่สุดบนเครื่อง Nintendo Switch เกมอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยปริมาณที่มากมายของเควสต์และการตามล่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งบนโลกกว้างที่ทำให้ใช้เวลาเล่นได้รอบละกว่า 100 ชั่วโมง ถ้าใครมีความรักชอบเกม RPG ในแนวอนิเมะญี่ปุ่นและหลงใหลแนวเกมผจญภัยสำรวจโลกกว้างแล้วล่ะก็ ควรดีใจได้เลยครับที่มีเกมอันล้ำค่านี้ลงให้กับ Nintendo Switch

จุดเด่น

  • ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ในเกมที่ทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น เป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่ของซีรีส์ค่อนข้างมาก
  • ระบบเพื่อนและคลาสอาชีพทำออกมาได้ลงตัว ตัวเกมมีบาลานซ์อยู่ในเกณฑ์ดี
  • เควสต์ที่หลากหลายและการผจญภัยในโลกกว้าง หลายองค์ประกอบล้วนทำมาได้กลมกล่อม
  • ระบบการต่อสู้ที่มีเทคนิคมากมายให้ผู้นำสามารถนำไปปรับใช้หรือประยุกต์ได้หลากหลาย

จุดด้อย

  • เนื้อเรื่องดูจะรวบรัดตัดบทไปหน่อย ทำให้บางช่วงรู้สึกห้วนเกินไป
  • บอสเนื้อเรื่องที่แต่ละตัวดีไซน์ออกมาดูคล้ายกัน ชวนจำเจอยู่บ้าง

คะแนน 9


ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้