ลาจริง! Ubisoft ปิดให้บริการออนไลน์ เนื้อหาเสริม Assassin's Creed ก็หายไปด้วย

แชร์เรื่องนี้:
ลาจริง! Ubisoft ปิดให้บริการออนไลน์ เนื้อหาเสริม Assassin's Creed ก็หายไปด้วย

วันก่อนเราได้รายงานไปว่าทาง Ubisoft นั้นกำลังจะปิดให้บริการออนไลน์ของเกมในเครือทั้งหมด 15 เกม ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถเล่นโหมดมัลติเพลเยอร์และใช้ฟังก์ชันที่ต้องมีการเชื่อมต่อออนไลน์ได้ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเกมในภาพรวม

The Lost Archive ของ Assassin's Creed: Revelations เป็นหนึ่งในเนื้อหาเสริมที่อาจจะเล่นไม่ได้อีกต่อไป

แต่วันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่านอกเหนือจากนั้นแล้ว ผู้เล่นจะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาเสริมหรือ DLC ที่เคยซื้อหรือแถมมากับเกมได้ แม้จะเป็นเนื้อหาสำหรับโหมดผู้เล่นคนเดียวก็ตาม เนื่องจากเนื้อหาเสริมดังกล่าวนั้นจะผูกกับบัญชี Ubisoft นั่นเอง ยกเว้นว่าเนื้อหาเสริมเหล่านั้นจะฝังและมากับเกมอยู่แล้ว ไม่ได้แยกต่างหากหรือต้องเชื่อมต่อกับบัญชีเพิ่มเติม

ทั้งนี้เวอร์ชัน Remaster ของเกมนั้นจะยังไม่ได้รับผลกระทบ และสามารถเล่นได้ตามปกติครับ

บทเสริม The Tyranny of King Washington ของ Assassin's Creed 3 ที่อาจไม่ได้เล่นอีกต่อไป ถ้าไม่มีเวอร์ชันรีมาสเตอร์

เกมที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ครับ

  • Anno 2070 (2011): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์
  • Assassin's Creed 2 (2009): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์
  • Assassin's Creed 3 (2012): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC (เวอร์ชันรีมาสเตอร์ไม่ได้รับผลกระทบ)
  • Assassin's Creed Brotherhood (2010): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC
  • Assassin's Creed Liberation HD (2014): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC
  • Driver San Francisco (2011): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC
  • Far Cry 3 (2012): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC (เวอร์ชันรีมาสเตอร์ไม่ได้รับผลกระทบ)
  • Prince of Persia: The Forgotten Sands (2010): ระบบ Co-Op ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC
  • Silent Hunter 5 (2010): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาเสริมและ DLC
  • Space Junkies (2019): เนื่องจากเป็นเกมมัลติเพลเยอร์ จึงถือว่าปิดให้บริการทั้งเกมไปเลย
  • Splinter Cell: Blacklist (2013): ระบบมัลติเพลเยอร์ การเชื่อมต่อบัญชี ฟีเจอร์ออนไลน์

การปิดให้บริการออนไลน์และระบบมัลติเพลเยอร์นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะการให้บริการนั้นมีค่าใช้จ่าย ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อาจไม่คุ้มทุนที่จะให้บริการต่อไป แต่การตัดการเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ และเนื้อหาเสริมสำหรับโหมดผู้เล่นคนเดียวที่ผู้เล่นซื้อไปนั้นนับว่าเป็นประเด็นที่น่ากังวลอยู่ เพราะเท่ากับเป็นการหักหลังความไว้วางใจของผู้ซื้อพอสมควร และทำให้เนื้อหาที่เติมเต็มเกมให้มีความสมบูรณ์ขาดหายไปตลอดกาลอย่างน่าเสียดาย


นอกจากนี้หลายเกมที่กล่าวมาข้างต้นนั้นยังมีการขายเนื้อหาเสริมตามปกติ แม้แต่ Space Junkies ที่จะปิดให้บริการไปเลย ก็ยังวางขายลดราคา 75% อยู่ตามปกติโดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใดว่าจะปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากซื้อไปโดยไม่ทราบแล้วถึงกำหนด ก็จะทำให้เสียสิทธิ์การเล่นไปเปล่า ๆ

เช็คเกมให้ดีว่าอยู่ในรายชื่อไหมก่อนหน้ามืดกดซื้อนะครับ

ทำให้ขณะนี้เกิดปรากฎการณ์ Review Bombing ในหน้าร้านบน Steam ของเกมต่างเหล่านี้ เช่นเกม Anno 2070 ซึ่งมีรีวิวแง่ลบต่าง ๆ โผล่ขึ้นมามากมาย เตือนว่าเกมกำลังจะโดนลอยแพและจะไม่สามารถเล่น DLC ที่ซื้อไปได้ ดังนั้นขอให้เพื่อน ๆ ที่ใช้วิจารณญาณก่อนที่จะซื้อเกมที่มี DLC เยอะ ๆ เหล่านี้ให้ดีครับ ว่าเล่นทันไหมและคุ้มค่ารึเปล่า ไม่งั้นอาจจะเสียเงินไปเปล่า ๆ ได้ครับ

ทัวร์ลงไม่ใช่น้อย ๆ

สำหรับเพื่อน ๆ ผู้ที่รักชอบเกมเก่า ๆ อยากสัมผัสเนื้อหาเกมเหล่านี้อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีเวอร์ชันรีมาสเตอร์ หรือต้องการจะสำรองไฟล์เซฟจาก Cloud ก่อนที่จะโดนลบ ก็สามารถทำได้ก่อนวันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้ครับ หากมีความคืบหน้าใด ๆ หรือ Ubisoft มีการเปลี่ยนท่าทีให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาผู้เล่นคนเดียวได้หลังปิดให้บริการ ทางเราจะมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกทีครับ

ที่มา: PC Gamer, Rock Paper Shotgun

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

แชร์เรื่องนี้:
Shirosaki-han
About the Author

Shirosaki-han

นักเขียนอิสระผู้ชื่นชอบเกมและอนิเมะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ