แม้ว่าการในช่วงการเปิดตัวและวางจำหน่ายเกม Grand Theft Auto: The Trilogy – Definitive Edition หรือ GTA: Trilogy (รวมภาคเก่าๆ 3 เกมอย่าง Vice City, San Andreas และ III เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมปรับปรุงคุณภาพกราฟิกใหม่) จะไม่ค่อยน่าประทับใจนักเพราะตัวเกมเต็มไปด้วยบั๊กมากมายและเกมก็ไม่เสถียรเท่าที่ควร แต่กระนั้นจากรายงานล่าสุดพบว่าตัวเกมนั้นสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 10 ล้านชุดบนเครื่อง PS5 และ PS4 เลยทีเดียว
โดยข้อมูลนี้มาจากรายงานทางการเงินล่าสุดของทาง Take-Two ที่ได้ออกมาเผยว่า เกมในซีรีส์ Grand Theft Auto นั้นมียอดขายรวม 370 ล้านชุดทั่วโลกแล้ว โดย Grand Theft Auto V เกมเดียวนั้นสามารถทำยอดขายถึง 160 ล้านชุด ซึ่งโดยรวมแล้วยอดขายเกมในซีรีส์ Grand Theft Auto นั้นเพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านชุดจากที่ทาง Take-Two ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้ การรายงานตัวเลขยอดขายในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการวางจำหน่ายของ GTA: Trilogy ซึ่งคาดว่าตัวเกมจะขายได้ประมาณ 10 ล้านชุดซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ขายดีเกินคาด
โดยคุณ Strauss Zelnick ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Take-Two ได้ออกมากล่าวว่า ตัวเกมทำได้เกินความคาดหมายอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าตัวเกมจะมีปัญหาในช่วงเปิดตัว แต่ทีมงาน Rockstar สัญญาว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เรารู้สึกดีมาก ๆ ในเชิงยอดขาย แม้ว่าเราทุกคนจะผิดหวังเกี่ยวกับคุณภาพของตัวเกมในช่วงแรก และเรารู้สึกขอบคุณมากที่ปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไขแล้ว และมีงานที่เราต้องทำอีกมากในตอนนี้
Grand Theft Auto V ในเวอร์ชั่น PS5 มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนหน้า และเชื่อว่ามันจะสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน
ที่มา: pushsquare.com