รวมข้อมูลใหม่ของเกม Gran Turismo 7 จากผู้กำกับ มีอะไรเด็ด ๆ บ้างมาดูกัน!

แชร์เรื่องนี้:
รวมข้อมูลใหม่ของเกม Gran Turismo 7 จากผู้กำกับ มีอะไรเด็ด ๆ บ้างมาดูกัน!

เหลืออีกประมาณ 1 เดือนเต็มพอดีก็จะถึงวันวางจำหน่ายของเกม Gran Turismo 7 หรือ GT7 กันแล้วนะครับ ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเกมออกเช่นนี้ก็จะมีข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับตัวเกมมาให้แฟน ๆ ได้ชมกัน และทาง Online Station เองก็มีโอกาสได้เข้าร่วมฟังข้อมูลเหล่านี้จากคุณคาซึโนริ ยามาอุชิ ผู้กำกับที่ดูแลเกมตระกูลนี้มาตลอดทุกภาคกันแบบละเอียดถึงฟีเจอร์และระบบใหม่ที่ถูกนำมาใส่ในเกมภาคนี้

ซึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้างนั้น เราได้สรุปรวมมาให้เพื่อน ๆ ไว้หมดแล้ว ดังข้อมูลด้านล่างครับ


  • โครงสร้างเกมเพลย์ของ GT7 จะเป็นโลก Sandbox ที่รายล้อมไปด้วย 7 ระบบหลักที่คอยสนับสนุน ได้แก่ ระบบฟิสิกส์ของตัวรถยนต์, ระบบฟิสิกส์ที่มาจากการแสดงผลด้านกราฟิก, ระบบรีเพลย์, ระบบการปรับแต่งรถยนต์, ระบบจำลองการเปลี่ยนสภาพอากาศ เวลา และพื้นผิวถนน, ระบบแข่งขันแบบออนไลน์และการจัดหาห้องผ่านเซิร์ฟเวอร์ และระบบการสร้างและแชร์คอนเทนต์การเล่น
  • ในส่วนของการหาซื้อรถมาขับ ตัวเกมจะมีร้านค้า 3 แห่งให้เราเข้าไปใช้บริการ ประกอบไปด้วย Brand Central ที่จะคอยจำหน่ายบรรดารถมือหนึ่ง สมรรถนะเอี่ยมอ่องให้เลือกสรร ถัดมาคือ Used Car Dealer หรือเต๊นท์รถมือสองที่ผู้เล่นช่วงเริ่มต้นจำเป็นต้องแวะเวียนกันก่อน เพราะมีราคาสบายกระเป๋ากว่า และตบท้ายกับ Legendary Car Dealer ที่มีรถสไตล์คลาสสิกรวมถึงรถโบราณระดับตำนาน สำหรับคนที่มีฐานะการเงินมั่นคงแล้ว และอยากได้รถแปลกแหวกแนวมาขับให้ดูสมฐานะ แถมยังมีสนามประลองความเร็วสำหรับรถคลาสสิกจำพวกนี้ด้วย
  • ทางด้านสนามหรือเซอร์กิตจะใช้โลเคชั่นจากประเทศชั้นนำทั่วโลก โดยมีอีเวนต์หรือทัวร์นาเมนต์การแข่งมากกว่า 100 รายการ ซึ่งแต่ละสนามก็จะให้ประสบการณ์การขับที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ นอกจากการแข่งประลองความเร็วทั่วไปแล้ว ยังมีอีเวนต์ประเภท Time Trial ที่ให้ผู้เล่นฝึกทำเวลา หรือ Drift Trial ที่ผู้เล่นจะได้ฝึกเทคนิคการดริฟต์ แถมยังมีรายการที่ผู้เล่นสามารถกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ได้เอง ตลอดจนจุดนัดพบกับบรรดาผู้เล่นคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน
  • ตัวเกมจะมีโหมดการแสดงผลอยู่ 2 โหมดด้วยกัน โหมดแรกคือ Frame Rate ที่เน้นเฟรมเรตระหว่างแข่งหรือดูรีเพลย์ที่ระดับ 60 FPS กับอีกโหมดคือ Ray Tracing ซึ่งเน้นแสงเงาที่สวยสมจริง และเหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ได้แคร์เรื่องเฟรมเรตมากนัก โดย Ray Tracing จะเหมาะมากกับการใช้ Photo Mode หรือดูรีเพลย์ด้วยภาพระดับแจ่ม ๆ
  • ระบบเสียง 3D Audio ในเกมจะมีฟีเจอร์หลักที่เรียกว่า 3rd Order Ambisonics โดยมีการปล่อยเสียงออกมาจำนวน 16 ช่องทางที่สามารถระบุเสียงเอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นจากจุดต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงแสดงเสียงตกกระทบที่แตกต่างกันตามสภาวะพื้นผิว หรือตามรถที่ใช้ด้วย ซึ่งการจะได้รับประสบการณ์จากการเล่นเกมนี้ได้ในระดับสูงสุด แนะนำว่าควรจะต้องเล่นผ่านหูฟังที่รองรับกับระบบ 3D Audio ครับ เพราะจะให้ความรู้สึกเหมือนเราในฐานะคนขับที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้าภายในห้องโดยสารได้ใกล้เคียงที่สุด ทั้งเสียงจากรถยนต์ในระยะที่เรามองเห็น รวมถึงเสียงเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินอยู่เหนือสนามเพื่อคอยติดตามสถานะผู้นำและผู้ตามในการแข่งขัน หรือแม้แต่เสียงยางที่กำลังบดกับพื้นถนน
  • ฝั่งของดนตรีประกอบระหว่างแข่งขันจะมีการเปิดให้ฟังวนกันหลายแนว อาทิ เพลงคลาสสิก, เพลงแจ๊ซ, เพลงฮิปฮอป, เพลงอิเลคโทร และเพลงเลาจ์ ที่ผ่านการประพันธ์และเรียบเรียงโดยศิลปินกว่า 75 ชีวิต และมีเพลงให้ฟังกว่า 300 เพลงเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เกิดความสุนทรีแก่ผู้เล่นระหว่างขับเคี่ยวด้วยความเร็วไปพร้อม ๆ กัน
  • เกมจะใช้ระบบ Haptic Feedback หรือระบบสั่นที่เป็นฟังก์ชั่นหลักของจอย DualSense โดยความถี่ของการสั่นจะอยู่ระหว่าง 20-200 เฮิร์ตซ์ ซึ่งทั้งตอบสนองไว และความละเอียดในการสั่นก็สูงด้วย ขณะที่ลักษณะการสั่นก็จะแตกต่างกันตามรายละเอียดพื้นผิวของถนน รวมทั้งยังสามารถสั่นตามการลื่นของล้อหน้า เครื่องยนต์ และตัวถังรถได้หมด
  • มีการนำร้านกาแฟหรือ Cafe เข้ามาช่วยเหลือผู้เล่นหน้าใหม่ให้ได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับโลกของ GT อย่างละเอียด และช่วยให้สามารถซึบซับวัฒนธรรมของเหล่ารถยนต์ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาสักหน่อย แต่หากทำการศึกษาจนถ่องแท้แล้วจะทำให้ผู้เล่นสนุกไปกับโลกของเกมนี้ได้ง่ายขึ้นมาก ขณะเดียวกัน ร้านก็จะมีเล่มเมนูที่มีลิสต์ของรถบางรุ่นอยู่ในนั้น เมื่อผู้เล่นทำภารกิจของรถคันใดในเมนูสำเร็จ เจ้าของร้านก็จะมาเล่าบรรยายถึงแบ็คกราวด์และวัฒนธรรมของรถคันนั้นให้ฟังกันอย่างละเอียดด้วยครับ โดยภารกิจจะมีให้ทำมากกว่า 30 อย่างเลยทีเดียว
  • การปรับแต่งรถยนต์จะยังคงเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของเกมนี้เช่นเคย ซึ่งในหน้าการปรับแต่งจะมีแบ่งซีกด้านซ้าย-ขวาให้ผู้เล่นได้ชมกันอย่างละเอียด ฝั่งซ้ายจะเป็นข้อมูลด้านสมรรถนะต่าง ๆ และด้านขวาจะเป็นส่วนของการปรับแต่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถคันนั้น โดยการปรับแต่งค่าในฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นการปรับองศาของสปอยเลอร์ หรือการเปลี่ยนชนิดของยางล้อ ก็จะเกิดตัวเลขที่เปลี่ยนไปในมาตรวัดที่อยู่ตรงกลางของจอภาพด้วย ทุกอย่างที่ถูกปรับแต่งทางตัวเกมจะมีการคำนวณอย่างละเอียดจนออกมาเป็นค่าที่มีผลระหว่างการแข่งขันจริงทั้งสิ้น
  • ตัวเกมภาคนี้มีการนำ Photo Mode มาใช้ควบคู่กับระบบรีเพลย์ที่ละเอียดกว่าเดิม ผู้เล่นสามารถปรับแต่งภาพที่ถ่ายในรีเพลย์ได้อย่างมีอิสระ และมีลูกเล่นมากขึ้น รวมถึงเซฟโมเมนต์ความประทับใจตอนแข่งเก็บไว้ หรือแชร์ให้เพื่อน ๆ ดูได้ทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ อีกทั้งในส่วนของรีเพลย์ ผู้เล่นสามารถเซ็ตมุมกล้องได้หลากหลาย ตลอดจนเซ็ตเพลงให้บรรเลงตามจังหวะต่าง ๆ ในรีเพลย์ได้ตามใจชอบ และการดูรีเพลย์ชุดเดียวกัน ผู้เล่นก็ยังเลือกดูจากมุมกล้องอื่น ๆ ได้ทุกเมื่อด้วย
  • พิเศษสุดสำหรับคนที่ไม่อยากจะประลองความเร็ว ขอแค่ขับรถชมวิวเคล้าเสียงเพลง ภาคนี้ก็ได้เพิ่มโหมด Music Rally เข้ามาตอบโจทย์ผู้เล่นกลุ่มดังกล่าวแบบจัดเต็ม และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วฟังเพลงไปตลอดทาง โดยจุดมุ่งหมายของโหมดนี้ยังมีอีกอย่างคือผู้เล่นจะต้องขับรถและฟังเพลงไปจนจบ โดยเริ่มแรกท่วงทำนองและจังหวะของเพลงจะมาเต็มที่ พอขับไปตามทาง ดนตรีก็จะค่อย ๆ ลดจังหวะลง กระทั่งจังหวะบีตลดจนเหลือแค่ 0 เพลงก็จะหยุดและเกมโอเวอร์ตรงนั้น ผู้เล่นสามารถเพิ่มค่าบีตได้ด้วยการขับรถวิ่งเข้าเกตให้ทัน (นึกภาพว่าคล้ายเกมแนวขับรถประเภท Outrun หรือ Daytona USA ที่ใช้เวลามานับแทนจังหวะบีตนั่นแหละครับ)

เพื่อน ๆ สามารถพรีออเดอร์ตัวเกมเวอร์ชั่นดิจิทัลดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์ https://www.playstation.com/en-th/games/gran-turismo-7/


ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เหนื่อยจากเกมก็ลองหยุดพัก แต่ถ้าเหนื่อยจากรักก็จงหยุดเถอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ