รีวิวเกม Uncharted: Legacy of Thieves Collection (PS5) – ภาคเก่าเคล้าฟีเจอร์ใหม่

ในรอบปี 2022 นี้ ฝั่งของ PlayStation เองก็มีเกมเด็ด ๆ เตรียมลงแบบครอสแพลตฟอร์มคือ PS5 และ PS4 อยู่หลายเกมด้วยกัน ซึ่งเกมแรกของปีนี้ก็ได้แก่ Uncharted: Legacy of Thieves Collection ที่ทาง Sony เคยประกาศไปแล้วว่าจะลงควบทั้ง PS5 และ PC โดยตัวเกมที่ทีมงานนำมารีวิวนี้จะเป็นเวอร์ชั่น PS5 ที่ต้องขอขอบคุณทาง Sony Interactive Entertainment สาขาประเทศสิงคโปร์สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แนวเกม: แอ็กชั่น-ผจญภัย
ผู้พัฒนา: Naughty Dog
วันวางจำหน่าย: 28 มกราคม 2022 (PS5)
แพลตฟอร์ม: PS5, PC
(ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS5, ฝั่ง PC ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย)

Uncharted: Legacy of Thieves Collection ถือเป็นการนำเอาเกมภาค 4 และภาค The Lost Legacy ที่เป็นภาคสปินออฟที่เคยวางจำหน่ายบน PS4 เมื่อปี 2016 และ 2017 ตามลำดับ มามัดรวมแล้วขายเป็นเกมเดียว ซึ่งบนเวอร์ชั่นที่จำหน่ายบน PS5 นี้ก็มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาให้คุณภาพเกมดูดีขึ้นด้วย

ทางด้านเนื้อเรื่องของภาค 4 จะเป็นเรื่องราวของเนธาน เดรค ที่จำเป็นต้องออกเดินทางไปค้นหาขุมทรัพย์ของโจรสลัดแห่งศตวรรษที่ 17 นามว่า เฮนรี่ เอเวอรี่ พร้อมกับ แซม พี่ชายของเนธานที่พลัดพรากกันมานานถึง 15 ปี ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยวางมือจากวงการไปแล้วเพื่อใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติกับเอเลน่าผู้เป็นภรรยา

ขณะที่ภาค The Lost Legacy จะเป็นการเล่าถึง โคลอี้ สาวนักล่าสมบัติที่เคยแท็กทีมกับเนธานในภาค 2 และ 3 มาก่อน โดยภาคดังกล่าวนางก็ได้ไปยังอินเดียเพื่อตามหางาของพระพิฆเนศที่เป็นสมบัติล้ำค่าแห่งยุคโบราณ และไทม์ไลน์เหตุการณ์ในภาคนี้จะเกิดขึ้นหลังจากภาค 4 อยู่พอสมควร

ตรงนี้ก็ต้องบอกกันก่อนว่าใครที่ไม่เคยแตะสองภาคนี้มาเลย คุณควรจะเล่นภาค 4 ก่อนแล้วค่อยโยกไปเล่นภาค The Lost Legacy ครับ เพราะเนื้อเรื่องมันต่อกัน อีกทั้งยังมีตัวละครหลัก 1-2 คนในภาค 4 ที่โผล่มาแจมในภาค The Lost Legacy ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะงงกับที่มาที่ไปของตัวละครเหล่านี้ได้

เริ่มจากฟีเจอร์แรกที่ต้องพูดถึงก่อนเลยก็คือ ตัวเกมจะมีให้เลือกปรับโหมดระหว่าง Fidelity ที่เน้นกราฟิกให้แสดงผลได้ที่ระดับ 4K เสริมด้วยระบบภาพ HDR ตามทีวีหรือมอนิเตอร์ที่รองรับ แต่ล็อคเฟรมเรตไว้ที่ 30 FPS กับอีกโหมดคือ Performance ที่รันเฟรมเรตได้ที่ 60 FPS ผ่านสเกลภาพระดับ 1440p 

นอกจากนี้ก็ยังมีโหมด Performance+ ที่สามารถรันเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 FPS แต่ได้ภาพที่ระดับ 1080p แทน ในส่วนของโหมดนี้ก็ต้องเช็คสเปคของทีวีหรือมอนิเตอร์ที่ใช้อยู่ด้วยนะครับว่ารองรับเฟรมเรตระดับ 120 FPS ได้หรือไม่ เพราะถ้าทีวีหรือมอนิเตอร์ไม่สามารถรันได้ ในออปชั่นจะมีเพียงโหมด Fidelity กับ Performance ธรรมดาที่รันเฟรมเรต 60 FPS ให้เลือกเท่านั้น

โหมด Performance ที่เน้นเฟรมเรตระดับ 60 FPS / ใครจะเล่นโหมด Performance+ ที่เป็นเฟรมเรต 120 FPS ต้องมีทีวีหรือมอนิเตอร์ที่รองรับด้วย

ขณะเดียวกัน คนที่จะเล่นเกมในโหมด Fidelity ก็ต้องเช็คทีวีหรือมอนิเตอร์ด้วยเช่นกันครับว่ารองรับภาพระดับ 4K ได้หรือไม่ หากเป็นพวกทีวีรุ่นเก่า ๆ ที่แสดงผลแค่ระดับ Full HD หรือ HD Ready เวลาเล่นโหมด Fidelity เฟรมเรตจะตกน่าเกลียดชนิดที่รันไม่ถึง 30 FPS ด้วยซ้ำ เลยขอแนะนำว่าคนที่มีทีวีสเปคไม่ถึงให้เล่นแต่โหมด Performance จะดีที่สุดครับ

โหมด Fidelity ที่ล็อคเฟรมเรตระดับ 30 FPS แต่เน้นภาพไปที่ 4K HDR ซึ่งก็ต้องมีทีวีหรือมอนิเตอร์ที่รองรับ 4K HDR ด้วยเช่นกัน

เพื่อน ๆ คนไหนที่มีหูฟัง Pulse 3D Headset ที่วางขายพร้อมกับเครื่อง PS5 หรือหูฟังใดก็ตามที่รองรับระบบ 3D Audio หากนำมาเล่นกับเกมนี้จะได้ประสบการณ์เหนือระดับไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ต้องบู๊ระห่ำ หรือช่วงลอบเร้น ระบบเสียงสามมิติจะช่วยให้เราได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากทิศต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ แม้แต่ตอนลอบเร้นเราก็ยังได้ยินตำแหน่งเสียงฝีเท้าศัตรู เพื่อแอบไปจัดการมันได้ง่ายขึ้นด้วย

ถัดมาคือความเร็วในการโหลดเกมหรือเข้าเกม เนื่องด้วยภาค Legacy of Thieves ได้ถูกพัฒนามาเพื่อเล่นบนคอนโซลเน็กซ์เจนอย่าง PS5 อยู่แล้ว แถมยังได้อานิสงส์จาก SSD ของเครื่องด้วย ดังนั้นการเล่นตลอดทั้งเกมจึงแทบไม่รู้สึกถึงการโหลดเลย ทำให้อรรถรสระหว่างเล่นเลยต่อเนื่องและลื่นไหล ต่างจากยุค PS4 ที่รอโหลดตอนเข้าเกมนานเป็นนาทีแบบลิบลับ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยคือระบบ Haptic Feedback ของจอย DualSense ที่สามารถสั่นตามสิ่งที่ผู้เล่นกำลังประสบอยู่บนหน้าจอได้หลากหลาย เช่น ตอนที่ขับรถ ซึ่งจอยจะสั่นตามพื้นผิวที่รถวิ่งผ่าน รวมถึงตอนถูกยิงก็จะสั่นตามตำแหน่งที่ศัตรูยิงมาให้เรารับรู้ได้ง่าย ตลอดจนระบบ Adaptive Trigger ที่ปุ่ม L2 และ R2 จะสั่นตามชนิดของอาวุธที่เราใช้ เพื่อความสมจริงราวกับเราได้สวมบทบาทเป็นเนธาน เดรค หรือ โคลอี้ กันเลย

อย่างไรก็ตาม เห็นทางเราร่ายจุดเด่นของเกมมาเสียขนาดนี้ ใช่ว่าเกมจะเพอร์เฟคไปหมดทุกด้านครับ โดยบางช่วงของตัวเกม ทีมงานได้พบว่ามีปัญหาการโหลดเท็กซ์เจอร์หรือโมเดลตัวละครไม่ทันอยู่บ้าง แต่สิ่งที่โหลดไม่ทันเหล่านั้นจะเกิดขึ้นไม่นาน เต็มที่ก็เพียง 1 วินาทีแล้วโผล่แบบปุบปับเหมือนเสกมาดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น

ทีนี้ อีกข้อเสียที่น่าเสียดายมากก็คือตัวเกมไม่มีโหมดมัลติเพลเยอร์ให้เล่นครับ อารมณ์จะคล้าย ๆ ภาค The Nathan Drake Collection ที่มัดรวมภาค 1-3 ลงบน PS4 เมื่อปี 2015 ที่ตัดเอามัลติเพลเยอร์ของภาค 2 และ 3 ออกไปเหมือนกัน ซึ่งใครที่เป็นขาประจำของโหมดดังกล่าว หรือใครที่อยากจะลองสัมผัสว่าโหมดมัลติเพลเยอร์ของภาค 4 เป็นอย่างไรก็ต้องไปหาเวอร์ชั่นต้นฉบับบน PS4 เล่นสถานเดียวครับ (ในภาค The Lost Legacy ตัวต้นฉบับก็มีโหมดมัลติเพลเยอร์เช่นกัน แต่จะเป็นตัวเดียวกับมัลติเพลเยอร์ของภาค 4 และใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกัน)

หากให้สรุปแบบเบ็ดเสร็จเลย ทางทีมงาน Online Station ขอแนะนำตามนี้ว่า

  • ถ้าคุณไม่เคยเล่นทั้งสองภาคนี้จากที่ไหนมาก่อน ซื้อเลยครับ ซึ่งบน PS5 จะมีขายในราคาเพียง 1,690 บาท หรือตกภาคละ 845 บาทเท่านั้น ส่วนบน PC นั้น ณ วันที่เราทำการรีวิว ทาง Steam ยังไม่มีการประกาศราคาแต่อย่างใด
  • ถ้าคุณเคยเล่นทั้งสองภาคนี้จากบน PS4 มาแล้ว สิ่งที่คุณได้รับเพิ่มจะมีแค่ฟีเจอร์บางอย่างที่ปรับปรุงบน PS5 ครับ หลัก ๆ เลยก็คือเรื่องโหลดเร็วทันใจรวมทั้งโหมดเฟรมเรต 60 FPS กับโหมดภาพระดับ 4K HDR และมีโทรฟี่แยกจากเวอร์ชั่น PS4 ซึ่งโอนเซฟเพื่อรับถ้วยของเวอร์ชั่น PS5 ทันทีเลยก็ได้ แต่ข้อเสียคือไม่มีโหมดมัลติเพลเยอร์ให้เล่น ตรงนี้มีแว่ว ๆ ว่าหากคุณมีตัวเกมภาค 4 หรือภาค The Lost Legacy หรือมีทั้ง 2 ภาคบน PS4 ไม่ว่าจะเป็นแบบแผ่นหรือดิจิทัลดาวน์โหลด ทาง PlayStation Store จะเปิดโอกาสให้อัปเกรดเป็นภาค Legacy of Thieves Collection ได้ในอนาคตอันใกล้ ส่วนราคาอัปเกรดนั้นยังไม่ประกาศครับ

คะแนน 8


หากเพื่อน ๆ อ่านรีวิวแล้วสนใจตัวเกม สามารถพรีออเดอร์เกมเวอร์ชั่น PS5 ได้ที่ลิงค์ https://www.playstation.com/en-th/games/uncharted-legacy-of-thieves-collection/ ในราคาเพียง 1,690 บาท


ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้