ในรอบไม่กี่ปีหลังมานี้ วงการเกมทั้ง PC และคอนโซลได้เชื่อมถึงกันมากขึ้นด้วยคำว่าระบบ Cross-Play ที่ทำให้ผู้เล่นบนแพลตฟอร์มทั้ง Xbox, PlayStation, Switch และ PC สามารถมาเจอและเล่นร่วมกันได้ แต่ดูเหมือนล่าสุดเกมเมอร์จากฝั่ง Xbox จะไม่ค่อยปลื้มกันแล้วละครับ
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้มีประเด็นจากกลุ่มผู้เล่นบนแพลตฟอร์ม Xbox เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่เกมดังอย่าง Call of Duty: Warzone และ Halo Infinite ทำการบังคับผู้เล่นคอนโซลค่ายสีเขียวไปประกบแมตช์กับผู้เล่นบน PC เป็นประจำ ซึ่งผู้เล่นบน PC ที่พวกเขาเจอส่วนใหญ่มักจะชอบใช้โปรแกรมโกง ทำให้เล่นสู้กันแบบยุติธรรมไม่ได้เลย

และด้วยความที่เกม Call of Duty: Warzone เป็นเกมแบบ Free-to-Play จึงทำให้เหล่าแฮคเกอร์บน PC สามารถสร้างแอคเคาท์ขึ้นมาใหม่ได้ง่ายหลังโดนแบน แม้ว่าผู้เล่นบนคอนโซลทั้ง PlayStation และ Xbox จะสามารถเลือกปิดระบบครอสเพลย์ได้ก็จริง แต่เวลาเล่นบน Xbox ตัวเกมจะบังคับให้เปิดระบบครอสเพลย์ในภายหลังอยู่ดี (ขณะที่บน PlayStation จะยังเล่นต่อโดยปิดระบบครอสเพลย์ต่อไปได้ จึงไม่มีปัญหาอะไร)
ปัญหาจากผู้เล่นบนคอนโซลค่ายเขียวมีเรื้อรังมานานแรมปีแล้ว และต่อให้ทาง Activision เพิ่งจะนำระบบป้องกันโปรแกรมโกงเข้ามาใช้ก็ตาม แต่หลายคนก็มองว่าเกมได้ถูกผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกงทำลายความน่าเล่นไปเกือบหมดแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ค่ายเกมปิดระบบครอสเพลย์ไปเลยจะดีกว่า

ส่วนทางด้านระบบครอสเพลย์ในเกม Halo Infinite ก็ดูจะขัดกับนโยบายที่คุณ Phil Spencer ผู้บริหารของ Xbox เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปี 2016 อยู่พอสมควร โดยเจ้าตัวเคยพูดว่าเขาจะไม่มีวันบังคับให้ผู้เล่นเกมของ Microsoft ด้วยคีย์บอร์ดกับเมาส์ไปเจอกันกับคนที่เล่นด้วยอุปกรณ์บังคับแบบอื่นเด็ดขาด เนื่องจากเมาส์กับคีย์บอร์ดนั้นได้เปรียบในเกมชู้ตเตอร์มุมมองบุคคลที่ 1 กว่ามากนั่นเอง
ต้องรอดูกันไปครับว่าทาง Activision และ Microsoft จะหาทางแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พอจะพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งแล้วว่าการครอสแพลตฟอร์มก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน
ที่มา: The Verge
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net