ในครั้งนี้ทางทีมงาน Online Station ได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษทีมผู้พัฒนา Joojee’s Journey เกมแนวผจญภัยกราฟิกสุดน่ารักฝีมือคนไทย ในแง่มุมต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแรงบันดาลใจในการพัฒนาเกม เนื้อเรื่อง จุดเด่นที่น่าสนใจของตัวเกมและอื่นๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้พร้อมกันครับ
Q: รบกวนแนะนำชื่อและตำแหน่งหน่อยครับ
A: สวัสดีครับ ผม Jump นะครับ เป็น Game Director แล้วก็ Lead Designer ของเกม Joojee’s Journey นะครับ วันนี้ขอเป็นตัวแทนของทุก ๆ คนใน Quantum Peaks ที่ทำเกม Joojee’s Journey เพื่อตอบคำถามที่เกมเมอร์ชาวไทยอยากรู้ และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุก ๆ คนที่สนใจจะทำเกม หรือสนใจวงการเกมนะครับ
Q: อะไรคือแรงบันดาลใจในการพัฒนาเกม Joojee’s Journey
A: เนื่องจากเกมที่ผ่านมาของพวกเรา (Bloody Bunny ลง Nintendo Switch) ซึ่งเป็นแนว Action Hack and Slash พวกเราเลยอยากจะท้าทายตัวเองด้วยการฉีกแนวโดยสิ้นเชิงด้วยการเปลี่ยนมาทำเกมแนวที่น่ารักไม่มีพิษภัย สามารถเล่นได้สบาย ๆ แม้จะมีด่านที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเครียดหรือหัวร้อนซึ่งอาการหัวร้อนมักจะเป็นลักษณะเด่นของเกมแนว platformer อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้หลาย ๆ คนพลาดโอกาสในการสัมผัสเนื้อเรื่องและประสบการณ์ดี ๆ จากเกมเหล่านี้พวกเราอยากให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวที่น่ารักและอบอุ่นหัวใจมากกว่าที่จะต้องมาทุ่มเทเวลาให้กับอุปสรรคในเกมจนเหนื่อย เลยเป็นที่มาของเกม Joojee’s Journey ครับ Platformer + Adventure เกมที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายครับผม
Q: ตัวเกม Joojee’s Journey มีจุดเด่นตรงไหนบ้างครับ
A: ข้อแรกก็อย่างที่ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสมาแล้วจากวีดิโอตัวอย่างเกมของพวกเรา นั่นก็คือ งานภาพที่น่ารักสบายตา และแอนิเมชั่นดุ๊กดิ๊กน่ารักของเกมพวกเรา ที่เป็นแอนิเมชั่นวาดมือทั้งเกม ตอนแรกพวกเราก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งมีหลาย ๆ คนบอกว่า แค่ดูพวกตัวละครเคลื่อนไหวอยู่กับที่เค้าก็มีความสุขแล้ว
ข้อสอง ด้วยความที่เกมของพวกเราน่ารัก ไม่มีพิษมีภัย ไม่มีความรุนแรง เป็นเกมที่พ่อแม่ไว้วางใจที่จะซื้อให้ลูกเค้าเล่น ซึ่งพอเป็นแบบนี้เกมเมอร์หลาย ๆ คนอาจจะเมินเกมพวกเราไป โดยให้เหตผลว่า “ไม่อยากเล่นเกมเด็ก” แต่พวกเรามั่นใจว่า เนื้อหา และอุปสรรคต่าง ๆ ในเกมนั้นเข้าถึง และท้าทายมากพอสำหรับเกมเมอร์ที่โต ๆ แล้วเช่นกัน แต่ไม่ต้องกลัวว่า จะยากจนเล่นไม่จบนะครับ เพราะว่า พวกเราใส่ฟีเจอร์พิเศษลงไปที่จะช่วยให้ทุกคนผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ในเกมได้ ซึ่งพวกเราขออุบไว้ก่อนนะครับ อยากให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ครับ
Q: ช่วยเล่าเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของตัวเกม Joojee’s Journey
A: ลองนึกภาพดูนะครับ เราไปเจอคน ๆ นึง แล้วเค้าบอกว่า เค้าเป็นเพื่อนซี้เรา แต่เรากลับจำอะไรเกี่ยวกับเค้าไม่ได้เลย แต่เรามีหลักฐานคามืออยู่เป็นรูปภาพของคน ๆ นั้น แถมมีลายมือตัวเองเขียนกำกับว่า “เพื่อนของฉัน” อีก เราจะรู้สึกอย่างไร เราจะหาคำตอบนี้ได้อย่างไร โชคดีที่นี่เป็นเกม เพราะฉะนั้นเราเลยมีของวิเศษให้ นั่นก็คือ พู่กันวิเศษ ที่จะทำให้เราได้เข้าไปในความทรงจำของคน ๆ นั้นได้ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผู้เล่นแล้วครับ ว่าจะเดินทางกับจู้จี้ในเกม Joojee’s Journey เพื่อเอาความทรงจำกลับคืน และหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมดครับ
Q: อะไรคือความประทับใจในการพัฒนาเกม Joojee’s Journey และระยะเวลาในการพัฒนาเกมนี้ประมาณกี่ปีครับ
A: ความประทับใจในการพัฒนาเกม Joojee’s Journey คือ การที่เราได้เห็นศักยภาพของนักศึกษาแต่ละชั้นปีที่สามารถทั้งออกแบบและสร้างผลงานที่ใช้ได้จริง โดยต้องแบ่งเวลาจากการเข้าคลาส ทำการบ้าน ทำโปรเจ็คในแต่ละวิชา มาทำเกม Joojee’s Journey ทั้งที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน หรืออาจยังไม่ได้เรียนในหลักสูตรเนื่องจากหลายคนเริ่มต้นทำงานใน Joojee's Journey ตั้งแต่ปีหนึ่ง ซึ่งได้เรียนเพียงแค่แอนิเมชันพื้นฐาน และหากมีงานชิ้นไหนที่ติดขัด น้อง ๆ ในทีมทุกคนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือกันให้งานสำเร็จลุล่วงออกมาได้ เป็นภาพที่ประทับใจมาก ๆ ครับ และทั้งหมดนี้พวกเราใช้เวลาเพียงแค่ 20 เดือนครับ หลายคนอาจจะคิดว่า นานไป แต่สำหรับพวกเราอาจารย์ทั้ง 3 ท่านที่ต้องสอนไปด้วย ทำเกมไปด้วย และน้อง ๆ ในทีมที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย พวกเราค่อนข้างประทับใจกับตัวเลข 20 เดือนนี้ครับ
Q: Joojee’s Journey ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกมไหนบ้างครับ
A: ที่จริงเราไม่ได้ใช้เกมใดเกมหนึ่ง หรือหลายเกมเป็นแรงบันดาลใจเสียทีเดียว ในช่วงแรก ๆ นั้นพวกเราอยากทำเกม Metroivania ซึ่งตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ก็คือ Hollow Knight อีกทั้งยังมีภาพและแอนิเมชั่นที่น่ารัก สวยงาม แต่เรามีความตั้งใจที่จะทำให้จู้จี้เป้นเกมที่ไม่ต้องมีการตบตีทำร้ายกันด้วย พวกเรานึกภาพจู้จี้ใช้กำลังไม่ออกเลย เมื่อ Metroidvania ไม่เวิร์ค เราก็ไปดูตัวอย่างจากหลาย ๆ เกมเพื่อค้นหาวิธีนำเสนอเกมจู้จี้ให้ดีและเหมาะสมที่สุด เราศึกษาสุดยอดเกม Platformer อย่าง Celeste เพื่อการออกแบบด่านและเกมเพลย์ เราศึกษาเกมที่สวยงามอย่าง Gris เพื่อดูว่าแอนิเมชั่นสามารถให้อะไรกับเกมได้บ้างเพื่อให้ผู้เล่นได้ซึบซับอารมณ์และสนุกไปกับเกมให้มากที่สุด
Q: ทำไมถึงพัมนา Joojee’s Journey ลงบน Nintendo Switch และมีโอกาสมั้ยที่ตัวเกมจะวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่น เช่น PC หรือคอนโซล
A: เนื่องจาก Joojee’s Journey เป็นเกมเล่นคนเดียว เน้นเนื้อเรื่อง ซื้อครั้งเดียวจบ อีกทั้งยังมีภาพและตัวละครที่ดึงดูดเกมเมอร์สาว ๆ ได้เป็นพิเศษ ซึ่งดูจากตัวเลขแล้ว Nintendo Switch ก็เป็นเครื่องที่สาว ๆ น่าจะมีเยอะที่สุด บวกกับช่วง Covid ที่ผ่านมายอดขายของ Nintendo Switch เยอะมาก ๆ ทั่วโลกเลย เลยคิดว่า เครื่อง Nintendo Switch เหมาะกับเกม Joojee’s Journey ที่สุดครับ
ส่วนเรื่องจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นนั้นพวกเราขอให้เป็นเรื่องของอนาคตและโชคชะตา พวกเราอยากจะโฟกัสกับ Nintendo Switch ให้ดีที่สุดก่อนครับ
Q: ช่วยฝากผลงาน Joojee’s Journey ให้กับแฟนๆ Online Station หน่อยครับ
A: เกม Joojee’s Journey เป็น Project ที่อยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนให้ก้าวเข้ามาในวงการเกม เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลิตเกมไทยให้ไปโด่งดังในระดับโลก โดยในขั้นตอนแรก พวกเราได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าคุณจะยังเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว คุณก็สามารถทำเกมออกมาขายได้ ขั้นตอนต่อไป ก็คือ พวกเราจะแชร์ความรู้และประสบการณ์จากการทำเกมนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดให้กับคนรุ่นใหม่ ๆ ครับ อยากให้แฟน ๆ Online Station เป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคนที่ Quantum Peaks นะครับ
และสุดท้ายนี้ เกม Joojee’s Journey ตอนนี้จัดโปรโมชั่นช่วงพรีออเดอร์ 4 - 11 พฤศจิกายน นี้นะครับ ราคา 6.99 เหรียญ คิดเป็นเงินไทย 200 กว่าบาท จากราคาเต็ม 300 บาท ครับ ใครมีเครื่อง Nintendo Switch ก็อย่าลืมไปกดพรีออเดอร์กันนะครับ ถ้าเล่นแล้วประทับใจ ก็อย่าลืมบอกต่อเพื่อน ๆ กันนะครับ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเกมฝีมือคนไทยที่น่าสนใจมากๆ เอาเป็นว่าเพื่อนๆ สามารถติดตามรายละเอียดของตัวเกมเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ facebook.com/QuantumPeaks/