รวม 5 อันดับเกมหัวร้อนแห่งยุคที่เกมเมอร์ญี่ปุ่นพร้อมใจกันโหวต

เมื่อไม่นานมานี้ ทาง Inside ที่เป็นเว็บไซต์เกมของญี่ปุ่นได้ทำแบบสำรวจไปยังเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ในญี่ปุ่นจำนวน 848 คน ว่าด้วยหัวข้อเกี่ยวกับ 5 อันดับเกมในดวงใจที่เล่นแล้วชวนให้รู้สึกอยากปาจอยที่สุด และผลสำรวจที่ออกมาเป็นดังนี้ครับ

อันดับ 5 – Sekiro: Shadows Die Twice

ผลงานจากค่ายเดียวกับผู้พัฒนาเกม Dark Souls และ Bloodborne โดยความยากของเกมนี้นอกจากจะมีเรื่องศัตรูที่โหดและรวดเร็วแล้ว ระบบหลักของเกมยังเน้นให้ตัวละครของเขาคอยจับจังหวะเพื่อ Parry การโจมตีของศัตรูอีกด้วย ซึ่งคนที่ไม่ชำนาญกับอะไรแบบนี้ย่อมหัวร้อนกันได้ง่าย ๆ เลย

ตัวอย่างคอมเมนต์คนที่เลือก Sekiro

“ให้จับจอยเล่นเกมนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ยอมแพ้ตั้งแต่เจอมินิบอสตัวแรกละ”
“แม้แต่ศัตรูกลุ่มพื้นฐานยังต้องสู้ในสภาวะที่เกมทึกทักเอาว่าเรารู้วิธี Parry กันแล้ว เกมนี้มันเน้นให้เราจับจังหวะ Parry มากจนเกินไป”
“ฉันต้องสู้บอสตัวเดิมซ้ำไปซ้ำมา ตายวนเวียนจนป่านนี้ก็ยังเอาชนะมันไม่ได้เลย”

อันดับ 4 – Ghosts ‘n Goblins

เกมระดับตำนานที่คนไทยยุคก่อนจะเรียกติดปากด้วยชื่อเวอร์ชั่นญี่ปุ่นว่า “มาไคมูระ” ตัวเกมเป็นแนวแอ็กชั่นแพลตฟอร์มที่ความยากนั้นอยู่ตรงตัวเอกอย่างอาเธอร์ที่สามารถตายได้ทันทีหากโดนการโจมตีเพียงแค่ 2 ครั้ง นอกจากนั้นแอ็กชั่นต่าง ๆ ของอาเธอร์ อาทิ การกระโดดก็เป็นอุปสรรคต่อผู้เล่นเสียเองด้วย เพราะเกมนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางขณะอยู่กลางอากาศได้เลย ผู้เล่นจึงต้องมีการคำนวณและคาดคะเนก่อนทุกครั้งที่จะทำอะไรสักอย่าง

ตัวอย่างคอมเมนต์คนที่เลือก Ghosts ‘n Goblins

“ฉันไม่เคยปราบเจ้าเรดอาริเมอร์ (ปีศาจสีแดงที่ชอบบินโฉบเรา) ได้เลย”
“เรดอาริเมอร์มันเก่งเกินไปอะ”
“ลืมเรื่องความยากไปได้เลย บรรยากาศเกมนี้มันน่ากลัวจนแม้แต่ตอนนี้ฉันยังดองไว้ ไม่ได้หยิบมาเล่นสักที”

อันดับ 3 – Dark Souls

หนึ่งในซีรีส์ที่เกมเมอร์ต่างกล่าวขานว่ายากและโหดกับผู้เล่นชนิดที่ไม่ปราณีหรือผ่อนปรนใด ๆ เลย เหล่าเกมเมอร์จะทราบกันดีว่าการจะเอาดีกับเกมตระกูลนี้ได้นั้นจะต้องใช้ความพยายามและมุมานะระดับที่เหนือขีดจำกัดของมนุษย์ คือต้องมีการตายเพื่อเรียนรู้ และศึกษา พัฒนาตัวเองจนกระทั่งผ่านได้ในที่สุด จึงเป็นจุดวัดใจกันตั้งแต่หน้าเกมเลยว่าคุณจะอึดพอที่จะเข็นตัวเองไปจนเคลียร์เกมได้หรือไม่

ตัวอย่างคอมเมนต์คนที่เลือก Dark Souls

“ยากชิบเป๋ง พูดได้แค่นี้แหละ”
“เล่นเกมนี้แล้วมีแต่ตายเป็นเบือ เล่นอยู่ดี ๆ ก็ต้องมาเสียโซลที่เก็บมาทั้งหมดเพียงเพราะพลาดตายแบบโง่ ๆ แค่ทีเดียว ใจแทบจะแหลกสลายเสียให้ได้”

อันดับ 2 – Resident Evil (ภาคแรก)

แม้ว่าซีรีส์นี้จะดำเนินภาคหลักมาจนถึงภาค 8 แล้วก็ตาม แต่ความคลาสสิกของภาคแรกก็ยังเป็นอะไรที่แฟนเกมบางส่วนรู้สึกโหยหาอยู่ ทั้งจุดเด่นในเรื่อง Jump Scare และเหล่าศัตรูที่เป็นเอกลักษณ์ประจำภาคด้วยนั่นเอง

ตัวอย่างคอมเมนต์คนที่เลือก Resident Evil

“ภาคนี้มันน่ากลัวเกินไป นี่ก็เพิ่งผ่านฉากที่อีกาพังกระจกมาได้ แถมยังมีหมาซอมบี้รออยู่อีก โอ้ไม่นะ…”
“ฉันไม่กล้าลุยต่อเลยเวลาได้ยินเสียงครางของซอมบี้จากจุดอับของมุมกล้อง รู้สึกตัวเองด้อยค่าเหลือเกินเวลาผลาญกระสุนไปจนหมดแล้ว ฉันเคยเล่นแค่เวอร์ชั่นแรกบน PS1 เท่านั้น ว่าจะลองในเวอร์ชั่นรีเมคอีกที แต่ฉันไขปริศนาไม่ได้อะ”

อันดับ 1 – Undertale

มาถึงอันดับท็อปเสียทีกับเกม RPG จากค่ายอินดี้ที่ประเคนความปวดตับแก่ผู้เล่นสารพัด ไม่ว่าจะฉากกระสุนห่าฝนที่ศัตรูรัวใส่เรา หรือแม้แต่ภารกิจนานาชนิดที่เราอาจจะได้เพื่อนเพิ่ม หรืออาจจะได้ทำลายมิตรภาพจนขาดสะบั้นในพริบตาครับ

ตัวอย่างคอมเมนต์คนที่เลือก Undertale

“ฉันสู้กับบอสสุดท้ายเป็นจำนวน 300 รอบละ แต่ก็ไปตกม้าตายกับท่าโจมตีสุดท้ายของมันทุกที เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันถึงกับเลิกเล่นเกมนี้ไปประมาณ 3 สัปดาห์เลย สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับการเล่นใหม่แต่ละรอบ”
“ศัตรูในเกมนี้มันโหดเกินไป ฉันหมดกำลังใจที่จะเล่นเกมนี้ต่อไปแล้ว”
“ฉันหมดเวลาไปกับการสู้บอสใหญ่ถึงครึ่งปี จนป่านนี้ก็ยังปราบมันไม่ได้สักที”