พรีวิว Battlefield 2042 พัฒนาสู่สงครามขนาดยักษ์ พร้อมรองรับผู้เล่นถึง 128 คน

ออกมาให้ชมกันแล้วสำหรับ Trailer ล่าสุดของเกม Battlefield 2042 ซึ่งเป็นภาคใหม่หลังจากหยุดพักมาเป็นเวลาถึง 3 ปี ด้วยกัน และหลังจากที่แฟนเกมเรียกร้องกันมานานในที่สุดเราก็ได้กลับมาสู่ยุค Modern เป็นที่เรียบร้อย งานนี้ตัวเกมจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรบ้าง เรามาดูกันเลย

ตัวเกมภาคใหม่นี้จะเซ็ตเวลาอยู่ในปี 2042 ตามชื่อภาค เป็นช่วงเวลาที่โลกเกิดวิกฤตหลายอย่างทั้งเรื่องอาหาร, น้ำ และพลังงานต่างๆ ส่งผลให้เกิดผู้อพยพมากมาย และก่อให้เกิดกลุ่ม No-Patriated หรือ No-Pats ขึ้นมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมคนจากหลายอาชีพรวมไปถึงทหาร และจากเหตุการณ์วุ่นวายของโลกในครั้งนี้ ทางอเมริกาและรัสเซียก็ได้เปิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งทางฝั่ง No-Pats ก็ได้เข้าร่วมกับทั้งสองฝ่ายด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อชูธงให้ประเทศใด แต่สู้เพื่ออนาคตของกลุ่มพวกเขาเท่านั้น ซึ่งจากยุคของเกมไม่ได้ห่างจากปัจจุบันมากนัก ทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไม่ล้ำสมัยมากและก็ไม่เก่ามากจนเกินไป

Battlefield 2042 นั้นจะใช้เทคโนโลยีใหม่ที่จะดึงประสิทธิภาพของเกมได้อย่างสูงสุด เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ของสงครามเต็มรูปแบบซึ่งเป็นจุดเด่นของซีรีส์นี้ และทีเด็ดที่สุดก็คือการเพิ่มขนาดจำนวนผู้เล่นต่อห้องเป็น 128 คน กันเลยทีเดียว แถมในระหว่างการเล่นยังมีเรื่องของสภาพอากาศที่สามารถเปลี่ยนลักษณะของสนามรบได้เลย อย่างเช่นพายุทอร์นาโดที่จะกวาดทุกสิ่งที่อย่างที่ขวางทางให้ลอยได้อีกด้วย

และเนื่องจากจำนวนคนที่มากขึ้น การปรับปรุงแผนที่ให้เหมาะสมก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ ซึ่งตัวเกมในภาคนี้จะมีแผนที่ขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบเป็นอย่างดีในแบบที่ไม่เคยมีภาคไหนทำมาก่อน โดยโหมดหลักๆ อย่าง Conquest และ Breakthough ที่รองรับผู้เล่น 128 คน ทั้งบน PC และ Console เจนใหม่ ยกเว้นเพียงแต่เครื่อง PS4 และ Xbox One เท่านั้น ที่จะสามารถเล่นได้เพียง 64 คน เท่าเดิม

ในช่วงเกมเปิดตัวจะมีแผนที่ให้เล่นด้วยกัน 7 แผนที่ด้วยกัน ได้แก่
Keleidoscope – ตั้งที่เมือง Sogdo ประเทศเกาหลีใต้
Manifest – ตั้งที่เกาะ Brani ประเทศสิงคโปร์
Orbital – ตั้งที่เมือง Kourou ที่เฟรนช์เกียนา
Discarded – ตั้งที่เมือง Alang ประเทศอินเดีย
Renewal – ฉากทะเลทรายในประเทศอียิปต์
Hourglass – ตั้งที่เมือง Doha ประเทศกาตาร์
Breakway – ฉากน้ำแข็งที่ Queen Maud Land ทวีปแอนตาร์กติกา

ตัวเกมนั้นจะมีโหมดหลักๆ อยู่ 3 โหมด ได้แก่ All-Out Warfare หรือก็คือโหมดคลาสสิกอย่าง Conquest และ Breakthough ให้เราได้เล่นกัน พร้อมกับอีกโหมด ได้แก่ Hazard Zone ซึ่งเป็นโหมดเล่นแบบ Squad ที่ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจาก All-Out Warfare เป็นอย่างมาก (แม้จะยังไม่บอกว่าตัวโหมดเล่นยังไง แต่ทีมงานยืนยันว่าไม่ใช่ Battle Royale แน่นอน) ส่วนโหมดสุดท้ายนั้นตอนนี้ยังเก็บเป็นความลับอยู่

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงของเกมเลยก็คือ Specialist ซึ่งจะเป็นทหารรูปแบบใหม่ให้เราเลือกเล่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากระบบ Class จากภาคก่อนๆ ซึ่ง Specialist แต่ละคนจะมีสกิลและอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน และที่เด็ดสุดก็คือการเลือกอาวุธใช้งานได้ทุกชนิด ไม่จำกัดเหมือนภาคก่อนๆ ที่แต่ละคลาสจะใช้ปืนได้แค่บางประเภทเท่านั้น โดยในช่วงเกมเปิดตัวจะมี Specialist ที่แตกต่างกันถึง 10 คน เลยทีเดียว

อีกระบบใหม่ที่น่าสนใจก็คือการปรับแต่งอาวุธแบบ Real Time ที่ไม่จำเป็นต้องรอตายเพื่อปรับแต่ง แต่สามารถปรับเปลี่ยนระหว่างการเล่นได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น กล้อง, ลำกล้องปืน, ชนิดกระสุน และ ด้ามจับ ซึ่งจะเพิ่มความหลากหลายในการเล่นได้เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในซีรีส์ Battlefield นั้นก็ถือยานพาหนะต่างๆ ก็จะมีความหลากหลายมากขึ้นในภาคนี้ด้วยเช่นกัน และมันยังสามารถเรียกลงมายังจุดไหนของแผนที่ก็ได้อีกด้วย อีกทั้งยานพาหนะในภาคนี้จะเน้นการทำงานเป็นทีมกันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นที่สำหรับปืนต่อต้านอากาศยาน, ที่นั่งสำหรับค้นหาศัตรู หรือที่นั่งสำหรับพลปืน ยิ่งมีคนอยู่ในรถมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความหลากหลายและโอกาสในการเอาชนะมากขึ้นเท่านั้น

หนึ่งในสิ่งที่ตัดออกไปในเกมภาคนี้ก็คือโหมดเนื้อเรื่อง เพื่อมาโฟกัสกับตัวเกมเพลย์แบบเต็มรูปแบบ แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับใครที่ไม่ใช่ขาลุย Online ตัวเกมก็มี AI และเปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างห้องเองเล่นกับเพื่อนๆ เพื่อสู้กับบอทได้เช่นกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเล่น สำหรับผู้เล่นที่ไม่ชอบ Competitive มากจนเกินไปอีกด้วย

จากข้อมูลที่เราได้รับชมมาก็ต้องบอกเลยว่า Battlefield 2042 ทำออกมาได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก และจะเป็นก้าวใหม่ของซีรีส์ที่จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม งานนี้ใครสนใจโดยเฉพาะแฟนเกมรุ่นเก่า บอกเลยว่าติดตามข่าวกันไว้ให้ดีๆ ละ มีอะไรมันๆ ให้ชมอีกเพียบแน่นอน ซึ่งจากข้อมูลตัวเกมจะเปิดให้เล่นในวันที่ 22 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งระหว่างนี้ก็จะมีข้อมูลใหม่ๆ ให้ชมอีกเพียบแน่นอน

ลิงค์ร้านค้า Origin
ลิงค์ร้านค้า Steam
ลิงค์ร้านค้า Epic Games

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้