เชื่อว่าเหล่านักล่าทั้งหลายคนตอนนี้ก็คงได้สัมผัสเกม Monster Hunter Rise ล่าแย้ภาคใหม่จาก Capcom กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้านับจากวันที่ผมเริ่มเขียนนี่ก็จะเกือบๆ 2 อาทิตย์เลยทีเดียว และหลายคนผมก็เชื่อว่าน่าจะเล่นไปจนถึง end game ณ แพตช์นี้เป็นที่เรียบร้อยกันแล้วด้วย ซึ่งตัวผมเองก็เช่นกัน ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยจะมารีวิว Monster Hunter Rise ให้เพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า ซื้อมาเล่นกับเพื่อนตอนนี้เลยดีมั้ยนะ ? มาเริ่มตอนนี้จะทันรึเปล่า ? ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับ
**เนื้อหาอาจมีการสปอยล์สำหรับคนที่ยังเล่นไม่จบระดับหนึ่งครับ
Monster Hunter Rise คือภาคใหม่ล่าสุดของซีรี่ส์ต่อจาก Monster Hunter World ที่ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch โดยธีมในภาคนี้จะออกแนวญี่ปุ่น + ขบวนร้อยอสูร (กลายเป็นร้อยมังกร) โดยที่ตัวเนื้อเรื่องเองก็ได้มีการกล่าวถึงเรื่องของการสื่อสารผ่านจิตกับมังกร การบ้าคลั่งของเหล่ามอนสเตอร์ที่มีการบุกรุกหมู่บ้านจนกลายเป็นระบบใหม่ที่เราเรียกกันว่าเควสต์ Rampage กับ Apex Monster นั่นแหละครับ ภาพรวมเนื้อเรื่องถือว่าดูดีขึ้น แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่ดูสั้นมากๆ ยังจบแบบค้างคาอีกด้วยครับ
ทางด้านตัวกราฟิกเองส่วนตัวผมถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ในระดับประสิทธิภาพเครื่อง Nintendo Switch แม้ว่าตัวภาพเองอาจจะดรอปลงไปจากภาคที่แล้วก็ตาม น่าจะเพราะประสิทธิภาพของ RE Engine ตัวแผนที่เองก็ลดความรกของพื้นที่ลงไปได้เยอะ (ด้วยข้อจำกัดเครื่องด้วยแหละ แต่มันเป็นข้อดีด้วยเลย) ทำให้ดูเคลียร์มากขึ้น เฟรมเรทการเล่นถ้าหากเราเล่นคนเดียวก็เกือบจะ 30 fps นิ่งๆ ตลอดเวลา แต่ถ้าหากออนไลน์แล้วไปสู้พื้นที่ที่มีรายละเอียดเยอะๆ และออกสกิลกันแบบจัดเต็ม fps ก็จะตกไปตั้งแต่ 15-25 fps ในระยะเวลาหนึ่งโดยประมาณครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้เราสามารถแก้ได้ด้วยการเล่นแบบ Handheld จะทำให้ fps นิ่งขึ้นจนหลายๆ คนที่ลองบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดีมาก
มอนสเตอร์ที่มีให้ล่าในตอนนี้ ถ้านับตัวใหญ่ระดับบอสก็จะมีให้ล่าแค่เพียง 36 ตัวเท่านั้นครับ (นับ Apex และ Great ตัวกี้ด้วย) แต่ก็ยังไม่มีมอนสเตอร์ประเภท Subspicies มาให้ล่าเลยแม้แต่ตัวเดียว และยังมี Elder Dragon แค่ 2 ตัวคือ Ibushi และ Narwa ที่เป็นมังกรคู่กันตามเนื้อเรื่อง มอนสเตอร์ตัวใหม่ๆ ที่มาในภาคนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นธีมภูติผีญี่ปุ่นซึ่งเข้ากับธีมภาคนี้มากๆ เลยครับ โดยที่ตัวเกมก็ได้เผยอัปเดตตัวต่อไปแล้วว่าปลายเมษายนนี้ก็จะมี Chameleos, Apex Rathalos และที่ยังไม่เผยอีก 1 ตัวออกมาให้ได้ล่ากันเพิ่มครับ
มาดูเรื่องระบบใหม่ๆ กันบ้างดีกว่าครับอย่างแรกที่จะพูดถึงกันเลยก็คือ Wired Bug หรือแมลงลวดที่เป็นไฮไลท์ของภาคนี้ครับ ต้องบอกว่าการมาของ Wired Bug ทำให้ทุกอาวุธมีเกมเพลย์ที่สนุกและลื่นไหลขึ้นมากๆ โดยเฉพาะพวกอาวุธหนักอย่างหอกโล่ ดาบใหญ่ อะไรพวกนี้ครับ ซึ่งหลักๆ ก็จะมี 2 แบบคือการใช้ Wired Bug เพื่อเคลื่อนที่และ Recovery จากการล้มและย้ายจุดได้ไวขึ้น (แต่ถ้าย้ายไม่ดีก็จะโดนโจมตีอีกทีแทน) สำหรับการเคลื่อนที่นั้นจะทำให้เราสามารถเคลื่อนที่เข้าหาหรือการขึ้นที่สูงได้สะดวกมากขึ้นนั่นเองครับ เพราะภาคนี้เราสามารถไต่กำแพง ไต่ภูเขาได้อิสระมากกว่าเดิม กับอีกอย่างคือการใช้ Wired Bug เพื่อเป็นสกิลใหม่ๆ อย่างเช่น ดาบโล่ที่จะมีท่า Whirlwind เป็นการควง Wired Bug โจมตีรอบตัว เป็นต้น ซึ่งมันจะไปสัมพันธ์กับอีกระบบหนึ่งที่เรียกว่า Switch Skill เป็นระบบที่เราสามารถปรับเปลี่ยนท่าทั้งท่าปกติกับท่า Wired Bug จะมีให้เปลี่ยน 3 ท่า ท่าละแบบ ยกตัวอย่างเช่น ดาบโล่จาก Whirlwind กลายมาเป็น Metsu Shoryugeki ที่เป็นการตั้งโล่สวนกลับแล้วโชริวเคนขึ้นฟ้าไปอย่างรุนแรง หรือท่าเป็นท่าปกติอย่างคอมโบ Hard Bash ที่เอาโล่ตบ จะกลายเป็น Drill Slash ที่เป็นการเอาดาบแทงแล้วชักกลับหลายฮิท เป็นต้นครับ
นอกจากนี้สำหรับใครที่เป็นสายนักขี่มอนสเตอร์ก็ลืมของเก่าไปได้เลยครับ เพราะภาคนี้ถูกยกเครื่องใหม่กลายเป็นระบบที่เรียกว่า Wywern Riding นั่นเองครับ อย่างภาคเก่าหากเราโจมตีกลางอากาศจนครบประมาณหนึ่ง เราก็จะสามารถขึ้นไปขี่แล้วจ้วงหลังให้มอนล้มลงได้ แต่ภาคนี้จะกลายเป็นขึ้นไปขี่แล้วบังคับมอนสเตอร์ได้จริงๆ ครับ และสามารถขี่เพื่อไปโจมตีใส่มอนสเตอร์อีกตัวหนึ่งได้ และเมื่อโจมตีไปพักนึงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายของตัวนั้นๆ ใส่ได้ด้วยแถมดาเมจแรงมากจนน่าจะเรียกว่าได้เป็นคีย์สำคัญในการสร้างความเสียหายของภาคนี้เป็นเลยครับ ซึ่งหลักๆ ระบบนี้มักจะใช้ทั้งเพื่อสร้างความเสียหายให้มอนล้ม และถ้าเราโจมตีใส่ 3 ครั้งก็จะมีชิ้นส่วนมอนสเตอร์หล่นมาให้เก็บด้วย
อีกระบบนึงก็คือเควสต์แบบใหม่ที่เรียกว่า Rampage เควสต์ประเภทนี้รูปแบบเกมเพลย์จะถูกเปลี่ยนไปเป็นการป้องกันหมู่บ้านจากการโจมตีของมอนสเตอร์จำนวนมากครับ ตัวเกมจะให้เล่นคล้ายๆ แนว Tower Defense สร้างป้อมต่างๆ แต่ก็จะมีป้อมแบบที่เราสามารถขึ้นไปบังคับเองได้ และมีการเรียก NPC ในหมู่บ้านออกมาช่วยโจมตีระยะหนึ่งด้วย ซึ่งในเควสต์ประเภทนี้จะมีของรางวัลเฉพาะอยู่อย่าง Defender Ticket ที่จะเอาไว้ Ramp-Up อาวุธ ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่เอาไว้เพิ่มความสามารถให้กับอาวุธอีกเล็กน้อย หรือการมาตีมอนสเตอร์ที่มีเฉพาะในนี้อย่าง Ibushi และเหล่า Apex Monster อันดุร้ายก็ด้วยครับ
ส่วนคู่หูภาคนี้นอกจากน้องแมว Palico แล้วก็ได้มีการเพิ่มคู่หูตัวใหม่มาอย่าง Palamute ที่เป็นน้องหมาด้วยครับ ซึ่งตัวสกิลและของสวมใส่ก็จะไม่เหมือนกัน แต่จุดเด่นของ Palamute จะอยู่ในเรื่องที่ตัวละครเราสามารถขี่ได้ครับ ทำให้การเดินทางในแผนที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมไปถึงสามารถปีนป่ายได้ เก็บของต่างๆ ได้โดยที่ยังขี่อยู่ เรียกว่าสะดวกขึ้นมากๆ เลยทีเดียวครับ และในภาคนี้หากเล่นออนไลน์เราจะยังสามารถเลือกพกไม่ Palico ก็ Palamute ไปร่วมสู้ได้ด้วย 1 ตัวครับ เท่าที่ดูส่วนใหญ่ก็จะเลือก Palamute กันเพราะเรื่องความสะดวกในการเดินทางนี่แหละ
ในส่วนของ Quality of Life ต่างๆ ก็จะมีโซนที่เรียกว่า Buddy Plaza ซึ่งในนั้นก็จะมีทั้งการซื้อ Palico กับ Palamute ตัวใหม่ๆ เอาไว้หาสกิลที่ต้องการ รวมไปถึงซื้อเพิ่มไว้เพื่อส่งไปหาของผ่านเรือดำน้ำที่จะเป็นการเลือกของที่จะเก็บที่เป็นประเภทพืช ปลา แมลง และขึ้นว่าวลอยฟ้าที่จะเป็นการออกผจญภัยและสุ่มไอเทมที่ได้รับตามแผนที่และมอนสเตอร์ที่น้องๆ ไปต่อสู้มาครับ นอกจากนี้ก็ยังมีรัง Kohoot เอาไว้สุ่มของเล่นๆ กับ Dojo ที่เอาไว้เพิ่มเลเวลบัดดี้เราด้วยเช่นกัน
ถ้าพูดถึงความยาวเกมและเนื้อหาท้ายเกมตอนนี้ ตัวเกมจะแบ่งออกเป็น Village Quest ที่มีให้เล่นถึง 5 ดาว เป็น Low Rank ทั้งหมด และมีความง่ายในระดับนึงเพื่อให้นักล่ามือใหม่สามารถเข้าใจและรับมือกับตัวเกมได้ ส่วนเควสต์ในบาร์หรือ GATHERING HUB จะเป็นเควสต์ที่เอาไว้เล่นกับผู้เล่นอื่นรวมเป็น 4 คน (เล่นได้ทั้งแบบออนไลน์หรือโลคอลนั่งเล่นข้างๆ กันแบบสมัยก่อนก็ได้) ซึ่งตัวมอนสเตอร์จะยากกว่า และสเกลตามจำนวนผู้เล่นในเควสต์ครับ โดยที่จะสูงสุดที่ 7 ดาว ถึงระดับ High Rank และจะมีมอนสเตอร์บางตัวที่มีเฉพาะในนี้ด้วย ซึ่งตัวผมเองตอนเล่นเพื่อปลดเควสต์และ HR 7 ก็จะตกอยู่ที่ราวๆ 10-12 ชั่วโมงโดยประมาณครับ ถือว่าสั้นมากๆ แต่ก็ยังพอมีอะไรอย่างอื่นให้ทำอย่างเช่นการฟาร์มทำชุด ทำอาวุธอื่นๆ ต่อ การไล่ทำเควสต์ที่ยังไม่เคยเคลียร์ รวมไปถึง End Game ณ ตอนนี้อย่างการ Melding Pot หรือสุ่มสร้อยเพื่อหาสร้อยที่มีสกิลตรงกับที่เราต้องการนั่นเองครับ
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับสำหรับ Monster Hunter Rise ภาคใหม่จากซีรี่ส์ล่าแย้ยอดฮิต จริงๆ ก็จะมีหลายอย่างที่ถูกปรับเปลี่ยนจากภาค World ให้รู้สึกว่าสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นมอนสเตอร์เห็นตั้งแต่เข้าเควสต์มาเลยไม่ต้องเดินตามแมลงนำทางหรือเดินหาเอง ระบบการ join เควสต์ออนไลน์แบบไม่ต้องจุดพลุและแยกเป็นเควสต์ๆ ให้เรียบร้อยแล้ว ระบบสารานุกรมที่เปิดดูได้ในตัวเองและบอกข้อมูลต่างๆ มากมาย การโหลดเปลี่ยนแผนที่และเข้าเควสต์ที่รวดเร็วขึ้น ทำให้ภาพรวมดูดีขึ้นและเป็นมิตรกับมือใหม่มากขึ้นไปอีกขั้น ก็เลยอาจจะไม่ถูกใจเหล่านักล่าที่เป็นสายชอบความท้าทายที่จะต้องรออัปเดตกันไปก่อนอยู่บ้าง อ้อ! ถ้าไม่ถูกใจผมก็คงเป็นเรื่องที่รู้สึกว่าเกมสั้นมาก สั้นจนเหมือนยังทำไม่เสร็จนี่แหละครับ ใครที่เล่นเควสต์หมู่บ้านก่อนนี่บอกเลยว่า 4-5 ชั่วโมงก็ขึ้นเอนด์เครดิตแล้ว ผมนี่ตกใจเลย ยังไม่นับว่า HR ตันที่ 7 และต้องรอการอัปเดต 2.0 ในช่วงปลายเดือนนี้ถึงจะมีเนื้อเรื่องเพิ่มและปลดล็อค HR เพิ่มเติมให้อีกครับ แต่ถ้าใครเป็นนักล่าอยู่แล้วก็แนะนำให้จัดมาเล่นกันอยู่ดีครับ พอถึงเอนด์เกมก็อาจจะแบบไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับมันเยอะแต่อยู่เรื่อยๆ รออัปเดตก็ได้ครับ ส่วนใครสายไม่รีบและอยากรอเสพคอนเท้นท์เยอะๆ ทีเดียวก็พอจะรอได้อยู่นะ ส่วนผมก็ขอไปล่าต่อก่อนละกันครับ