แกะรอยทฤษฎีสาวต้นแบบคุณนาย Dimitrescu วายร้ายใน Resident Evil Village

ณ ตอนที่เพื่อน ๆ ได้อ่านบทความนี้ ทุกคนคงได้ทราบวันวางจำหน่ายเกมของ Resident Evil Village กันไปเรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีประเด็นในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะเว็บบอร์ดต่างประเทศบางแห่งที่ตั้งข้อสังเกตว่าตัวละคร Alcina Dimitrescu (อัลซิน่า ดิมิเทรสคู) สาวใหญ่มาดคุณนายที่เป็นหนึ่งในตัวร้ายของเกมดังกล่าวน่าจะมีต้นแบบการดีไซน์หรือได้แรงบันดาลใจจากใครกันแน่

หนึ่งในทฤษฎีที่น่าสนใจที่สุด คือข้อสันนิษฐานที่ว่า Dimitrescu น่าจะได้ต้นแบบมาจากอดีตฆาตกรต่อเนื่องอันโด่งดัง ผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1560-1614 นามว่า Elizabeth Bathory (เอลิซาเบธ บาโธรี่) ครับ โดยนางได้รับการบันทึกสถิติลงกินเนสเวิลด์เรคคอร์ด ในฐานะของฆาตกรหญิงที่เคยสังหารผู้คนมากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 600 คนเลยทีเดียว

ในความจริงแล้ว ตัวเลขจำนวนเหยื่อของนางได้รับการถกเถียงกันในวงกว้างครับว่ามีทั้งหมดกี่คนกันแน่ ซึ่งบาโธรี่เคยก่อคดีร่วมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 4 คนในการทรมานและสังหารเด็กสาวและผู้หญิงเป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปี (ระหว่าง ค.ศ. 1590-1610)

โดยตอนที่มีการไต่สวนในชั้นศาล ได้มีการระบุตัวเลขคร่าว ๆ ไว้ที่ราว ๆ 650 คน แต่นั่นคือคำให้การจากสาวใช้คนหนึ่งของบาโธรี่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลักฐานจะมัดตัวบาโธรี่แน่นหนาเพียงใด ทว่าด้วยความที่ครอบครัวของนางมีอิทธิพลในอาณาจักรฮังการีขณะนั้นมาก เธอจึงไม่ต้องโดนโทษประหารชีวิตครับ บาโธรี่ถูกคุมขังตั้งแต่ปี 1610 กระทั่งเสียชีวิตลงในปี 1614

เรื่องราวการเป็นฆาตกรต่อเนื่องของบาโธรี่ได้รับการยืนยันจากคำให้การจากพยานกว่า 300 ปาก รวมถึงหลักฐานวัตถุทั้งสภาพศพของเหยื่อที่ตายอย่างสยดสยอง ทุกข์ทรมานในที่จองจำ ซึ่งทั้งหมดถูกพบระหว่างที่บาโธรี่ถูกจับกุม จนมีเรื่องกล่าวขานว่าบาโธรี่อาจจะมีพฤติกรรมเหมือนแวมไพร์ เช่น การนิยมอาบชำระร่างกายด้วยเลือดของหญิงพรหมจรรย์ ด้วยความเชื่อที่ว่าเลือดเหล่านั้นจะทำให้เธอคงความสาวไว้ได้ตลอดเวลา

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกสมมติฐานที่เชื่อว่าเรื่องของบาโธรี่อาจเป็นแรงบันดาลใจของ Bram Stoker (บราม สโตเกอร์) ในการประพันธ์วรรณกรรมสุดโด่งดังที่มีชื่อว่า Dracula ก็เป็นได้ เพราะสมญานามของบาโธรี่ตอนที่นางตอนที่เกิดคดีก็คือ The Blood Countess ครับ แต่เรื่องเล่าที่กล่าวมารวมถึงสมมติฐานต่าง ๆ แทบจะถูกปัดตกไปเกือบหมด เพราะไม่มีหลักฐานอ้างอิงใด ๆ ที่เชื่อถือได้เลย

หลังโดนคุมขังเป็นเวลา 4 ปี บาโธรี่ก็ได้เสียชีวิตลง ศพของบาโธรี่ถูกฝังอยู่ในโบสถ์ Cachtice (ปัจจุบันคือเขตตะวันตกของประเทศสโลวาเกีย) ก่อนจะมีการย้ายไปฝังที่บ้านเกิดของเธอที่เมือง Ecsed ในเวลาต่อมา (ปัจจุบันคือเขตตะวันออกของประเทศฮังการี) แต่จนถึงทุกวันนี้ตำแหน่งหลุมฝังศพของบาโธรี่ยังคงเป็นปริศนา และไม่มีผู้ใดสามารถระบุได้ว่ามันอยู่บริเวณไหนกันแน่

หากให้สรุปรวมความเชื่อมโยงของบาโธรี่ – แดร็กคูล่า กับดิมิเทรสคูตามสมมติฐานของชาวเน็ต ก็พอกล่าวแบบสังเขปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้ครับ

ตามตำนานเรื่องเล่าของบาโธรี่ นางได้ลักพาตัวหญิงพรหมจรรย์มาสังหารเพื่อนำเลือดมาใช้อาบร่างกาย ด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยให้ตัวเองดูสาวดูสวยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในเดโม Maiden ของเกม Resident Evil Village จะมีไฟล์นึงที่ระบุถึงเหล้าองุ่นที่ดีที่สุดของบ้านดิมิเทรสคูที่มีชื่อว่า Sanguis Virginis ที่แปลว่า เลือดสาวพรหมจรรย์ นั่นเอง
บาโธรี่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 (นางเกิดปี 1560) ในขณะที่ไฟล์หนึ่งในเดโม Maiden จะมีบอกว่าเทคนิคการทำไวน์ของบ้านดิมิเทรสคูนั้นมีตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 มาแล้ว ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ยังมีความใกล้เคียงกันอยู่บ้าง
คำว่า Iron Maiden หรือหญิงพรหมจรรย์นั้น เป็นชื่อเรียกเครื่องทรมานชนิดหนึ่งในคอลเล็กชั่นของบาโธรี่ครับ โดยลักษณะจะคล้ายโลงศพวางแนวตั้ง ซึ่งฝั่งด้านในของฝาปิดจะเป็นหนามแหลมจำนวนมาก วิธีการก็คือนำเหยื่อเข้าไปอยู่ในนั้นแล้วปิดฝาใส่ ก็จะได้เลือดจากบาดแผลนั้นไปใช้ประโยชน์สำหรับนางได้ (ตามตำนานเรื่องเล่า)
จากตำนานของแดร็กคูล่า เจ้าตัวนั้นมีพลังอิทธิฤทธิ์ที่สามารถแปลงกายเป็นค้างคาวได้ครับ ซึ่งในเดโมเราจะเห็นสาวใช้ของดิมิเทรสคูสามารถกลายร่างตัวเองเป็นฝูงแมลงเพื่อเคลื่อนย้ายตำแหน่ง หรือเข้ามาจู่โจมเราก็ได้ ซึ่งมีความคล้ายกัน

ขณะเดียวกัน ยังมีทฤษฎีและสมมติฐานอื่น ๆ ที่ชาวเน็ตนำดิมิเทรสคูไปเปรียบเทียบกับตัวละครหรือตำนานอื่น ๆ ด้วยครับ อาทิ

Hachishakusama – หญิงสาวตามตำนานของญี่ปุ่น ที่สูงชะลูด ผิวซีด สวมหมวกปีกกว้าง ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายกับดิมิเทรสคูในเกมเลย เพียงแต่ดิมิเทรสคูนั้นจะเน้นเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาว ในขณะที่ Hachishakusama จะพุ่งเป้าไปที่เด็ก ๆ เป็นส่วนใหญ่

Lust จากซีรีส์ Fullmetal Alchemist – อันนี้เป็นการเทียบจากความสามารถในการงอกกรงเล็บที่ยาวเว่อร์ และมีใบหน้าที่สะสวยครับ

เทพี Demeter ของตำนานกรีกโบราณ – ประเด็นนี้มาจากคำว่า Dimitrescu ที่มีรากศัพท์จากคำกรีก, สลาฟ และโรมาเนียมาประสมกัน มีความหมายว่า Son of Dimitr (บุตรแห่ง Dimitr) โดยคำว่า Dimitr ก็เป็นคำของชาวสลาฟที่พูดถึง Demeter เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวพืชผล ดอกไม้ (Harvesting) ซึ่งดิมิเทรสคูจะมีพูดในเกมอยู่ครับว่านางรวบรวมหญิงสาวมาก็เพื่อนำเลือดไปใช้ (ประโยคอังกฤษคือ harvest virgin females for blood)