หากใครที่ติดตามเกม Cyberpunk 2077 มาตั้งแต่ต้นก็จะเห็นได้ว่ามีบางระบบที่เคยเห็นใน Trailer เก่าๆ แต่มาในเกมจริงๆ กลับไม่มีระบบนั้นให้เห็น ซึ่งหากติดตามดูจริงๆ จะเห็นว่ามีหลายระบบที่ถูกถอดออกไปเยอะพอสมควร เรามาดูกันดีกว่าว่าระบบที่เคยโชว์แต่ถูกถอดออกไปในเกมตัวเต็มนั้น มีอะไรกันบ้าง

ระบบ Back Story เปลี่ยนเป็น Life Path

ในการโชว์เกมเพลย์ของปี 2018 ในส่วนของการสร้างตัวละคร จะมีหัวข้อ Back Story ซึ่งให้เลือก 3 ส่วน ได้แก่ ฮีโร่ในวัยเด็กที่ชื่นชอบ, จุดเปลี่ยนของชีวิต และ ทำไมถึงมาที่ Night City แต่ในเกมตัวเต็มได้ถูกถอดออกไปและเปลี่ยนเป็น Life Path นั่นก็คือ Nomad, Street Kid และ Corpo อย่างที่เราได้เห็นกันนี่เอง ซึ่งเหตุผลที่ผู้พัฒนาเลือกเปลี่ยนก็เพราะตัวเลือก Life Path มีผลกับเนื้อเรื่องของตัวเกมมากกว่า
ระบบวิ่งบนกำแพงถูกถอดออก

อีกหนึ่งระบบที่เคยถูกโชว์ในตัวเกมเพลย์ปี 2018 เช่นเดียวกัน แต่ถูกถอดออกไปเนื่องจากผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า อาจจะมีผลเสียด้านการดีไซน์ฉากในหลายๆ ส่วน
ฝนกรดที่เคยถูกพูดถึง แต่ไม่มีในเกมตัวเต็ม

ฝนกรดเคยถูกพูดถึงในปี 2019 เพราะว่า Night City เป็นเมืองที่มีมลพิษเยอะ นอกจากนี้ทีมงานยังเคยบอกว่า NPC จะมีการตอบสนองเวลาฝนตกเหมือนใน The Witcher 3 ด้วยการวิ่งหลบฝนด้วย แต่ในเกมตัวเต็มก็ไม่มีฝนกรดให้เห็น แถมเวลาฝนตก NPC ก็เดินเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย
การขึ้นรถไฟฟ้าที่เคยมีให้เห็นใน Trailer

ใน Trailer ภายในงาน E3 2018 โดยต้นคลิปจะเป็นการโชว์ให้เห็นว่าตัวเอกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะ แต่ในปี 2020 ผู้พัฒนาก็ได้ออกมาบอกว่าตัวเกมไม่สามารถขึ้นรถไฟได้แบบนั้น แต่เป็นการ Fast Travel วาร์ปไปโผล่ในจุดที่เลือกแทน
ตำรวจและ NPC ที่มีการตอบสนองเวลาผู้เล่นฆ่าคน

ในปี 2019 ผู้พัฒนาเคยบอกไว้ว่า ตำรวจภายในเกมจะมีการมาในหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ NPC ตามฉากทั่วไป จะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันไปหากเราเริ่มไล่ฆ่าผู้คน แต่กลับกันในเกมจริงหากเราเริ่มฆ่าคน NPC ทุกตัวแทบจะถูกจับวาร์ปหายไปทันที โดยเฉพาะเวลามีหมายจับ ตำรวจก็จะวาร์ปมาเรื่อยๆ ไม่หยุด แบบค่อนข้างน่าเกลียดเลยทีเดียว
การปรับแต่งรถ

ในการสัมภาษณ์ผู้พัฒนาในปี 2019 ก็เคยมีการพูดถึงการปรับแต่งรถยนต์เช่นกัน แต่ได้ถูกบอกภายหลังในปี 2020 ว่า รถยนต์ภายในเกม จะไม่สามารถปรับแต่งได้
ป้ายโฆษณาที่จะบอกว่าสินค้าอยู่ที่ไหน

ในเกมเพลย์ของปี 2018 จะมีการโชว์ป้ายโฆษณาที่เราสามารถเข้าไปกดสำรวจได้ ซึ่งมันจะบอกว่ามีตู้ขายสินค้าที่ใกล้ที่สุดตรงไหน แต่ภายในเกมตัวเต็ม โฆษณาไม่สามารถกดสำรวจใดๆ ได้
การ Hack ศัตรู โดยการเสียบสายเคเบิ้ลเข้าสู่เครือข่าย

อีกหนึ่งสิ่งที่เคยถูกโชว์ในตัวเกมเพลย์ปี 2018 ก็คือ การ Hack ศัตรูด้วยการ Steath เสียบสายเคเบิ้ลเข้าสู่เครือข่ายของศัตรู แต่ในเกมเต็ม แค่เรา Scan ศัตรูจากระยะไกล ก็สามารถเริ่ม Hack ได้ทันที
Cutscenes ที่มีมุมมองบุคคลที่สาม

อีกหนึ่งสิ่งที่เราได้เห็นในตัวเกมเพลย์ปี 2018 ก็คือช่วงคัทซีน ที่มีมุมมองบุคคลที่สาม แต่ในเกมตัวเต็มได้เปลี่ยนเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบ 100% เหลือเพียงช่วงเวลาขับรถเท่านั้นที่สามารถเลือกมุมมองบุคคลที่สามได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นระบบต่างๆ ในเกม Cyberpunk 2077 ที่เคยถูกพูดหรือมีให้เห็น แต่ได้ถูกถอดออกไปในเกมตัวเต็มนี่เอง ซึ่งบางอย่างก็เป็นการถอดที่เข้าใจได้ แต่บางอย่างก็น่าเสียดายที่ไม่มีถูกเห็นในเกมเต็มเช่นกัน
เกมเพลย์ 48 นาที สมัย E3 2018

Source : pcgamer