และแล้ววันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ เครื่อง PlayStation 5 ก็จะได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศสิงคโปร์แล้วนะครับ โดยถือเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้วางจำหน่ายก่อนประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งถัดจากนี้ก็จะเป็นคิวของประเทศมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ที่จะได้วางขายในเดือนธันวาคม ตามมาด้วยประเทศอินโดนีเซียในเดือนมกราคมปีหน้า
ทว่าทางฝั่งของประเทศไทย จนถึง ณ ตอนนี้กลับไม่มีวี่แววของการประกาศราคาและวันวางจำหน่ายเลย เกมเมอร์ในไทยจึงได้แต่เฝ้ารอและเกิดความสงสัยว่าสาเหตุที่เครื่องถูกวางขายล่าช้านั้นอยู่ที่กระบวนการไหนกันแน่
ระหว่างนี้ทาง Online Station ก็มีโอกาสได้ทดสอบเครื่อง PlayStation 5 ก่อน เพื่อบอกเล่าความรู้สึกต่าง ๆ หลังได้ทดลองทั้งตัวเครื่อง เกม และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ สำหรับประกอบการตัดสินใจครับ
ย้อนอ่านบทความเก่าได้ที่ https://www.online-station.net/pc-console-game/330515/
พอแกะกล่องดู ของทั้งหมดจะมีตามนี้
- เครื่อง PlayStation 5
- จอย DualSense จำนวน 1 ชุด
- สายไฟ AC แบบ 2 รู จำนวน 1 เส้น
- สาย HDMI จำนวน 1 เส้น
- สายชาร์จ USB Type-C จำนวน 1 เส้น (สำหรับชาร์จจอย)
- แท่นขาตั้ง จำนวน 1 ชุด (ใช้สำหรับประกอบเข้ากับสันเครื่อง เพื่อวางแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้)
เมื่อเปิดเครื่องและเข้ามาลองศึกษาเมนูต่าง ๆ ของเครื่อง พบว่าในส่วนของภาษานั้นเราสามารถปรับให้เมนูต่าง ๆ เป็นภาษาไทยได้เลย เพราะมีการใส่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แม้ว่าเครื่องที่ทำการทดสอบจะเป็นเครื่องที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นก็ตาม ดังนั้นใครที่ทนไม่ไหว ซื้อเครื่องหิ้วมาเชยชมก่อนก็ไม่ต้องผิดหวังครับ มีภาษาไทยให้ปรับแน่ ๆ
ในส่วนของ User Interface จะออกแบบมาให้รู้สึกสะอาดตามากขึ้น พวกไอคอนเกมต่าง ๆ ที่ Install อยู่ในเครื่องจะถูกดันให้ไปชิดขอบบนมากขึ้น และนำพื้นที่บริเวณตรงกลาง-ล่างของจอมาเน้นโชว์ Activity ต่าง ๆ
ซึ่งตรงนี้แนะนำว่าให้ต่ออินเตอร์เน็ตไว้ก็ดีนะครับ เพราะจะสามารถเช็คข่าวสารของ PlayStation รวมถึงเช็คเพื่อน ๆ ของเราที่กำลังออนไลน์อยู่ได้ด้วย
นอกจากนั้นแล้ว ในส่วนของ PlayStation Store หากเราเข้าด้วยไอดีสัญชาติไทย สกุลเงินในนั้นก็จะเป็นบาทเหมือนกับของ PS3 หรือ PS4 เปี๊ยบ
และหากใครที่เป็นสมาชิก PlayStation Plus อยู่แล้ว ก็สามารถเข้าไปเล่นเกมในคลังของ PlayStation Plus Collections ที่มีเกมเด็ด ๆ ของ PS4 ถึง 20 เกมได้ทันที (จำนวนเกมนี้คือตาม ณ วันที่จำหน่ายเครื่องวันแรก) โดยเมื่อเล่นบน PlayStation 5 ผ่านระบบ Backward Compatibility ก็จะได้สิทธิประโยชน์จากขุมพลัง SSD ภายในเครื่อง ทำให้โหลดเกมเร็วขึ้นมาก
ถัดมาเป็นเรื่องของจอย DualSense บ้าง ทางทีมงานได้ทดลองจอยนี้ไปกับ 3 เกม ได้แก่ Astro Playroom, Call of Duty: Black Ops Cold War และ Demon’s Souls ซึ่งต้องบอกเลยว่าจอย DualSense คือพระเอกของอุปกรณ์เสริมฝั่ง PlayStation 5 อย่างแท้จริง ด้วยระบบหลัก 2 อย่างของมันที่เรียกว่า Haptic Feedback และ Adaptive Triggers นั่นเอง
ระบบ Haptic Feedback จะเป็นระบบการสั่นของจอยรูปแบบใหม่ที่มีความละเอียดสูงมาก ยกตัวอย่างตอนที่เล่นเกม Astro Playroom เวลาที่เราบังคับเจ้า Astrobot เดินไปมา จอย DualSense จะสั่นตามจังหวะขาที่เหยียบสัมผัสพื้น ถ้าขาซ้ายแตะพื้น ฝั่งซ้ายของจอยก็จะสั่น ในขณะที่ถ้าขาขวาแตะพื้น ฝั่งขวาของจอยก็จะสั่น เป็นเช่นนี้สลับไปมาเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้า Astrobot เดินไปอยู่บริเวณที่เป็นทราย การสั่นก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่บนพื้นหยาบ ๆ หรือถ้าขาเราข้างนึงอยู่บนหญ้า ส่วนอีกข้างอยู่บนพื้นปกติ การสั่นก็จะแสดงผลออกมาแตกต่างกันตามไปด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น กรณีของเกม Demon’s Souls เองก็เช่นกัน หากเราเดิน ๆ อยู่แล้วเจอศัตรูโจมตีทางด้านขวา จอยก็จะสั่นตรงด้านขวา และความแรงของพลังโจมตีศัตรูก็จะผันแปรตามแรงสั่นของจอยด้วย หรือถ้าเราเดินไปเหยียบพื้นผิวต่าง ๆ เช่น ผืนน้ำ หญ้า ปลักโคลน การสั่นก็จะจำแนกประเภทให้เรารู้สึกเหมือนกำลังย่ำอยู่บนพื้นผิวนั้นจริง ๆ เลย
ขณะเดียวกัน ระบบ Adaptive Triggers จะเห็นผลได้ชัดกับเกมยิงอย่าง Call of Duty: Black Ops Cold War เมื่อเราต้องหยิบปืนแต่ละประเภทมาใช้ จะพบว่าปุ่มเล็งอย่าง L2 จะมีความหนืดราวกับนิ้วเรากำลังอยู่ในโกร่งไกปืน และเมื่อกดปุ่มยิงด้วย R2 อัตรารัวกระสุนและแรงถีบจะตอบสนองผ่านแรงสั่นของจอย รวมถึงจังหวะการสั่นของปุ่ม R2 ตามสปีดการรัวกระสุนอีกด้วย
ที่กล่าวมาในย่อหน้าก่อน มันทำให้เรารู้สึกว่าการเล่นเกมแนว First Person Shooter (FPS) ด้วยจอย DualSense จะให้ประสบการณ์การเล่นแบบใหม่ที่แตกต่างจากการเล่นด้วยเมาส์ + คีย์บอร์ด ไปอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือฟีลลิ่งของการ “จำลอง” การจับปืน ผ่านการสัมผัสจอย DualSense นั่นเอง
ส่วนประเด็นของ SSD นั้น พบว่าการโหลดเกมเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก อย่าง Astro Playroom จะใช้ตั้งแต่กดเข้าเกม จนถึงหน้าจอเลือกเมนูเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาไล่เลี่ยกับ Demon’s Souls เลย
ทว่าพอทดลองกับเกม Ghost of Tsushima ของ PS4 จะเห็นผลของการโหลดเร็วขึ้นเมื่อเข้าเกมในครั้งที่ 2 เป็นต้นไป เนื่องจากตอนเข้าเกมครั้งแรกจะเสียเวลาไปกับการโหลดบทนำ คัตซีนต่าง ๆ ตอนเริ่มเรื่องพอสมควร แต่พอมีการเล่นไปถึงจุดนึงและเซฟเกมได้แล้ว เมื่อเข้ามาเล่นอีกรอบก็จะลดเวลาการโหลดลงไปได้มาก
แต่ด้วยความที่ทีมงานมีเวลาทดสอบน้อยไปหน่อย จึงยังไม่สามารถทดลองกับเกม PS4 อื่น ๆ ได้ ในขณะที่พัดลมของเครื่องตลอดเวลาที่ทดลองเล่นประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ถือว่าเงียบมาก แทบไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดรอดให้ได้ยินเลย
โดยรวมแล้วถือว่าองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างของเครื่อง PlayStation 5 ทำมาพร้อมมาก ๆ แล้วกับการวางจำหน่ายในไทยครับ ไม่ว่าจะเรื่องของเมนูภาษาไทยในเครื่อง สโตร์ไทยที่แสดงสกุลเงินบาท ไหนจะเกม Demon’s Souls และ Astro Playroom ที่มีซับไตเติ้ลภาษาไทยมาให้เสร็จสรรพ ตรงนี้ทีมงานเลยมองว่าสาเหตุที่เครื่องวางขายล่าช้าน่าจะมาจากปัจจัยอื่นมากกว่า
ติดตามข่าวสารของ PlayStation ได้ที่ https://www.facebook.com/PlayStationThai
