Watch Dogs Legion รีวิว – เมื่อการทวงคืนอนาคตไม่ใช่งานของคนใดคนหนึ่งแต่หมายถึงทุกผู้ที่กล้าจะต่อต้าน

Watch Dogs Legion รีวิว – เมื่อการทวงคืนอนาคตไม่ใช่งานของคนใดคนหนึ่งแต่หมายถึงทุกผู้ที่กล้าจะต่อต้าน

 

 

วางจำหน่ายให้ได้เล่นกันสักทีครับสำหรับ Watch Dogs Legion หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งสิริรวมเวลาก็เกือบ 1 ปีพอดิบพอดี จนกลายเป็นว่าช่วงเวลาวางขายดันไล่เลี่ยกับอีกหนึ่งเกมเรือธงของค่ายอย่าง Assassin’s Creed Valhalla จัดๆ แบบว่าห่างกันไม่ถึงครึ่งเดือน อย่างไรก็ดีการเลื่อนขายมาจนถึงเวลานี้ ไทม์มิ่งของเหตุการณ์ในเกมกับประเทศเรามันดันดูมีความเชื่อมโยงเสียอย่างนั้น จึงไม่แปลกอะไรที่คนไทยอย่างเราๆ จะรู้สึกเล่นแล้ว “อิน” กับมันขึ้นประมาณหนึ่ง

 

Watch Dogs

 

Watch Dogs Legion เล่าถึงเรื่องราวการก่อการร้ายในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษโดยองค์กรลึกลับองค์กรหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ Albion กองกำลังติดอาวุธเสนอตัวเข้ามาเพื่อดูแลความเรียบร้อยในลอนดอน พร้อมกันนั้นก็ป้ายสีว่า Deadsec เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และยังมีการปราบปรามสมาชิกของ Deadsec และคนเห็นต่างอย่างไร้ความปราณี 

เราในฐานะสมาชิกผู้เหลือรอดของกลุ่มจึงต้องพยายามรวบรวมผู้มีอุดมการณ์ขึ้นมาอีกครั้งและสร้างทีมจารชนเพื่อต่อต้านอำนาจที่กดทับสังคมไว้ เพราะเมื่อใดที่กฎหมายไร้ความเป็นธรรม การแหกมันทุกกฎอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดก็เป็นได้

 

Watch Dogs

 

พูดถึงการแหกกฎแล้วต้องบอกว่า Watch Dogs Legion แหกกฎซีรีส์ตัวเองออกมาสมควรไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่ของแก่นเกมเพลย์และเป้าประสงค์ของมัน อยากแรกที่เป็นประหนึ่งจุดโปรโมตโครมๆ ก็คือการที่เราจะเล่นเป็นใครก็ได้ อาชีพใดก็ได้ ขอแค่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงก็สามารถเข้ามาจอยกัน โดยคุณสามารถเดินสเก๊าท์คนไปเรื่อยๆ ตามถนน เจอใครสกิลถูกใจก็จดไว้แล้วค่อยตามไปชวนเข้าทีมทีหลัง โดยที่อาจจะต้องทำเควสต์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อซื้อใจให้พวกเขายอมร่วมหัวจมท้าย ซึ่งก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล กระทั่งเมื่อตัวละครดังกล่าวเซย์เยสที่จะเข้าร่วมทีม ผู้เล่นก็จะสามารถใช้ตัวละครนั้นได้ในที่สุด

 

Watch Dogs

 

ทำให้เมื่อถึงจุดหนึ่งของเกมผู้เล่นจะมีตัวละครไว้ใช้งานเพียบ พร้อมความสามารถที่แตกต่างกันไว้สามารถเลือกใช้ได้ตามแต่เควสต์ที่จะอำนวย ซึ่งความหลากหลายมากๆ ของตัวละครนี่คือจุดเด่นที่ชัดมากของเกม เพราะไม่ใช่แค่สกิลและอาวุธที่ใช้ได้จะแตกต่างกัน แต่คำอธิบายและประวัติส่วนตัวหลายๆ อย่างก็ไม่ค่อยซํ้ากันด้วย และผมอยากบอกว่าสกิลและคำอธิบายตัวละครบางตัวคือปั่นมากๆ แค่อ่านก็ขำก๊ากไม่หยุด มันเป็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แต่อุดมไปด้วยปริมาณที่แสดงถึงการใส่ใจในจุดขายของเกมเป็นอย่างดี

 

Watch Dogs

 

ความยอดเยี่ยมในความหลากหลายยังไม่หมด เพราะมันถูกแสดงออกผ่านแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละคร และมันถูกแบ่งย่อยออกไปเยอะมาก เช่น การสู้มือเปล่า การใช้อาวุธระยะประชิด หรือการ Takedown ซึ่งจะถูกแสดงผลโดยขึ้นอยู่กับว่าท่าเหล่านี้ถูกใช้โดยใครหรือตัวละครคลาสอะไร และด้วยอาวุธแบบใด คือมันเจ๋งมาก คุณสามารถเห็นได้ชัดเจนด้วยการลองเอาตอนต่อสู้ของแฮคเกอร์มือฉมังแต่บู๊ไม่ค่อยเป็นกับเอาคุณป้านักฆ่ามือโปรติดสกิล Gunkata มาเทียบกัน คือบอกเลยว่าฝ่ายหลังลีลาตื่นตาตื่นใจกว่าเยอะ และกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากเปิดฉากบวกมากกว่าหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อจะได้ใช้สกิลของนางได้อย่างเต็มที่

 

Watch Dogs

 

อีกเรื่องที่แหวกขนบความเป็น Watch Dogs ก็คือประเด็นหลัก เพราะที่ผ่านมาตัวเกมขายความเป็น “กลุ่มแฮคเกอร์กู้โลก” แต่ใน Legion การแฮคดูจะเป็นประเด็นรองลงไป เพราะตัวเกมหนักแน่นในประเด็นสู้เพื่ออิสระภาพโดยมีการแฮคเป็น 1 ในเครื่องมือตัวช่วย เพราะการแฮคในเกมดูจะไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร ทุกคนก็สามารถแฮคได้ ถึงอย่างนั้นก็จะมีระดับความเก่งแบ่งอยู่หลวมๆ พวกมาสายตรงก็จะแฮคได้เร็วกว่า เป็นต้น

 

Watch Dogs

 

ตัวเกมยังมีมินิเกมอีกมายมายให้ลองทำลองเล่น เรียกว่าชีวิตในลอนดอนมีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด แม้กระนั้นในความหลากหลายที่กล่าวไปข้างต้น ผมกลับรู้สึกว่าเกมยังไม่ลึกลํ้าหรือเนื้อเรื่องถูกขับเคลื่อนดีพอ คือถึงตัวละครจะเยอะมาก แต่นอกจากการปลด Tech รวมๆ แบบ Universal เพื่ออุปกรณ์ใหม่ๆ บางชิ้นของตัวละครบางตัว มันก็ไม่มีการพัฒนาในด้านอื่นอีก เราจะไม่ได้เห็นตัวละครที่เก่งขึ้น หรือทัศนคติและความสามารถที่เปลี่ยนไป เพราะตัวเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก และจะเป็นตลอดไป อีกทั้งแม้จะมีตัวละครหลายอาชีพ ความสามารถต่างกันออกไป และการเลือกใช้คนให้ถูกงานก็เป็นเรื่องที่จริงมากๆ แต่อย่างไรเสียคุณก็สามารถใช้ตัวละครเดียวจนจบเกมได้โดยที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป เพราะเกมเตรียมทางออกให้คุณในแต่ละภารกิจอยู่เสมอ ซึ่งมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในทีเดียว แนะนำว่าในการเล่นจริงให้เปิดโหมด Permadeath ไว้ไม่ว่าคุณจะเล่นในความยากระดับใด เพราะโหมดนี้จะทำให้ตัวละครที่เจ็บหนักถึงตายได้ ตายในที่นี้คือตายถาวรหายจากเกมไปเลย ซึ่งมันจะช่วยให้เกมท้าทายขึ้นเป็นกอง

 

Watch Dogs

 

ความหลากหลายยังส่งผลต่อการออกแบบไดอาล็อคบทพูด เพราะทีมงานต้องออกแบบกลางๆ ให้ใครก็ตามสามารถพูดได้ ทำให้มันรู้สึกไม่สุดและตัดอารมณ์อยู่ไม่น้อย อีกทั้งก็ไม่แน่ใจว่าเพราะแบบนี้มันจึงส่งผลต่อการแสดงอารมณ์บนสีหน้าของตัวละครไหม เพราะอันนี้รู้สึกว่าค่อนข้างแย่เลยกับการเป็นเกมทุนหนาแถมยังวางจำหน่ายในปี 2020

 

Watch Dogs

 

ในส่วนของกราฟิกผมว่าไม่แย่ ไม่ขัดตาและยังรู้สึกว่าสวยในหลายๆ ฉาก แต่ก็ไม่ปิดบังความโรยราคล้ายคนชราที่พยายามเปล่งประกายในห้วงสุดท้ายของชีวิต แถมมันยังมาพร้อมระบบแรกดอลล์แปลกๆ เช่นการกระโดดตกลงมาจากที่สูงหรือโดนอะไรบางอย่างกระแทก มันดูเบาๆ โหวงๆ แปลกๆ และต้องเรียนตามตรงว่าเกมเพื่อนบ้านเมื่อ 2 ปีก่อนอย่าง Assassin’s Creed Odyssey ยังทำได้ดีกว่านี้เสียอีก

 

Watch Dogs

 

ภาพรวมของ Watch Dogs Legion ต้องบอกว่าทำได้ตามที่โฆษณาไว้ในเกือบทุกประการ ไม่ว่าจะการนำเสนอความหลายหลายของตัวละครที่ต้องยอมซูฮกในความอินดีเทลและรายละเอียดต่างๆ ตรงนี้ไม่ชมไม่ได้จริงๆ ทำให้ผู้เล่นสามารถสนุกสนานกับ Watch Dogs ในรสชาติที่แปลกตาออกไปแต่รสชาติยังคงมีความดั้งเดิมเจือปนอยู่ แม้ว่ามันจะดูตื้นเขินไปในบางมิติบ้างก็ตาม ถึงอย่างนั้นตัวเกมบิลด์นี้ก็ยังคงเรียกว่าสมบูรณ์ไม่ได้ เพราะเร็วๆ นี้ระบบผู้เล่นหลายคนจะถูกเติมเข้ามา ซึ่งเราจะมารอดูกันว่ามันจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเกมได้ขนาดไหนครับ แต่หากถามตรงๆ ตอนนี้่ว่าสรุปเกมมันโอเคไหม ผมก็ตอบได้เลยว่าคุ้มค่าจะหามาเล่นด้วยประการทั้งปวง

 

Watch Dogs Watch Dogs Watch Dogs Watch Dogs

 

VERDICT
8/10

Watch Dogs Legion รีวิว – เมื่อการทวงคืนอนาคตไม่ใช่งานของคนใดคนหนึ่งแต่หมายถึงทุกผู้ที่กล้าจะต่อต้าน

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้