FIFA 21 กับ 7 สิ่งใหม่ในเกมเพลย์ที่จะทำให้ภาคนี้เป็นมากกว่าแพตช์อัพเดตนักเตะประจำปี
FIFA 21 กับ 7 สิ่งใหม่ในเกมเพลย์ที่จะทำให้ภาคนี้เป็นมากกว่าแพตช์อัพเดตนักเตะประจำปี - แม้ว่าปีนี้วงการฟุตบอลทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากเชื้อ Covid-19 ที่แพร่ระบาด จนต้องเปลี่ยนตารางการแข่งขันจนยุ่งเหยิงไปหมด ทว่าเหล่าเกมฟุตบอลรายปีก็ยังคงต้องวางจำหน่ายตามเวลาเหมือนเดิม โชคยังดีที่หลายๆ ลีคโดยเฉพาะลีคใหญ่ในยุโรปล้วนกลับมาแข่งขันกันอีกรอบจนสามารถปิดฤดูกาลที่คั่งค้างได้ก่อนเกมออก ทำให้ผู้พัฒนาสามารถอัพเดตนักเตะ สเตตัสทีม หรือค่าสถิติต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ทว่าการได้ขึ้นชื่อว่าเกมภาคใหม่ก็คงไม่ได้มีของใหม่เพียงแค่นี้เป็นแน่ (แม้ว่าจะโดนแซวทุกปีก็ตามว่าเหมือนเกมเก่าที่อัพเดตนักเตะเฉยๆ) ซึ่ง ณ เวลานี้ที่ใกล้ช่วงปลายปีไปทุกขณะก็ได้มีการเริ่มทยอยเผยข้อมูลบางส่วนกันออกมาแล้ว
สำหรับเกม FIFA 21 จากทาง EA Sports เองก็เป็นอีกหนึ่งเกมฟุตบอลรายปีที่มีหน้าที่ต้องวางจำหน่ายให้ทันก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้น และตัวผมเองก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม Online Virtual Presentation ซึ่งทาง EA ได้จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกม FIFA 21 แก่สื่อมวลชน ก่อนจะให้ทดสอบเกมได้ราวๆ 3 วันบนเครื่อง PS4 ครับ ซึ่งจากที่นั่งฟังรวมทั้งลองเล่นมาเอง ก็จะมาสรุปแกมเล่าให้ฟังว่า FIFA 21 นั้นมีอะไรใหม่บ้าง เพราะแม้มองผิวเผินมันอาจดูคล้ายเดิมในทุกระเบียดนิ้ว แต่เชื่อเถอะว่าในรายละเอียดระหว่างเล่นเนี่ย ภาคนี้ถูกปรับปรุงจนเห็นได้ชัดเลย
Agile Dribbing
เทคนิคการเลี้ยงบอลรูปแบบใหม่สำหรับสายเลี้ยงกินตัวครับ ในคลิปพรีเซนเทชั่นมีการยกตัวอย่างนักเตะในชีวิตจริง เช่น แบร์นาโด้ ซิลวา ของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งมีสเต็ปเท้าที่รวดเร็วสามารถพาบอลฝ่าทางต้นกองหลังหรือเอาตัวรอดแก้ไขในยามคับขันได้เป็นอย่างดี โดยเทคนิคนี้จะเป็นการใช้ฟุตเวิร์คที่ว่องไวในการหลอกล่อและคอนโทรลลูกบอล ยิ่งนักเตะคนใดมีค่าทักษะการเลี้ยงที่เยอะ ก็ยิ่งสามารถใช้เทคนิคนี้ได้รวดเร็วยิ่งกว่า ผู้บรรยายบอกว่า "แน่นอน... เมื่อคุณคอนโทรลเอ็มบัปเป้หรือเมสซี่ก็จะใช้เทคนิคนี้ได้ไวกว่ารามอสแบบเทียบไม่ติด" อืม... ถือว่าเปรียบซะเห็นภาพ
Positioning Personality
ระบบนี้่คือระบบที่ผมชอบมาก และแม้เหมือนจะเป็นการแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ แต่พอเล่นจริงแล้วมันส่งผลต่อเกมเพลย์พอสมควร เพราะมันคือระบบที่ทำให้ AI ผู้เล่นคนนั้นๆ รู้จุดยืน ตำแหน่ง และความรับผิดชอบของตัวเองมากขึ้น เช่นว่า ผู้เล่นในแนวรุกจะวิ่งเลี้ยงไลน์กองหลังมากขึ้น ไม่ทะเล่อทะล่าพุ่งขึ้นบุกอย่างเดียวจนจ่ายแล้วลํ้าหน้า หรือการรอเข้าฮอสจากลูกเปิด ก็จะมีความพยายามที่จะสลัดกองหลังและหาที่ว่างมากขึ้นกว่าเดิม อย่างในคลิปตัวอย่างจะโชว์การคัตแบคตบเข้ากลางหลังปีกลากบอลถึงเส้นหลัง ซึ่งตัวรอเข้าฮอสกระเถิบตัวกลับมายิงได้อย่างน่าประทับใจ หรือในส่วนของตัวรับการจะมีการมาร์คตัวได้แน่นหนาขึ้น อ่านสถานการณ์ได้ดีขึ้น มีคุณลักษณะขยัน/ขี้เกียจของผู้เล่นตำแหน่งปีกเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกมรับอาจจะแน่นขึ้นหรือยุ่ยลงเพราะปีกขี้เกียจไม่ยอมลงมาช่วยทีมเป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับค่าพลังของนักเตะแต่ละคน ซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถเห็นความต่างระหว่างนักเตะทั่วไปกับระดับท็อปได้มากยิ่งขึ้น
Creative Runs
เป็นคำสั่งที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ทำให้การรับส่งบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำเกมรุกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นคุณต้องการจะชิ่งบอลกับผู้เล่น AI อีกคน แต่หากหมอนั่นวิ่งตรงขึ้นไปตามปกติก็จะเจอแนวรับซ้อนอยู่และมีโอกาสเสียบอล คุณสามารถดันแกนอนาล็อกขวาไปยังทิศที่ต้องการเพื่อสั่งให้ผู้เล่นไปไปในทิศทางที่คุณกำหนดเพื่อถ่ายบอลสู่ที่ว่างได้อย่างเรียลไทม์ จุดนี้ทางทีมพัฒนาเรียกมันว่า Directed Pass/Go หรือในกรณีคล้ายกันแต่เป็นการเข้าทำที่ฉวัดเฉวียนกว่า คือบอลอยู่ที่คุณและปกติถ้าจะแทงบอลทะลุก็ต้องสั่งให้ตัวรุกออกตัววิ่งไป จังหวะนี้ด้วยระบบใหม่คุณสามารถดันแกนอนาล็อคขวาเพื่อเปลี่ยนทางวิ่งตัวรับบอลแบบทันท่วงที ล่อให้แนวรับตั้งตัวไม่ทันได้ง่ายๆ ครับ เรียกว่า Directed Runs นอกจากนี้ยังมี Player Lock ที่เมื่อคุณส่งบอลไปให้เพื่อน AI อีกตัว แล้วคุณสามารถกดอนาล็อค 2 ข้างพร้อมกันเพื่อล็อคตัวที่จะเล่นไว้่ได้ชั่วคราวก่อนวิ่งทำทางในทิศที่ต้องการเพื่อสร้างความได้เปรียบในเกมรุกครับ นับเป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาได้อย่างมีประโยชน์จริงเชียว
Natural Colission System
ฟีเจอร์นี้อาจไม่ใช่ระบบใหม่อะไรนัก แต่ก็มีความสำคัญมากเพราะมันเป็นประหนึ่งการแก้ไขระบบฟิสิกส์กลายๆ ดดยเฉพาะเวลาที่ผู้เล่นมีการเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเป็นภาคเก่าๆ เราก็สามารถดูปัญหาง่ายๆ จากคลิปมีมที่กระจายอยู่ทั่วอินเตอร์เน็ต ซึ่ง FIFA เป็นแบบนี้มาหลายภาค ทว่ากับ FIFA21 นี้มันกำลังจะได้รับการแก้ไข ซึ่งดูจากสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นก็ดูดีทีเดียว ขณะที่ในตอนได้ทดลองเล่นจริงก็ไม่มีปัญหาผู้เล่นล้มระเนระนาดโดยไม่จำเป็นให้เห็นจนแทบลืมไปเลย ก็ถือเป็นเรื่องน่าดีใจที่ทางค่ายแก้ปัญหานี้กันแบบจริงจังเสียที (แต่เอาจริงๆ มีบั๊กบวมๆ แบบนี้ให้ดูมันก็ฮาอยู่เหมือนกันนะ)
Competitor Mode
สำหรับคนที่ชอบแข่งกับ AI และรู้สึกว่าความยากระดับ Legendary มันยังไม่จี๊ดจ๊าดหัวใจพอ ก็ต้องลองนี่เลยครับ Competitor Mode โดยโหมดนี้จะเป็นการจำลองเอาสกิลเพลย์และแผนการเล่นของผู้เล่นเกม FIFA ระดับโปรมาให้ AI ใช้สู้กับคุณ ซึ่งทำให้คุณจะได้เจอกับทริคที่คุณไม่คิดว่า AI จะคิดออกและใช้มันออกมา และแน่นอนว่ามันจะท้าทายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยโหมดนี้จะสามารถเปิดใช้ได้ก็ต่อเมื่อเลือกเล่นในความยากระดับ Legendary เท่านั้นครับ
Fundamental Improvements
หัวข้อนี้เหมือนเป็นการปรับปรุงคุณภาพของเกมโดยรวมไม่ว่าจะเป็นการควบคุม การส่งบอลของตัวผู้เล่น หรือการปรับปรุงท่าทางการเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงการตอบสนองต่อลูกบอล เป็นการอัพเดตในจุดเล็กๆ แต่ขนานใหญ่ และจะส่งผลให้ประสบการณ์การเล่นเกมโดยรวมนั้นสมจริงและสมเหตุสมผลขึ้นอย่างแน่นอน
Community Based Features
จุดนี้ทางทีมงานได้ปรึกษากับผู้เล่น FIFA ระดับโปรหลายต่อหลายคนถึงข้อเสนอแนะต่างๆ รวมถึงจุดใดที่ตัวเกมควรปรับปรุง ซึ่งก็มีข้อเสนอแนะจำนวนมากมายให้ทีมงานได้มานั่งขบคิดกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่อง Toxic หรือการคอนโทรลที่จะทำให้มันมีลูกเล่นมากขึ้น ซึ่งข้อเสนอแนะเหล่านี้หลายๆ อย่างอาจจะถูกเปลี่ยนมาเป็นระบบภายในเกมก็เป็นได้ โดยทีมพัฒนาก็จะทำการพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไปครับ
FIFA 21 มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 9 ตุลาคมนี้ บนเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series X, PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC ครับ