รีวิว Call of Duty: Warzone โหมด Battle Royale ที่รวบรวมข้อดีจากหลายเกม

แชร์เรื่องนี้:
รีวิว Call of Duty: Warzone โหมด Battle Royale ที่รวบรวมข้อดีจากหลายเกม

รีวิว Call of Duty: Warzone โหมด Battle Royale ที่รวบรวมข้อดีจากหลายเกม

     นาทีนี้สายเกมยิงๆ หรือคนที่ชื่นชอบในเกม Battle Royale คงพลาดไม่ได้จริงๆ กับ Call of Duty: Warzone ที่เปิดมาแบบเงียบๆ แต่ทำกระแสฮิตเปรี้ยงปร้างในตอนนี้ แถมความที่ว่าเปิดมาเป็นเกมฟรี แม้คนไม่มี Call of Duty: Modern Warfare ก็สามารถเข้าไปเล่นได้ยิ่งทำให้ยอดผู้เล่นพุ่งกระฉูดเข้าร่วมทดสอบกันมากมาย โดยตัวเกมนั้นจะมีมาให้เล่นใน 2 โหมดนั่นก็คือ Battle Royale และ Plunder ซึ่งในวันนี้จะขอพูดโหมด BR เป็นหลักนะครับ


แผนที่ใหญ่จุใจแถมออกแบบมาดี

     หากคุณเคยเล่นเกม Battle Royale อื่นๆ มาก่อน สิ่งที่พบแทบจะเกือบทุกเกมก็คือ บ้านหรือตึกที่ถูก Copy - Paste ทำให้โครงสร้างบ้านแทบจะเหมือนกันหมด อาจจะมีปรับให้แตกต่างบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมจะดูไม่ต่างกันมาก ต่างจาก Call of Duty: Warzone ที่แต่ละบ้านนั้นมีความแตกต่างกันหมดรวมไปถึงจุดลงหลายๆ จุดที่มีรูปแบบแตกต่างกันเพราะนำฉากในตัวเกมหลักมาใช้ แม้จะเป็นเรื่องยากในการจำด่านโดยเฉพาะพื้นที่ภายในตึก แต่ถือว่าได้ 10/10 ในความไม่จำเจของเรื่องฉากไปเลย แม้จะมีตึกที่ดูซ้ำกันบ้างแต่อยู่ในระดับที่น้อยมากๆ

Battle Royale

รูปแบบตึกที่หลากหลายแม้จะยากในการจดจำ แต่ก็เพิ่มความสนุกได้เป็นอย่างดี


สนับสนุนให้คนเน้นปะทะ เพราะสามารถชุบได้เรื่อยๆ

     เกมแนว Battle Royale ในยุคแรกๆ หากเล่นเป็นทีมแล้วโดนซ้ำล้มจนตายก็จะอดเล่นทันที ได้แต่เป็นผีนั่งเกาะขอบจอดูเพื่อนๆ ภายในทีมเล่น จนเริ่มมี Apex Legends ที่ใส่ระบบชุบชีวิตเพื่อนขึ้นมาได้ หากเพื่อนในทีมเก็บ Dog tag แล้วนำไปยังจุดชุบ ซึ่งทาง Call of Duty: Warzone ได้พัฒนาจุดนี้ไปอีกขั้น เพราะถ้าหากตายเป็นครั้งแรกในรอบนั้นก่อนที่วงที่ 5 จะเริ่มบีบ ตัวผู้เล่นจะถูกส่งไปคุก Gulag ถ้าชนะ 1-1 มาได้ก็จะได้โอกาสกลับมาเกิดอีกครั้ง นอกจากนี้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นที่ยังรอดอยู่ก็สามารถชุบเพื่อนได้ที่ร้านค้าภายในเกมด้วยราคา 4500$ นั่นทำให้การตายในเกมนี้สามารถแก้ไขได้เสมอ เปิดโอกาสให้ผู้เน้นลุยกันมากกว่า

Battle Royale

Gulag อีกระบบที่ทำให้ผู้เล่นกล้าเสี่ยงตายมากขึ้น เพราะยังมีโอกาสในการฟื้นกลับมา


ความง่ายที่ทำให้คนไม่ถนัด Battle Royale ก็เล่นได้

     สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเล่นเกมสไตล์ Battle Royale ปวดหัว ก็คือเรื่องระบบของแต่ละเกมที่มักจะมีความวุ่นวายในการเล่นครั้งแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Mod ปืน ประเภทของกระสุนที่ต้องเก็บมาให้ถูก และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเกม Battle Royale ในยุคหลังๆ ก็เริ่มจะทำระบบเหล่านี้ให้ง่ายขึ้น ซึ่งทาง Call of Duty: Warzone ก็แทบจะตัดระบบที่วุ่นวายเหล่านี้ออกไปทั้งหมด อย่างเรื่องกระสุนก็จะเป็นการเก็บอัตโนมัติถึงลิมิตของแต่ละประเภทกระสุนเอง โดยที่ผู้เล่นไม่ต้องมานั่งพะวงจะเก็บชิ้นนั้นชิ้นนี้อย่างละเท่าไหร่ รวมไปถึงเรื่องปืนที่ Mod ทุกอย่างติดมาให้ในปืนเรียบร้อยขึ้นอยู่กับความแรร์ที่เราเก็บได้ เรียกได้ว่าทุกอย่างอยู่ในหน้าจอของเราทั้งหมด จนไม่มีช่อง Inventory ใหญ่ๆ มาคอยป่วนใจเลยทีเดียว

Battle Royale

เห็นกล่องเยอะๆ แค่วิ่งเข้าไปของก็จะเก็บให้อัตโนมัติทันที และค่อยเลือกเก็บของจำเป็นชิ้นอื่นๆ ต่อ


ระบบ Loadouts ที่ทำให้ผู้เล่นแตกต่าง

     จากปกติในเกม Battle Royale จะมีสิ่งที่เรียกว่า Air Drop ซึ่งมักจะให้ของดีๆ หากยาก แต่ใน Call of Duty: Warzone ได้เปลี่ยนมันเป็น Loadout Drop ซึ่งภายในกล่องนั้นเราสามารถเลือก Loadout ที่เรามีภายในเกมปกติได้ และนั่นจะเป็นการเรียกปืนบางชนิดที่หาไม่ได้ในเกมมาด้วย แม้ตรงจุดนี้จะมีความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นหน้าเก่ากับผู้เล่นหน้าใหม่อยู่บ้าง แต่หากเราฆ่าผู้เล่นเหล่านั้นได้เราก็จะสามารถเก็บปืนดีๆ พวกนี้มาได้เช่นกัน นับเป็นการเพิ่มความหลากหลายของเกมในแต่ละรอบได้ดีมาก

Battle Royale

ปรับแต่งปืนใน Loadouts ได้ตามใจชอบ ตามสไตล์ที่เราอยากเล่น


เน้นปะทะไม่เน้นจุ่มวง

     อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Call of Duty: Warzone นั้นแตกต่างก็คือเรื่องของยาเพิ่มพลังชีวิตที่ไม่มีให้เก็บ (มีแบบเร่งการรีเจนนิดหน่อย) ซึ่งโดยทั่วไปพลังชีวิตจะขึ้นมาเองหลังจากไม่โดนโจมตีสักพัก จะมีให้เก็บก็แค่แผ่นเกราะที่ไว้เติมในเสื้อเราได้ นั่นทำให้เราไม่มียาให้ปั้มเวลาอยู่นอกวงเหมือนเกมอื่นๆ และถึงแม้จะมีหน้ากากกันแก๊ซแต่ก็กันได้ในระดับไม่กี่วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นในเกมนี้ต้องตัดสินใจที่จะเข้าวงตลอดเวลา ไม่มีเทคนิคนั่งจุ่มวงรอบนอกรอปั้มยาเหมือนเกมอื่นๆ

Battle Royale

วงแก๊ซของเกมที่ต้องระวังให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะตายได้ง่ายๆ


ปะทะกันตลอดไม่ค่อยน่าเบื่อ

     ด้วยความที่มีผู้เล่นถึง 150 คน ทำให้เกมนี้ค่อนข้างปะทะกันตลอดเวลา รวมไปถึงมีเรดาร์ที่จะเห็นศัตรูที่ยิงใกล้ๆ เราขึ้นในแผนที่ ทำให้โอกาสที่จะโดนโจมตีมีสูงขึ้น และภารกิจในการล่าฆ่าหัวคนอื่นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในช่วงวงท้ายๆ วงจะเริ่มบีบเร็วมาก ทำให้การปะทะแทบจะไม่หยุดและมีให้เห็นตลอดระหว่างเล่นเกม เป็นอีกหนึ่งความสนุกของเกมสำหรับคนที่ชอบเล่นสายบู๊เน้นลุยจริงๆ

Battle Royale

การปะทะโดยเฉพาะในช่วงใกล้ววงท้ายๆ แทบจะไม่มีเวลาพักหายใจ


     โดยรวม Call of Duty: Warzone ในโหมด Battle Royale นั้น ทำออกมาได้สนุกดีพอสมควร โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเล่นแบบไม่ซีเรียสจริงจังมากนักก็สามารถเข้ามาเล่นได้ อีกทั้งยังได้เกมภาพแบบ Call of Duty ที่เล่นได้ฟรีๆ นับได้ว่าเป็นประสบการณ์การเล่นที่ดีมากเลยทีเดียว แม้อาจจะไม่ถูกใจคอ Battle Royale ที่ชอบความกดดันมากนัก แต่ถ้านับความสนุกความมันแล้วละก็ Call of Duty: Warzone นั้นไม่แพ้ใครจริงๆ จะมีก็เพียงปัญหาเรื่อง Server ที่อาจจะทำให้ชวนเซ็งอยู่บ้างแต่คิดว่าในอนาคตคงแก้ไขได้ไม่ยากแน่นอน

สรุปสั้นๆ Call of Duty: Warzone

ข้อดี
- เข้าใจได้ง่ายไม่วุ่นวายในรายละเอียดมากนัก
- ชุบได้เรื่อยๆ ทำให้ร่วมลุ้นกับเพื่อนได้ดีกว่า ไม่ค่อยเจอสถานการณ์เล่นน้อยคอยนาน
- แอคชั่นสนุกไม่ยืดเยื้อ เหมาะกับสายชอบลุย
- มีลูกเล่นค่อนข้างเยอะ ทั้งภารกิจต่างๆ ในฉาก การเก็บเงินซื้อของ ทำให้ไม่จำเจ

ข้อเสีย
- มีความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นเก่ากับใหม่ในเรื่องของอาวุธบ้าง
- มีปัญหาเรื่องเซิฟเวอร์เป็นบางครั้ง (ณ ตอนนี้)
- มีแต่เล่นแบบทีม 3 ไม่มีตัวเลือกอื่นให้เล่น

Battle Royale

Battle Royale

True Super Fiber Gamer Pro Pack

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ