ครบรอบ 25 ปี Chrono Trigger กับความลับในเกมที่หลายคนอาจยังไม่รู้ by OS

ครบรอบ 25 ปี Chrono Trigger กับความลับในเกมที่หลายคนอาจยังไม่รู้

ย้อนไปในวันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ได้มีเกม RPG ระดับตำนานที่มีชื่อว่า Chrono Trigger ถูกวางจำหน่ายออกสู่ตลาด ด้วยรูปแบบการผจญภัยและการต่อสู้ที่แปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังได้อาจารย์อากิระ โทริยาม่า ผู้วาดการ์ตูนดราก้อนบอลมาเป็นผู้ดีไซน์ตัวละครและมอนสเตอร์ให้เกมดังกล่าวอีกด้วย และทุกวันนี้แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 2 ทศวรรษแล้ว แต่ตัวเกมก็ยังคงมีการพอร์ตลงแพลตฟอร์มยุคปัจจุบันอย่างสมาร์ทโฟนกันอยู่

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ทางเราก็ขอรำลึกครบรอบ 25 ปีของเกม Chrono Trigger ด้วยการนำเสนอความลับและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเกมนี้มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับ

ความลับต่าง ๆ ในเกม

เกมนี้มีฉากจบทั้งหมด 13 แบบ โดยมีเงื่อนไขในการจบดังนี้

Beyond Time - ปราบลาวอสหลังจากที่ชุบชีวิตโครโน่สำเร็จแล้ว
Reunion - ปราบลาวอสในช่วงที่โครโน่ตายไปแล้ว และยังไม่ได้ทำการชุบชีวิตให้
The Dream Project - ปราบลาวอสที่อยู่ในพระราชวังใต้สมุทร หรือเล่น New Game+ จนถึงได้มาร์ลเป็นพวก แล้วพอเจอลุคก้ากำลังทดสอบเครื่องเทเลพอร์ต ก็ให้เข้าไปสำรวจเครื่องเทเลพอร์ตตัวขวามือเพื่อเข้าไปปราบลาวอสทันที
The Successor of Guardia - หลังจากช่วยองค์หญิงลีเน่และมาร์ลในยุค A.D. 600 ได้แล้ว ก็ให้ไปปราบลาวอสก่อนที่เราจะดำเนินเนื้อเรื่องถึงตอนที่เราเดินทางไปเจอจุดสิ้นสุดของกาลเวลา (The End of Time)
Good Night - ปราบลาวอสหลังจากมาถึง The End of Time โดยที่ยังไม่ดำเนินเนื้อเรื่องไปถึงช่วงที่ต้องเดินทางไปยังยุค A.D. 600 อีกรอบ
The Legendary Hero - ปราบลาวอสหลังจากกลับมายังยุค A.D. 600 อีกรอบ โดยที่ยังไม่ดำเนินเนื้อเรื่องไปถึงตอนที่ได้ไอเทม Hero's Badge
The Unknown Past - ปราบลาวอสหลังจากได้ไอเทม Hero's Badge โดยที่ยังไม่ดำเนินเนื้อเรื่องไปถึงตอนที่ไอเทม Gate Key โดนคิโน่ (น้องชายของไอล่า) ขโมยไป
People of the Times - ปราบลาวอสหลังจากได้ไอเทม Gate Key กลับคืนมาแล้ว โดยที่ยังไม่ดำเนินเนื้อเรื่องไปถึงตอนที่มอบดาบมาซามุเนะที่ซ่อมเสร็จแล้วคืนให้กับอัศวินกบ (Frog)
The Oath - ปราบลาวอสหลังจากมอบดาบมาซามุเนะที่ซ่อมเสร็จแล้วคืนให้กับอัศวินกบ แต่ยังไม่ได้ไปปราบจอมมาร (Magus)
Dino Age - ปราบลาวอสหลังจากชนะจอมมารได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเผชิญหน้ากับอาซาล่า
What the Prophet Seeks - ปราบลาวอสหลังจากชนะอาซาล่าได้แล้ว แต่ยังไม่ได้เห็นฉากที่ชาล่า (พี่สาวของจอมมาร) ใช้สร้อยเปิดประตู
Memory Lane - ปราบลาวอสหลังจากเห็นชาล่าใช้สร้อยเปิดประตูแล้ว แต่ยังไม่ได้เอาสร้อยของมาร์ลไปอาบแสง
Day of Lavos - สู้แล้วลาวอสแล้วแพ้

ช่วงท้ายเกม ตอนที่เราลุยในดันเจี้ยน Black Omen จะมีอยู่ห้องนึงที่เราจะเจอกับมอนสเตอร์ Blubber Hulk (ตามรูปด้านล่าง) ให้เข้าไปสู้กับมันแล้วใช้ท่า Charm ของไอล่าเพื่อขโมยเอา Strength Capsule จากมันมา (กดใช้กับตัวละครใดก็ได้แล้วจะเพิ่มค่า Strength 1 พอยต์แบบถาวร) จากนั้นก็ให้หนีจากการต่อสู้ ออกจากห้องแล้วเข้ามาใหม่ >> สู้กับมัน >> ขโมย >> หนี โดยผู้เล่นสามารถทำวนแบบนี้จนกว่าเราจะปั๊มค่า Strength ตัวละครจนติดดาวได้ทุกตัวเลย

เกร็ดเล็กน้อยต่าง ๆ ในเกม

Ozzie (ออซซี่) , Slash (สแลช) และ Flea (เฟลีย) ลูกน้องทั้งสามของ Magus (จอมมาร) เป็นการตั้งชื่อตามนักดนตรีชื่อดังของโลกครับ ได้แก่ Ozzie Osbourne (ออสซี่ ออสบอร์น) อดีตนักร้องนำของวง Black Sabbath ส่วน Slash ก็เคยเป็นมือกีตาร์ของวง Guns n' Roses กับ Velvet Revolver และสุดท้าย Flea ก็คือมือเบสของวง Red Hot Chili Peppers นั่นเองครับ

จากข้อข้างบน ถ้าเป็นเกม Chrono Trigger ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ตัวละคร Ozzie, Slash และ Flea จะใช้เป็นชื่อ บีเนเกอร์ (แผลงมาจาก Vinegar ที่แปลว่าน้ำส้มสายชู), ซอยโซ (แผลงมาจาก Soy Soyce ที่หมายถึงซอสถั่วเหลืองหรือโชยุ) และ มาโยเน่ (แผลงมาจาก Mayonnaise ที่แปลว่ามายองเนส) ตามลำดับแทน

(ล่าง) สแลช, ออซซี่ และ เฟลีย ในเกม เรียงจากซ้ายไปขวา

(ล่าง) ออซซี่ ออสบอร์น, สแลช และ เฟลีย เรียงจากซ้ายไปขวา

นักปราชญ์ในเกมทั้งสาม ได้แก่ Melchior, Gaspar และ Belthasar ต่างก็เป็นการนำชื่อมาจากชาย 3 คนตามตำนานของศาสนาคริสต์ครับ

(ล่าง) Belthasar, Gaspar และ Melchior ในเกม เรียงจากซ้ายไปขวา

ชื่อของ ไอล่า (Ayla) หนึ่งในเพื่อนของโครโน่ ผู้มาจากยุคดึกดำบรรพ์ 65 ล้านปีก่อน มีที่มาจากการอ้างอิงซีรีส์นวนิยายของ Jean M. Auel (ฌอง เอ็ม อวล) นักแต่งนิยายชาวอเมริกัน เรื่อง Earth's Children ที่เล่าถึงหญิงคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งหญิงคนนั้นก็ชื่อไอล่าด้วยเช่นกัน

(ล่าง) ไอล่าในเกม Chrono Trigger